ทอท. คาดผู้โดยสาร 3.18 ล้านคนใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่งของ ทอท.ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562

กรุงเทพ ฯ 25 ธ.ค. – บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) คาดการณ์ปริมาณการจราจรทางอากาศช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2561 – 2 มกราคม 2562 มีผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท.จำนวน 3.18 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.8 และมีเที่ยวบิน 18,300 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งท่าอากาศยานของ ทอท.มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร และได้จัดกิจกรรมต้อนรับผู้โดยสารตลอดช่วงเทศกาลดังกล่าวด้วย


นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2562 ทอท.คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่งของ ทอท.ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2561) ประมาณ 3.18 ล้านคน หรือเฉลี่ยประมาณ 453,600 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.8 และมีเที่ยวบินประมาณ 18,300 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 2,610 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยที่ ทสภ.มีปริมาณการจราจรทางอากาศมากที่สุด คือ คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 1.52 ล้านคน หรือเฉลี่ยประมาณ 217,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3 และมีเที่ยวบินประมาณ 8,000 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 1,140 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3 ส่วนที่ ทดม.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 887,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 126,700 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.7 และมีเที่ยวบินประมาณ 5,400 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 770 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.2

สำหรับท่าอากาศยานอีก 4 แห่งคาดว่าจะมีผู้โดยสารจำนวนมากเช่นกันเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน คือ ที่ ทภก.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 365,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 52,100 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 และมีเที่ยวบินประมาณ 2,200 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 310 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 ด้าน ทชม.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 246,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 35,100 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0 และมีเที่ยวบินประมาณ 1,700 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 240 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.6 ส่วนที่ ทหญ.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 86,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 12,300 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 และมีเที่ยวบินประมาณ 600 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 90 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 และที่ ทชร.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 73,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 10,400 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.8 และมีเที่ยวบินประมาณ 400 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 60 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5


นายนิตินัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านการเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร  ทอท.ได้ร่วมกับหน่วยงานในท่าอากาศยานอำนวยความสะดวกผู้โดยสารในขั้นตอนต่างๆ คือ การจัดพิธีปล่อยแถวการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมต้อนรับผู้โดยสารเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ณ ทสภ. ทดม. ทภก.และ ทชร. จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ณ ทสภ. ทดม.และ ทภก.เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือกับ


ส่วนงานราชการ สายการบินและผู้ประกอบการในการอำนวยความสะดวกในกระบวนการเดินทางของผู้โดยสาร 

ทั้งขาเข้าและขาออกตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ ตลอด 24 ชั่วโมง มีรายละเอียดคือ

–  ที่ ทสภ.จัดตั้งศูนย์ฯ ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2561 – 4 มกราคม 2562 ณ ห้อง CIP 5 บริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร ทสภ. 

–  ที่ ทดม.จัดตั้งศูนย์ฯ ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2561 – 7 มกราคม 2562 บริเวณห้องปฏิบัติงานเวรบริการข้อมูลข่าวสารการบิน (AIS) ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2 (ใกล้กับห้องศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทดม.) และยังได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเก็บรถเข็นกระเป๋าเป็น 60 คนต่อวัน รวมทั้งเพิ่มรถเข็นกระเป๋าขนาดกลางเป็นจำนวน 2,500 คัน ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่จัดเรียงและขนย้ายกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารให้เป็นระเบียบและง่ายต่อการค้นหา ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง และในส่วนของพื้นที่ช่องตรวจศุลกากร ทดม.ได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่และช่องตรวจสัมภาระผู้โดยสาร โดยเพิ่มช่องไม่มีสิ่งของต้องสำแดง จาก 1 ช่องเป็น 2 ช่อง ณ บริเวณช่องตรวจศุลกากรผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 1 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ทดม. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารได้รับการตรวจสัมภาระได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น 

–  สำหรับ ทภก.จัดศูนย์ฯ ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2561 – 7 มกราคม 2562 บริเวณด้านทิศเหนือ ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ 

–  ในส่วนของ ทชม. ทชร.และ ทหญ.ได้จัดตั้งศูนย์รักษาความปลอดภัย เป็นศูนย์ปลอดภัยคมนาคมทางอากาศ เพื่อประสานงานข่าว การอำนวยความสะดวกการรักษาความปลอดภัย และการติดต่อประสานงานเร่งด่วนอื่นๆ 

นอกจากนั้น มีการยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ให้แก่ผู้โดยสารที่นำรถมาจอดในพื้นที่ที่จัดไว้ ณ ทสภ.และ ทดม.ดังนี้

