ทอท. คาดผู้โดยสาร 3.18 ล้านคนใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่งของ ทอท.ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562

กรุงเทพ ฯ 25 ธ.ค. – บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) คาดการณ์ปริมาณการจราจรทางอากาศช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2561 – 2 มกราคม 2562 มีผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท.จำนวน 3.18 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.8 และมีเที่ยวบิน 18,300 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งท่าอากาศยานของ ทอท.มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร และได้จัดกิจกรรมต้อนรับผู้โดยสารตลอดช่วงเทศกาลดังกล่าวด้วย


นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2562 ทอท.คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่งของ ทอท.ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2561) ประมาณ 3.18 ล้านคน หรือเฉลี่ยประมาณ 453,600 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.8 และมีเที่ยวบินประมาณ 18,300 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 2,610 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยที่ ทสภ.มีปริมาณการจราจรทางอากาศมากที่สุด คือ คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 1.52 ล้านคน หรือเฉลี่ยประมาณ 217,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3 และมีเที่ยวบินประมาณ 8,000 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 1,140 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3 ส่วนที่ ทดม.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 887,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 126,700 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.7 และมีเที่ยวบินประมาณ 5,400 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 770 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.2

สำหรับท่าอากาศยานอีก 4 แห่งคาดว่าจะมีผู้โดยสารจำนวนมากเช่นกันเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน คือ ที่ ทภก.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 365,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 52,100 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 และมีเที่ยวบินประมาณ 2,200 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 310 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 ด้าน ทชม.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 246,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 35,100 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0 และมีเที่ยวบินประมาณ 1,700 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 240 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.6 ส่วนที่ ทหญ.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 86,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 12,300 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 และมีเที่ยวบินประมาณ 600 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 90 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 และที่ ทชร.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 73,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 10,400 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.8 และมีเที่ยวบินประมาณ 400 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 60 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5


นายนิตินัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านการเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร  ทอท.ได้ร่วมกับหน่วยงานในท่าอากาศยานอำนวยความสะดวกผู้โดยสารในขั้นตอนต่างๆ คือ การจัดพิธีปล่อยแถวการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมต้อนรับผู้โดยสารเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ณ ทสภ. ทดม. ทภก.และ ทชร. จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ณ ทสภ. ทดม.และ ทภก.เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือกับ


ส่วนงานราชการ สายการบินและผู้ประกอบการในการอำนวยความสะดวกในกระบวนการเดินทางของผู้โดยสาร 

ทั้งขาเข้าและขาออกตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ ตลอด 24 ชั่วโมง มีรายละเอียดคือ

–  ที่ ทสภ.จัดตั้งศูนย์ฯ ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2561 – 4 มกราคม 2562 ณ ห้อง CIP 5 บริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร ทสภ. 

–  ที่ ทดม.จัดตั้งศูนย์ฯ ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2561 – 7 มกราคม 2562 บริเวณห้องปฏิบัติงานเวรบริการข้อมูลข่าวสารการบิน (AIS) ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2 (ใกล้กับห้องศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทดม.) และยังได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเก็บรถเข็นกระเป๋าเป็น 60 คนต่อวัน รวมทั้งเพิ่มรถเข็นกระเป๋าขนาดกลางเป็นจำนวน 2,500 คัน ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่จัดเรียงและขนย้ายกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารให้เป็นระเบียบและง่ายต่อการค้นหา ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง และในส่วนของพื้นที่ช่องตรวจศุลกากร ทดม.ได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่และช่องตรวจสัมภาระผู้โดยสาร โดยเพิ่มช่องไม่มีสิ่งของต้องสำแดง จาก 1 ช่องเป็น 2 ช่อง ณ บริเวณช่องตรวจศุลกากรผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 1 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ทดม. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารได้รับการตรวจสัมภาระได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น 

–  สำหรับ ทภก.จัดศูนย์ฯ ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2561 – 7 มกราคม 2562 บริเวณด้านทิศเหนือ ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ 

–  ในส่วนของ ทชม. ทชร.และ ทหญ.ได้จัดตั้งศูนย์รักษาความปลอดภัย เป็นศูนย์ปลอดภัยคมนาคมทางอากาศ เพื่อประสานงานข่าว การอำนวยความสะดวกการรักษาความปลอดภัย และการติดต่อประสานงานเร่งด่วนอื่นๆ 

นอกจากนั้น มีการยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ให้แก่ผู้โดยสารที่นำรถมาจอดในพื้นที่ที่จัดไว้ ณ ทสภ.และ ทดม.ดังนี้

–  ที่ ทสภ.จะยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ของวันที่ 28 ธันวาคม 2561 ถึงเวลา 17.00 น.ของวันที่ 2 มกราคม 2562 ในพื้นที่ลานจอดรถระยะยาวโซน C 

–  ที่ ทดม.ได้จัดพื้นที่จอดรถยนต์สำหรับให้บริการผู้โดยสาร จำนวน 4 จุด โดยไม่คิดค่าบริการ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2561 – 2 มกราคม 2562 ได้แก่ (1) อาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น เฉพาะชั้น 2 (2) ลานจอดรถยนต์หน้าอาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น (3) ลานจอดรถยนต์ระหว่างอาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น และคลังสินค้า 3 และ (4) ลานจอดรถยนต์ฝ่ายสนามบินและอาคาร โดยมีรถเวียน (Shuttle Bus) สำหรับวิ่งให้บริการรับ – ส่ง ผู้โดยสารระหว่างที่จอดรถ กับอาคารผู้โดยสาร ทุกๆ 15 นาที บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่คิดค่าบริการ  

นายนิตินัย กล่าวว่า นอกจากการอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ แล้ว ทอท.ยังได้เพิ่มความเข้มงวดในด้านการรักษาความปลอดภัย โดยได้เพิ่มวงรอบในการตรวจตระเวนระงับเหตุ รวมทั้งประสานร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ ด้านการข่าว รวมทั้งขอความร่วมมือจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สายการบิน และผู้ประกอบการในท่าอากาศยานเฝ้าสังเกตพื้นที่ ทั้งนี้ ในส่วนของ ทหญ.ซึ่งมีมาตรการการรักษาความปลอดภัยด้วยการขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ ทหญ.แสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรที่ราชการออกให้ต่อเจ้าหน้าที่ประจำช่องทางรักษาการณ์ ณ ทหญ. โดยได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 นั้น ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทหญ.ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารหรือบัตรแสดงตน และตรวจสอบทะเบียนยานพาหนะ (ผู้ที่ไม่มีบัตรแสดงตนและทะเบียนของยานพาหนะไม่ถูกต้อง ไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ ทหญ.)

นายนิตินัย กล่าวว่า ทอท.ยังร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยการจัดกิจกรรมและตกแต่งอาคารผู้โดยสารในบรรยากาศคริสมาสต์และปีใหม่ สร้างความประทับใจแก่ผู้โดยสาร โดยที่ ทสภ.จัดตั้งต้นคริสต์มาสสูง 12 เมตร บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 5 จัดซุ้มถ่ายภาพบริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ชั้น 2 ประตู 1 จนถึงวันที่ 5 มกราคม 2562 และจัดกิจกรรมให้มีซานตาคลอสมอบของที่ระลึกให้กับผู้โดยสารในระหว่างวันที่ 24 – 26 ธันวาคม 2561 ทดม.จัดขบวนพาเหรดในวันที่ 25 และ 28 ธันวาคม 2561 และตั้งต้นคริสมาสต์บริเวณเคาน์เตอร์เช็คอิน Row 11 และ 12 จนถึงวันที่ 15 มกราคม 2562 ทภก.จัดกิจกรรมสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวในเทศกาลคริสมาสต์ ณ ห้องโถงเช็คอิน ผู้โดยสารขาออก ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ในวันที่ 25 ธันวาคม 2561 ทชม.จัดการแสดงและดนตรีในรูปแบบล้านนา และตกแต่งภายในอาคารผู้โดยสาร จนถึงวันที่ 7 มกราคม 2562 ทหญ.จะจัดแสดงดนตรีสด มายากล การแต่งกายซานตาคลอส ณ บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ พร้อมแจกของที่ระลึกให้กับผู้โดยสารเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 เวลา 11.00 น. – 12.00 น.รวมทั้งประดับตกแต่งพื้นที่และจุดถ่ายภาพ ณ บริเวณภายในและภายนอกอาคารผู้โดยสาร จนถึงวันที่ 10 มกราคม 2562 และ ทชร.ได้ปรับภูมิทัศน์โดยการนำดอกไม้มาประดับตกแต่งภายในห้องผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ พร้อมจัดจุดถ่ายภาพบริเวณหน้าห้องผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2561 – 2 มกราคม 2562 และจะมีกิจกรรมสวัสดีปีใหม่ต้อนรับผู้โดยสารในวันที่ 1 มกราคม 2562 และเนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีผู้มาใช้บริการท่าอากาศยานของ ทอท.จำนวนมาก ดังนั้น ทอท.จึงขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 2 – 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย