ทอท. คาดผู้โดยสาร 3.18 ล้านคนใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่งของ ทอท.ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562

กรุงเทพ ฯ 25 ธ.ค. – บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) คาดการณ์ปริมาณการจราจรทางอากาศช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2561 – 2 มกราคม 2562 มีผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท.จำนวน 3.18 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.8 และมีเที่ยวบิน 18,300 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งท่าอากาศยานของ ทอท.มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร และได้จัดกิจกรรมต้อนรับผู้โดยสารตลอดช่วงเทศกาลดังกล่าวด้วย


นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2562 ทอท.คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่งของ ทอท.ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2561) ประมาณ 3.18 ล้านคน หรือเฉลี่ยประมาณ 453,600 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.8 และมีเที่ยวบินประมาณ 18,300 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 2,610 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยที่ ทสภ.มีปริมาณการจราจรทางอากาศมากที่สุด คือ คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 1.52 ล้านคน หรือเฉลี่ยประมาณ 217,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3 และมีเที่ยวบินประมาณ 8,000 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 1,140 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3 ส่วนที่ ทดม.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 887,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 126,700 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.7 และมีเที่ยวบินประมาณ 5,400 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 770 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.2

สำหรับท่าอากาศยานอีก 4 แห่งคาดว่าจะมีผู้โดยสารจำนวนมากเช่นกันเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน คือ ที่ ทภก.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 365,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 52,100 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 และมีเที่ยวบินประมาณ 2,200 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 310 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 ด้าน ทชม.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 246,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 35,100 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0 และมีเที่ยวบินประมาณ 1,700 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 240 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.6 ส่วนที่ ทหญ.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 86,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 12,300 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 และมีเที่ยวบินประมาณ 600 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 90 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 และที่ ทชร.คาดว่ามีผู้โดยสารประมาณ 73,000 คน หรือเฉลี่ยประมาณ 10,400 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.8 และมีเที่ยวบินประมาณ 400 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยประมาณ 60 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5


นายนิตินัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านการเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร  ทอท.ได้ร่วมกับหน่วยงานในท่าอากาศยานอำนวยความสะดวกผู้โดยสารในขั้นตอนต่างๆ คือ การจัดพิธีปล่อยแถวการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมต้อนรับผู้โดยสารเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ณ ทสภ. ทดม. ทภก.และ ทชร. จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ณ ทสภ. ทดม.และ ทภก.เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือกับ


ส่วนงานราชการ สายการบินและผู้ประกอบการในการอำนวยความสะดวกในกระบวนการเดินทางของผู้โดยสาร 

ทั้งขาเข้าและขาออกตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ ตลอด 24 ชั่วโมง มีรายละเอียดคือ

–  ที่ ทสภ.จัดตั้งศูนย์ฯ ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2561 – 4 มกราคม 2562 ณ ห้อง CIP 5 บริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร ทสภ. 

–  ที่ ทดม.จัดตั้งศูนย์ฯ ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2561 – 7 มกราคม 2562 บริเวณห้องปฏิบัติงานเวรบริการข้อมูลข่าวสารการบิน (AIS) ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2 (ใกล้กับห้องศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทดม.) และยังได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเก็บรถเข็นกระเป๋าเป็น 60 คนต่อวัน รวมทั้งเพิ่มรถเข็นกระเป๋าขนาดกลางเป็นจำนวน 2,500 คัน ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่จัดเรียงและขนย้ายกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารให้เป็นระเบียบและง่ายต่อการค้นหา ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง และในส่วนของพื้นที่ช่องตรวจศุลกากร ทดม.ได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่และช่องตรวจสัมภาระผู้โดยสาร โดยเพิ่มช่องไม่มีสิ่งของต้องสำแดง จาก 1 ช่องเป็น 2 ช่อง ณ บริเวณช่องตรวจศุลกากรผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 1 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ทดม. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารได้รับการตรวจสัมภาระได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น 

–  สำหรับ ทภก.จัดศูนย์ฯ ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2561 – 7 มกราคม 2562 บริเวณด้านทิศเหนือ ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ 

–  ในส่วนของ ทชม. ทชร.และ ทหญ.ได้จัดตั้งศูนย์รักษาความปลอดภัย เป็นศูนย์ปลอดภัยคมนาคมทางอากาศ เพื่อประสานงานข่าว การอำนวยความสะดวกการรักษาความปลอดภัย และการติดต่อประสานงานเร่งด่วนอื่นๆ 

นอกจากนั้น มีการยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ให้แก่ผู้โดยสารที่นำรถมาจอดในพื้นที่ที่จัดไว้ ณ ทสภ.และ ทดม.ดังนี้