–  ที่ ทสภ.จะยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ของวันที่ 28 ธันวาคม 2561 ถึงเวลา 17.00 น.ของวันที่ 2 มกราคม 2562 ในพื้นที่ลานจอดรถระยะยาวโซน C 

–  ที่ ทดม.ได้จัดพื้นที่จอดรถยนต์สำหรับให้บริการผู้โดยสาร จำนวน 4 จุด โดยไม่คิดค่าบริการ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2561 – 2 มกราคม 2562 ได้แก่ (1) อาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น เฉพาะชั้น 2 (2) ลานจอดรถยนต์หน้าอาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น (3) ลานจอดรถยนต์ระหว่างอาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น และคลังสินค้า 3 และ (4) ลานจอดรถยนต์ฝ่ายสนามบินและอาคาร โดยมีรถเวียน (Shuttle Bus) สำหรับวิ่งให้บริการรับ – ส่ง ผู้โดยสารระหว่างที่จอดรถ กับอาคารผู้โดยสาร ทุกๆ 15 นาที บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่คิดค่าบริการ  

นายนิตินัย กล่าวว่า นอกจากการอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ แล้ว ทอท.ยังได้เพิ่มความเข้มงวดในด้านการรักษาความปลอดภัย โดยได้เพิ่มวงรอบในการตรวจตระเวนระงับเหตุ รวมทั้งประสานร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ ด้านการข่าว รวมทั้งขอความร่วมมือจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สายการบิน และผู้ประกอบการในท่าอากาศยานเฝ้าสังเกตพื้นที่ ทั้งนี้ ในส่วนของ ทหญ.ซึ่งมีมาตรการการรักษาความปลอดภัยด้วยการขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ ทหญ.แสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรที่ราชการออกให้ต่อเจ้าหน้าที่ประจำช่องทางรักษาการณ์ ณ ทหญ. โดยได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 นั้น ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทหญ.ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารหรือบัตรแสดงตน และตรวจสอบทะเบียนยานพาหนะ (ผู้ที่ไม่มีบัตรแสดงตนและทะเบียนของยานพาหนะไม่ถูกต้อง ไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ ทหญ.)

นายนิตินัย กล่าวว่า ทอท.ยังร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยการจัดกิจกรรมและตกแต่งอาคารผู้โดยสารในบรรยากาศคริสมาสต์และปีใหม่ สร้างความประทับใจแก่ผู้โดยสาร โดยที่ ทสภ.จัดตั้งต้นคริสต์มาสสูง 12 เมตร บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 5 จัดซุ้มถ่ายภาพบริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ชั้น 2 ประตู 1 จนถึงวันที่ 5 มกราคม 2562 และจัดกิจกรรมให้มีซานตาคลอสมอบของที่ระลึกให้กับผู้โดยสารในระหว่างวันที่ 24 – 26 ธันวาคม 2561 ทดม.จัดขบวนพาเหรดในวันที่ 25 และ 28 ธันวาคม 2561 และตั้งต้นคริสมาสต์บริเวณเคาน์เตอร์เช็คอิน Row 11 และ 12 จนถึงวันที่ 15 มกราคม 2562 ทภก.จัดกิจกรรมสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวในเทศกาลคริสมาสต์ ณ ห้องโถงเช็คอิน ผู้โดยสารขาออก ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ในวันที่ 25 ธันวาคม 2561 ทชม.จัดการแสดงและดนตรีในรูปแบบล้านนา และตกแต่งภายในอาคารผู้โดยสาร จนถึงวันที่ 7 มกราคม 2562 ทหญ.จะจัดแสดงดนตรีสด มายากล การแต่งกายซานตาคลอส ณ บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ พร้อมแจกของที่ระลึกให้กับผู้โดยสารเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 เวลา 11.00 น. – 12.00 น.รวมทั้งประดับตกแต่งพื้นที่และจุดถ่ายภาพ ณ บริเวณภายในและภายนอกอาคารผู้โดยสาร จนถึงวันที่ 10 มกราคม 2562 และ ทชร.ได้ปรับภูมิทัศน์โดยการนำดอกไม้มาประดับตกแต่งภายในห้องผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ พร้อมจัดจุดถ่ายภาพบริเวณหน้าห้องผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2561 – 2 มกราคม 2562 และจะมีกิจกรรมสวัสดีปีใหม่ต้อนรับผู้โดยสารในวันที่ 1 มกราคม 2562 และเนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีผู้มาใช้บริการท่าอากาศยานของ ทอท.จำนวนมาก ดังนั้น ทอท.จึงขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 2 – 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]