แผนพีดีพีใหม่ใช้ก๊าซเพิ่ม คาดค่าไฟลดลง

กรุงเทพฯ 17 ธ.ค.- ชาวบ้านไม่แน่ใจ ค่าไฟฟ้าตามแผนพีดีใหม่(ปี 2561-2580
)จะถูกลงเหลือ3.576 บาท/หน่วยหรือไม่
ตามแผนพีดีพีใหม่ที่ใช้ก๊าซฯเป็นเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น จากร้อยละ
37 เป็นร้อยละ 53 ลดการใช้ถ่านหิน เปิด
กฟผ.แข่งขันผลิตไฟฟ้ากับไอพีพี โดยเปิดแข่งขัน ไม่ต่ำกว่า
8,300 เมกะวัตต์


กระทรวงพลังงานจัดรับฟังความคิดเห็นร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยาว 20 ปี( 2561-2580)
ใช้สมมุติฐานจีดีพี จากสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ขยายตัวที่ร้อยละ
3.8 โดยนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า
เมื่อรับฟังความเห็นเสร็จสิ้น จะรวบรวมนำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในต้นเดือนมกราคม
2562 โดยแผนนี้ค่าไฟฟ้าจะต่ำกว่าแผนเดิมลดจากปลายแผนที่
5.50
บาท เหลือเฉลี่ย
3.576 บาทต่อหน่วย
เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงถูกลง โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเหลวหรือแอลเอ็นจี
โดยปรับเพิ่มการใช้ก๊าซฯจากร้อยละ
37 เป็นร้อยละ 53 ถ่านหินปรับลดลงจากร้อยละ 23 เป็นร้อยละ 12 ซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศลดจากร้อยละ 15 เหลือร้อยละ 9 พลังงานหมุนเวียนเท่าเดิมที่ร้อยละ 20
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่อยู่ในแผนจากเดิมมีร้อยละ
5 เชื้อเพลิง   อื่น ๆ ลดลงจากร้อยละ 0.1 เหลือร้อยละ 0.06 เพิ่มสัดส่วนการอนุรักษ์พลังงานจากเดิมไม่มีเพิ่มเป็นร้อยละ
6 หรือ 4,000 เมกะวัตต์โดยแผนใหม่
กำลังผลิตไฟฟ้าจะมีรวม
73,211 เมกะวัตต์
โดยจำนวนนี้จะต้องมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่
51,415
เมกะวัตต์

ตามแผนพีดีพีใหม่ จะแบ่งเป็นความมั่นคงรายภาคและ
จะมีโรงไฟฟ้าหลักเพื่อความมั่นคงตามรายภาค
ส่วนนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)จะเป็นผู้ก่อสร้างคือสามารถผลิตไฟฟ้าป้อนระบบได้ทันทีเมื่อถูกเรียกผลิต
อย่างไรก็ตามตามแผนพีดีพีใหม่ ไม่ได้ระบุว่าจะเป็นสัดส่วนเท่าใด ขณะที่ตามแผนระบุว่ากำลังผลิตใหม่ที่
กฟผ. หรือ ไอพีพีจะก่อสร้างมีรวม
23,196 เมกะวัตต์


ในปี2568
จะต้องมีโรงไฟฟ้าฐาน(ฟอสซิล)เข้าระบบแต่จะเป็นกำลังผลิตเท่าใด จะเป็นส่วนของ
กฟผ.ก่อสร้างหรือเปิดให้ประมูลเป็นไอพีพีแข่งขัน ก็ต้องดูศักยภาพการลงทุนของ
กฟผ.ก่อน แต่หากเปิดประมูลไอพีพีแล้ว ตามกฏหมาย ทาง กฟผ.ก็จะเข้ามาแข่งขันไม่ได้
ปลัดกระทรวงพลังงานกล่าว

ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวด้วยว่า นับจากแผนพีดีพีเสร็จสิ้น
กระทรวงฯจะจัดทำแผนหลักอื่น ๆ ประกอบทั้งแผนก๊าซฯซึ่งคาดว่าจะมีการนำเข้าแอลเอ็นจีมากกว่า
34 ล้านตัน/ปีเมื่อสิ้นปี
2580 ,แผนน้ำมัน,แผนพลังงานทดแทนและแผนอนุรักษ์พลังงานจมีการประหยัดพลังงานเพิ่มอีก
4,000 เมกะวัตต์ และกระทรวงฯจะนำไปปรันแผนแม่บท 5 ปี( ปี 2562-2566) ต่อไป

