พปชร. 24 ธ.ค.-พปชร.ยันสมาชิกพรรคเพียงพอ ไม่ต้องหาสมาชิกเพิ่ม เร่งตรวจสอบพิรุธ คลิปจ่ายเงินแลกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมนายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล กรรมการบริหารพรรค แถลงข่าวกรณีมีกระแสข่าวว่ามีตัวแทนสมาชิกพรรคพลังประชารัฐได้รณรงค์เชิญชวนประชาชนสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมกับสิทธิ์ในการรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
นายสุรพร กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐขอแถลงให้ประชาชนและสื่อมวลชนทราบว่าการรณรงค์เพื่อรับสมัครสมาชิกพรรคที่ผ่านมาและที่กำลังดำเนินการอยู่ มีวัตถุประสงค์และวิธีการ ดังนี้ พรรคพลังประชารัฐจะรับสมัครสมาชิกโดยผู้สมัครมาด้วยตนเอง ณ สำนักงานใหญ่ของพรรค ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ และที่ทำการสาขาพรรค 4 ภาค คือ ภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดร้อยเอ็ด ภาคกลางที่จังหวัดสิงห์บุรี ภาคใต้ที่จังหวัดกระบี่
นายสุรพร กล่าวว่า ส่วนการรับสมัครสมาชิกผ่านสมาชิกตัวแทนของพรรคแต่ละจังหวัด ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และไม่มีนโยบายรณรงค์หาสมาชิกเพิ่มในขณะนี้แต่อย่างใด ซึ่งกระบวนการรับสมัครสมาชิกผ่านตัวแทนของพรรคที่ผ่านมา พรรคเน้นความสมัครใจของประชาชน เฉพาะผู้ที่ศรัทธาในอุดมการณ์ของพรรค เสียค่าสมัครด้วยตนเองพร้อมแนบสำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชน และรูปถ่าย ให้พรรคตรวจสอบความถูกต้องก่อน โดยถือข้อห้ามตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 อย่างเคร่งครัด และที่ผ่านมาพรรคเคยตักเตือนสมาชิกที่กระทำการฝ่าฝืนข้อบังคับ รวมทั้งตัดสิทธิ์ในการเป็นผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งไปแล้วส่วนหนึ่ง ดังนั้น หากพรรคตรวจสอบพบว่าสมาชิกพรรคพลังประชารัฐผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนหลักการดังกล่าว พรรคจะลงโทษอย่างเฉียบขาดตามข้อบังคับ
ด้านนายวิเชียร กล่าวถึงกรณีการเผยแพร่คลิปภาพ ระบุเป็นการแจกบัตรคนจนให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมระบุมอบเงินให้ด้วยนั้น เรื่องนี้พรรคเปิดรับสมัครสมาชิกตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 ณ ที่ทำการพรรค ซึ่งตามหลักการ จะต้องมีการนำบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย และค่าธรรมเนียมนำมาสมัครสมาชิก ก่อนขยายไปสาขาในพื้นที่ภาคต่าง ๆ และตัวแทนจังหวัด ซึ่งการรับสมาชิกผ่านสมาชิกแต่ละจังหวัดได้เสร็จสิ้นแล้ว และมีผู้เข้าเป็นสมาชิกเกือบ 3 หมื่นกว่าคน ซึ่งเกินที่กฎหมายกำหนดแล้ว และไม่มีนโยบายการรณรงค์หาสมาชิกเพิ่มในขณะนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้ทางพรรคเคร่งครัดอย่างมากในเรื่องการกระทำการจูงใจ โน้มเอียง ล่อแหลม ในการรับสมาชิกพรรค เพราะมีผลรุนแรง ทั้งการถูกตัดสิทธิ์ลงสมัคร ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี และยุบพรรคที่สังกัด เพราะเป็นข้อห้ามตามมาตรา 30 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ดังนั้น เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ยโสธร เบื้องต้นพรรคได้ดูภาพและเสียงคลิปแล้ว ปรากฏเพียงเสียงผู้บันทึกภาพ แต่ไม่มีภาพตามที่มีเสียงผู้บันทึกแต่อย่างใด ทั้งการจ่ายเงินและสมาชิกพรรคที่ถูกกล่าวหา ทั้งนี้ พรรคจะตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เกิดความชัดเจน ถูกต้อง และเป็นธรรมกับสมาชิกพรรคที่ถูกกล่าวหา ถ้าผิดก็ดำเนินการตัดสิทธิ์เป็นผู้สมัครของพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (24 ธ.ค.) นายพิกิฏ ศรีชนะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ยโสธร ที่ถูกพาดพิงในคลิปดังกล่าว ได้ลงบันทึกประจำดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่คลิปตามความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่ ส.ภ.เลิงนกทา จ.ยโสธร เพื่อเป็นหลักฐานแล้ว.-สำนักข่าวไทย