–  ที่ ทสภ.จะยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ของวันที่ 28 ธันวาคม 2561 ถึงเวลา 17.00 น.ของวันที่ 2 มกราคม 2562 ในพื้นที่ลานจอดรถระยะยาวโซน C 

–  ที่ ทดม.ได้จัดพื้นที่จอดรถยนต์สำหรับให้บริการผู้โดยสาร จำนวน 4 จุด โดยไม่คิดค่าบริการ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2561 – 2 มกราคม 2562 ได้แก่ (1) อาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น เฉพาะชั้น 2 (2) ลานจอดรถยนต์หน้าอาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น (3) ลานจอดรถยนต์ระหว่างอาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น และคลังสินค้า 3 และ (4) ลานจอดรถยนต์ฝ่ายสนามบินและอาคาร โดยมีรถเวียน (Shuttle Bus) สำหรับวิ่งให้บริการรับ – ส่ง ผู้โดยสารระหว่างที่จอดรถ กับอาคารผู้โดยสาร ทุกๆ 15 นาที บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่คิดค่าบริการ  

นายนิตินัย กล่าวว่า นอกจากการอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ แล้ว ทอท.ยังได้เพิ่มความเข้มงวดในด้านการรักษาความปลอดภัย โดยได้เพิ่มวงรอบในการตรวจตระเวนระงับเหตุ รวมทั้งประสานร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ ด้านการข่าว รวมทั้งขอความร่วมมือจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สายการบิน และผู้ประกอบการในท่าอากาศยานเฝ้าสังเกตพื้นที่ ทั้งนี้ ในส่วนของ ทหญ.ซึ่งมีมาตรการการรักษาความปลอดภัยด้วยการขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ ทหญ.แสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรที่ราชการออกให้ต่อเจ้าหน้าที่ประจำช่องทางรักษาการณ์ ณ ทหญ. โดยได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 นั้น ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทหญ.ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารหรือบัตรแสดงตน และตรวจสอบทะเบียนยานพาหนะ (ผู้ที่ไม่มีบัตรแสดงตนและทะเบียนของยานพาหนะไม่ถูกต้อง ไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ ทหญ.)

นายนิตินัย กล่าวว่า ทอท.ยังร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยการจัดกิจกรรมและตกแต่งอาคารผู้โดยสารในบรรยากาศคริสมาสต์และปีใหม่ สร้างความประทับใจแก่ผู้โดยสาร โดยที่ ทสภ.จัดตั้งต้นคริสต์มาสสูง 12 เมตร บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 5 จัดซุ้มถ่ายภาพบริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ชั้น 2 ประตู 1 จนถึงวันที่ 5 มกราคม 2562 และจัดกิจกรรมให้มีซานตาคลอสมอบของที่ระลึกให้กับผู้โดยสารในระหว่างวันที่ 24 – 26 ธันวาคม 2561 ทดม.จัดขบวนพาเหรดในวันที่ 25 และ 28 ธันวาคม 2561 และตั้งต้นคริสมาสต์บริเวณเคาน์เตอร์เช็คอิน Row 11 และ 12 จนถึงวันที่ 15 มกราคม 2562 ทภก.จัดกิจกรรมสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวในเทศกาลคริสมาสต์ ณ ห้องโถงเช็คอิน ผู้โดยสารขาออก ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ในวันที่ 25 ธันวาคม 2561 ทชม.จัดการแสดงและดนตรีในรูปแบบล้านนา และตกแต่งภายในอาคารผู้โดยสาร จนถึงวันที่ 7 มกราคม 2562 ทหญ.จะจัดแสดงดนตรีสด มายากล การแต่งกายซานตาคลอส ณ บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ พร้อมแจกของที่ระลึกให้กับผู้โดยสารเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 เวลา 11.00 น. – 12.00 น.รวมทั้งประดับตกแต่งพื้นที่และจุดถ่ายภาพ ณ บริเวณภายในและภายนอกอาคารผู้โดยสาร จนถึงวันที่ 10 มกราคม 2562 และ ทชร.ได้ปรับภูมิทัศน์โดยการนำดอกไม้มาประดับตกแต่งภายในห้องผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ พร้อมจัดจุดถ่ายภาพบริเวณหน้าห้องผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2561 – 2 มกราคม 2562 และจะมีกิจกรรมสวัสดีปีใหม่ต้อนรับผู้โดยสารในวันที่ 1 มกราคม 2562 และเนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีผู้มาใช้บริการท่าอากาศยานของ ทอท.จำนวนมาก ดังนั้น ทอท.จึงขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 2 – 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]