สำหรับผู้แสดงความคิดเห็น ส่วนใหญ่ไม่แน่ใจว่าค่าไฟฟ้าขายปลีกเฉลี่ย
ตามแผนจะอยู่ที่
3.576 บาท/หน่วย จะเป็นไปได้จริงหรือไม่ ,แผนไม่กระจายเชื้อเพลิงไฟฟ้า,กำลังผลิตของกฟผ.,
ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่ภาครัฐ
ควรมีสัดส่วนผลิตในสาธารณูปโภคพื้นฐานร้อยละ
50 ในพีดีพี ทาง
กฟผ. ก็ควรจะผลิตร้อยละ
50 เป็นต้น, โดย
ตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กฟผ. ขอให้เพิ่มสัดส่วนการผลิตของ
กฟผ.และมองว่าใกล้เลือกตั้ง ผลของการทำพีดีพีเช่นนี้อาจเอื้อต่อกลุ่มทุนเอกชน ส่วนด้านเอกชนเสนอให้เร่งโครงการรับซื้อพลังงานทดแทนมากขึ้น


นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อดีตกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)
ชี้ว่าแผนดังกล่าวอาจคลาดเคลื่อนเพราะขณะนี้ไอพีเอสเข้ามาจำนวนมาก
แผนนี้ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องสำรองไฟฟ้า และพลังงานทดแทน และเรื่องราคาแอลเอ็นจีผันแปรตามราคาน้ำมันดิบ
มีราคาความผันผวนและการนำเข้าแอลเอ็นจีของไทยใน
20 ปีก็จะเพิ่มขึ้นจาก1/3 เป็น 2/3 ของความต้องการก๊าซของประเทศ
ประกอบกับการก่อสร้างท่อก๊าซใหม่ และสายส่งใหม่อีก
400,000-500,000 ล้านบาท ส่วนเหล่านี้จะรวมในค่าไฟฟ้า ดังนั้น อัตราค่าไฟฟ้าตามแผน 3.576 บาท/หน่วยเป็นไปได้ยาก

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
(สนพ.) ชี้แจงว่า ทางกระทรวงฯเชื่อว่าแอลเอ็นจีจะมีการแข่งขันมากขึ้นจากทั่วโลก
จึงใช้ตัวเลขอ้างอิงต้นทุนเฉลี่ยในแผน
244 บาท/ล้านบีทียู ขณะที่พลังงานทดแทนก็จะมีต้นทุนที่ถูกลง
สำหรับแผนพีดีพีใหม่จัดทำเฉพาะแผนที่ผลิตจำหน่ายในระบบ
3
การไฟฟ้า เท่านั้น ไม่ได้รวมเรื่องไฟฟ้าที่ผลิตเองใช้เอง(
IPS) แต่อย่างใด โดยวันที่ 24 เมษายน 2561 ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของประเทศ(Peak) เพิ่มขึ้นร้อยละ0.6 ที่ 34,317 เมกะวัตต์ ในขณะที่พีกในระบบของ กฟผ.
อยู่ที่
29,968 เมกะวัตต์ ลดลงร้อยละ1.1
โดยกำลังผลิตในระบบของประเทศ ณ สิ้นเดือนกันยายน 25
61
อยู่ที่
54,617 เมกะวัตต์ เป็นสัดส่วนของ กฟผ.เพียงร้อยละ 27 ที่เหลือเป็นของเอกชนและการนำเข้า

สำหรับแผนพีดีพีฉบับใหม่ คำนึงถึงต้นทุน, สิ่งแวดล้อมและความมั่นคง
โดย
1.ระบบผลิตไฟฟ้าความมั่นคงใน 20 ปีนี้
จะมีกำลังผลิตใหม่
51,415 เมกะวัตต์ แยกเป็นพลังงานหมุนเวียน
20,757 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำสูบกลับ กฟผ. 500 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น1,105 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม(กฟผ./ไอพีพี)
13,156 เมกะวัตต์, โรงไฟฟ้าถ่านหิน 1,740 เมกะวัตต์,ซื้อไฟต่างประเทศ 5,857 เมกะวัตต์ ,โรงไฟฟ้าหลักแข่งขัน (กฟผ./ไอพีพี) 8,300 เมกะวัตต์ 2.โรงไฟฟ้าตามนโยบายส่งเสริมภาครัฐ
แบ่งออกเป็นโรงไฟฟ้าขยะ
400 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐ
120 เมกะวัตต์ รวม 520 เมกะวัตต์ 3.โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนตามแผนพลังงานทดแทน(AFDP) มีรวม
18,176 เมกะวัตต์ แยกเป็น ชีวมวล3,376 เมกะวัตต์
ก๊าซชีวภาพ
546 เมกะวัตต์ โซลาร์ภาคประชาชน 10,000 เมกะวัตต์ โซลาร์ลอยน้ำ/Hydro 2,725 เมกะวัตต์ พลังงานลม
1,485 เมกะวัตต์  ขยะอุตสาหกรรม
44 เมกะวัตต์

สำหรับแผนพัฒนาโรงไฟฟ้ารายภาค แยกออกเป็นภาคเหนือ
ทางกฟผ.จะผลิตโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ
600 เมกะวัตต์ในปี 2569 ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
กฟผ.จะผลิตไฟฟ้าโซลาร์ลอยน้ำ เขื่อนสิรินธร
45
เมกะวัตต์ปี 2563 ,เขื่อนอุบลรัตน์ 24 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าก๊าซน้ำพอง 650 เมกะวัตต์,ส่วนโรงไฟฟ้าหลักแข่งขันที่ให้
ไอพีพีแข่งขัน กับ กฟผ.จำนวน
2 โรงกำลังผลิตโรงละ  700
เมกะวัตต์เข้าระบบในปี 2573และปี 2575 ส่วนการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ ปีละ 700 เมกะวัตต์ ในปี 2569,ปี 2571,ปี 2575,และปี 2578
ส่วนโรงไฟฟ้าภาคตะวันออก จะเป็นโรงไฟฟ้าหลักแข่งขันระหว่างไอพีพีและกฟผ.แบ่งเป็น
2 โรงได้แก่ 1,000
เมกะวัตต์ ปี 2576 และ700 เมกะวัตต์ในปี 2580

ส่วนภาคตะวันตก จะเป็นโรงไฟฟ้าหลักแข่งขันระหว่าง ไอพีพีและ
กฟผ.แบ่งเป็น
2 โรง โรงละ 700 เมกะวัตต์ในปี 2566 และปี 2567
,โรงไฟฟ้าในภาคใต้ ประกอบไปด้วยโรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐชายแดนภาคใต้
จำนวนปีละ
60
เมกะวัตต์ในปี 2564และ 25 65  ,โรงไฟฟ้าก๊าซฯสุราษฎร์ธานี
(รองรับกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินภาคใต้ล่าช้า) มีกำลังผลิตโรงละ
700
เมกะวัตต์.ในปี 2570 และปี 2572 ,โรงไฟฟ้าหลักแข่งขันระหว่างไอพีพีและกฟผ.1,000
เมกะวัตต์ ปี 2577 และ700 เมกะวัตต์ปี 2578

โรงไฟฟ้าภาคกลางตอนบน จะเป็นโรงไฟฟ้าหลักแข่งขันไอพีพี/กฟผ. 1,400 เมกะวัตต์ในปี 2575 ,โรงไฟฟ้าเขตนครหลวง
แบ่งเป็น ดำเนินการโดย กฟผ.แยกเป็นพระนครใต้
700
เมกะวัตต์ปี 2569 ,พระนครใต้ 1,400
เมกะวัตต์ ปี 2570 
พระนครเหนือ 700
เมกะวัตต์ ปี 2571 ,พระนครเหนือ 700
เมกะวัตต์ปี 2578 
และโรงไฟฟ้าหลักแข่งขันระหว่างไอพีพีและกฟผ.700
เมกะวัตต์ปี 2579 –สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]