ทอท. คาดผู้โดยสาร 3.18 ล้านคนใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่งของ ทอท.ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562

กรุงเทพ ฯ 25 ธ.ค. – บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) คาดการณ์ปริมาณการจราจรทางอากาศช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2561 – 2 มกราคม 2562 มีผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท.จำนวน 3.18 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.8 และมีเที่ยวบิน 18,300 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งท่าอากาศยานของ ทอท.มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร และได้จัดกิจกรรมต้อนรับผู้โดยสารตลอดช่วงเทศกาลดังกล่าวด้วย


นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2562 ทอท.คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่งของ ทอท.ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2561) ประมาณ 3.18 ล้านคน หรือเฉลี่ยประมาณ 453,600 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.8 และมีเที่ยวบินประมาณ 18,300 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 2,610 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยที่ ทสภ.มีปริมาณการจราจรทางอากาศมากที่สุด คือ คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 1.52 ล้านคน หรือเฉลี่ยประมาณ 217,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3 และมีเที่ยวบินประมาณ 8,000 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 1,140 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3 ส่วนที่ ทดม.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 887,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 126,700 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.7 และมีเที่ยวบินประมาณ 5,400 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 770 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.2

สำหรับท่าอากาศยานอีก 4 แห่งคาดว่าจะมีผู้โดยสารจำนวนมากเช่นกันเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน คือ ที่ ทภก.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 365,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 52,100 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 และมีเที่ยวบินประมาณ 2,200 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 310 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 ด้าน ทชม.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 246,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 35,100 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0 และมีเที่ยวบินประมาณ 1,700 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 240 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.6 ส่วนที่ ทหญ.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 86,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 12,300 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 และมีเที่ยวบินประมาณ 600 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 90 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 และที่ ทชร.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 73,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 10,400 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.8 และมีเที่ยวบินประมาณ 400 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 60 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5


นายนิตินัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านการเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร  ทอท.ได้ร่วมกับหน่วยงานในท่าอากาศยานอำนวยความสะดวกผู้โดยสารในขั้นตอนต่างๆ คือ การจัดพิธีปล่อยแถวการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมต้อนรับผู้โดยสารเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ณ ทสภ. ทดม. ทภก.และ ทชร. จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ณ ทสภ. ทดม.และ ทภก.เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือกับ


ส่วนงานราชการ สายการบินและผู้ประกอบการในการอำนวยความสะดวกในกระบวนการเดินทางของผู้โดยสาร 

ทั้งขาเข้าและขาออกตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ ตลอด 24 ชั่วโมง มีรายละเอียดคือ

–  ที่ ทสภ.จัดตั้งศูนย์ฯ ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2561 – 4 มกราคม 2562 ณ ห้อง CIP 5 บริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร ทสภ. 

–  ที่ ทดม.จัดตั้งศูนย์ฯ ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2561 – 7 มกราคม 2562 บริเวณห้องปฏิบัติงานเวรบริการข้อมูลข่าวสารการบิน (AIS) ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2 (ใกล้กับห้องศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทดม.) และยังได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเก็บรถเข็นกระเป๋าเป็น 60 คนต่อวัน รวมทั้งเพิ่มรถเข็นกระเป๋าขนาดกลางเป็นจำนวน 2,500 คัน ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่จัดเรียงและขนย้ายกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารให้เป็นระเบียบและง่ายต่อการค้นหา ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง และในส่วนของพื้นที่ช่องตรวจศุลกากร ทดม.ได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่และช่องตรวจสัมภาระผู้โดยสาร โดยเพิ่มช่องไม่มีสิ่งของต้องสำแดง จาก 1 ช่องเป็น 2 ช่อง ณ บริเวณช่องตรวจศุลกากรผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 1 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ทดม. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารได้รับการตรวจสัมภาระได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น 

–  สำหรับ ทภก.จัดศูนย์ฯ ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2561 – 7 มกราคม 2562 บริเวณด้านทิศเหนือ ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ 

–  ในส่วนของ ทชม. ทชร.และ ทหญ.ได้จัดตั้งศูนย์รักษาความปลอดภัย เป็นศูนย์ปลอดภัยคมนาคมทางอากาศ เพื่อประสานงานข่าว การอำนวยความสะดวกการรักษาความปลอดภัย และการติดต่อประสานงานเร่งด่วนอื่นๆ 

นอกจากนั้น มีการยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ให้แก่ผู้โดยสารที่นำรถมาจอดในพื้นที่ที่จัดไว้ ณ ทสภ.และ ทดม.ดังนี้

–  ที่ ทสภ.จะยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ของวันที่ 28 ธันวาคม 2561 ถึงเวลา 17.00 น.ของวันที่ 2 มกราคม 2562 ในพื้นที่ลานจอดรถระยะยาวโซน C 

–  ที่ ทดม.ได้จัดพื้นที่จอดรถยนต์สำหรับให้บริการผู้โดยสาร จำนวน 4 จุด โดยไม่คิดค่าบริการ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2561 – 2 มกราคม 2562 ได้แก่ (1) อาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น เฉพาะชั้น 2 (2) ลานจอดรถยนต์หน้าอาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น (3) ลานจอดรถยนต์ระหว่างอาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น และคลังสินค้า 3 และ (4) ลานจอดรถยนต์ฝ่ายสนามบินและอาคาร โดยมีรถเวียน (Shuttle Bus) สำหรับวิ่งให้บริการรับ – ส่ง ผู้โดยสารระหว่างที่จอดรถ กับอาคารผู้โดยสาร ทุกๆ 15 นาที บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่คิดค่าบริการ  

นายนิตินัย กล่าวว่า นอกจากการอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ แล้ว ทอท.ยังได้เพิ่มความเข้มงวดในด้านการรักษาความปลอดภัย โดยได้เพิ่มวงรอบในการตรวจตระเวนระงับเหตุ รวมทั้งประสานร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ ด้านการข่าว รวมทั้งขอความร่วมมือจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สายการบิน และผู้ประกอบการในท่าอากาศยานเฝ้าสังเกตพื้นที่ ทั้งนี้ ในส่วนของ ทหญ.ซึ่งมีมาตรการการรักษาความปลอดภัยด้วยการขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ ทหญ.แสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรที่ราชการออกให้ต่อเจ้าหน้าที่ประจำช่องทางรักษาการณ์ ณ ทหญ. โดยได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 นั้น ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทหญ.ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารหรือบัตรแสดงตน และตรวจสอบทะเบียนยานพาหนะ (ผู้ที่ไม่มีบัตรแสดงตนและทะเบียนของยานพาหนะไม่ถูกต้อง ไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ ทหญ.)

นายนิตินัย กล่าวว่า ทอท.ยังร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยการจัดกิจกรรมและตกแต่งอาคารผู้โดยสารในบรรยากาศคริสมาสต์และปีใหม่ สร้างความประทับใจแก่ผู้โดยสาร โดยที่ ทสภ.จัดตั้งต้นคริสต์มาสสูง 12 เมตร บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 5 จัดซุ้มถ่ายภาพบริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ชั้น 2 ประตู 1 จนถึงวันที่ 5 มกราคม 2562 และจัดกิจกรรมให้มีซานตาคลอสมอบของที่ระลึกให้กับผู้โดยสารในระหว่างวันที่ 24 – 26 ธันวาคม 2561 ทดม.จัดขบวนพาเหรดในวันที่ 25 และ 28 ธันวาคม 2561 และตั้งต้นคริสมาสต์บริเวณเคาน์เตอร์เช็คอิน Row 11 และ 12 จนถึงวันที่ 15 มกราคม 2562 ทภก.จัดกิจกรรมสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวในเทศกาลคริสมาสต์ ณ ห้องโถงเช็คอิน ผู้โดยสารขาออก ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ในวันที่ 25 ธันวาคม 2561 ทชม.จัดการแสดงและดนตรีในรูปแบบล้านนา และตกแต่งภายในอาคารผู้โดยสาร จนถึงวันที่ 7 มกราคม 2562 ทหญ.จะจัดแสดงดนตรีสด มายากล การแต่งกายซานตาคลอส ณ บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ พร้อมแจกของที่ระลึกให้กับผู้โดยสารเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 เวลา 11.00 น. – 12.00 น.รวมทั้งประดับตกแต่งพื้นที่และจุดถ่ายภาพ ณ บริเวณภายในและภายนอกอาคารผู้โดยสาร จนถึงวันที่ 10 มกราคม 2562 และ ทชร.ได้ปรับภูมิทัศน์โดยการนำดอกไม้มาประดับตกแต่งภายในห้องผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ พร้อมจัดจุดถ่ายภาพบริเวณหน้าห้องผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2561 – 2 มกราคม 2562 และจะมีกิจกรรมสวัสดีปีใหม่ต้อนรับผู้โดยสารในวันที่ 1 มกราคม 2562 และเนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีผู้มาใช้บริการท่าอากาศยานของ ทอท.จำนวนมาก ดังนั้น ทอท.จึงขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 2 – 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย