แผนพีดีพีใหม่ใช้ก๊าซเพิ่ม คาดค่าไฟลดลง

กรุงเทพฯ 17 ธ.ค.- ชาวบ้านไม่แน่ใจ ค่าไฟฟ้าตามแผนพีดีใหม่(ปี 2561-2580
)จะถูกลงเหลือ3.576 บาท/หน่วยหรือไม่
ตามแผนพีดีพีใหม่ที่ใช้ก๊าซฯเป็นเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น จากร้อยละ
37 เป็นร้อยละ 53 ลดการใช้ถ่านหิน เปิด
กฟผ.แข่งขันผลิตไฟฟ้ากับไอพีพี โดยเปิดแข่งขัน ไม่ต่ำกว่า
8,300 เมกะวัตต์


กระทรวงพลังงานจัดรับฟังความคิดเห็นร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยาว 20 ปี( 2561-2580)
ใช้สมมุติฐานจีดีพี จากสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ขยายตัวที่ร้อยละ
3.8 โดยนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า
เมื่อรับฟังความเห็นเสร็จสิ้น จะรวบรวมนำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในต้นเดือนมกราคม
2562 โดยแผนนี้ค่าไฟฟ้าจะต่ำกว่าแผนเดิมลดจากปลายแผนที่
5.50
บาท เหลือเฉลี่ย
3.576 บาทต่อหน่วย
เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงถูกลง โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเหลวหรือแอลเอ็นจี
โดยปรับเพิ่มการใช้ก๊าซฯจากร้อยละ
37 เป็นร้อยละ 53 ถ่านหินปรับลดลงจากร้อยละ 23 เป็นร้อยละ 12 ซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศลดจากร้อยละ 15 เหลือร้อยละ 9 พลังงานหมุนเวียนเท่าเดิมที่ร้อยละ 20
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่อยู่ในแผนจากเดิมมีร้อยละ
5 เชื้อเพลิง   อื่น ๆ ลดลงจากร้อยละ 0.1 เหลือร้อยละ 0.06 เพิ่มสัดส่วนการอนุรักษ์พลังงานจากเดิมไม่มีเพิ่มเป็นร้อยละ
6 หรือ 4,000 เมกะวัตต์โดยแผนใหม่
กำลังผลิตไฟฟ้าจะมีรวม
73,211 เมกะวัตต์
โดยจำนวนนี้จะต้องมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่
51,415
เมกะวัตต์

ตามแผนพีดีพีใหม่ จะแบ่งเป็นความมั่นคงรายภาคและ
จะมีโรงไฟฟ้าหลักเพื่อความมั่นคงตามรายภาค
ส่วนนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)จะเป็นผู้ก่อสร้างคือสามารถผลิตไฟฟ้าป้อนระบบได้ทันทีเมื่อถูกเรียกผลิต
อย่างไรก็ตามตามแผนพีดีพีใหม่ ไม่ได้ระบุว่าจะเป็นสัดส่วนเท่าใด ขณะที่ตามแผนระบุว่ากำลังผลิตใหม่ที่
กฟผ. หรือ ไอพีพีจะก่อสร้างมีรวม
23,196 เมกะวัตต์


ในปี2568
จะต้องมีโรงไฟฟ้าฐาน(ฟอสซิล)เข้าระบบแต่จะเป็นกำลังผลิตเท่าใด จะเป็นส่วนของ
กฟผ.ก่อสร้างหรือเปิดให้ประมูลเป็นไอพีพีแข่งขัน ก็ต้องดูศักยภาพการลงทุนของ
กฟผ.ก่อน แต่หากเปิดประมูลไอพีพีแล้ว ตามกฏหมาย ทาง กฟผ.ก็จะเข้ามาแข่งขันไม่ได้
ปลัดกระทรวงพลังงานกล่าว

ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวด้วยว่า นับจากแผนพีดีพีเสร็จสิ้น
กระทรวงฯจะจัดทำแผนหลักอื่น ๆ ประกอบทั้งแผนก๊าซฯซึ่งคาดว่าจะมีการนำเข้าแอลเอ็นจีมากกว่า
34 ล้านตัน/ปีเมื่อสิ้นปี
2580 ,แผนน้ำมัน,แผนพลังงานทดแทนและแผนอนุรักษ์พลังงานจมีการประหยัดพลังงานเพิ่มอีก
4,000 เมกะวัตต์ และกระทรวงฯจะนำไปปรันแผนแม่บท 5 ปี( ปี 2562-2566) ต่อไป

สำหรับผู้แสดงความคิดเห็น ส่วนใหญ่ไม่แน่ใจว่าค่าไฟฟ้าขายปลีกเฉลี่ย
ตามแผนจะอยู่ที่
3.576 บาท/หน่วย จะเป็นไปได้จริงหรือไม่ ,แผนไม่กระจายเชื้อเพลิงไฟฟ้า,กำลังผลิตของกฟผ.,
ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่ภาครัฐ
ควรมีสัดส่วนผลิตในสาธารณูปโภคพื้นฐานร้อยละ
50 ในพีดีพี ทาง
กฟผ. ก็ควรจะผลิตร้อยละ
50 เป็นต้น, โดย
ตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กฟผ. ขอให้เพิ่มสัดส่วนการผลิตของ
กฟผ.และมองว่าใกล้เลือกตั้ง ผลของการทำพีดีพีเช่นนี้อาจเอื้อต่อกลุ่มทุนเอกชน ส่วนด้านเอกชนเสนอให้เร่งโครงการรับซื้อพลังงานทดแทนมากขึ้น


นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อดีตกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)
ชี้ว่าแผนดังกล่าวอาจคลาดเคลื่อนเพราะขณะนี้ไอพีเอสเข้ามาจำนวนมาก
แผนนี้ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องสำรองไฟฟ้า และพลังงานทดแทน และเรื่องราคาแอลเอ็นจีผันแปรตามราคาน้ำมันดิบ
มีราคาความผันผวนและการนำเข้าแอลเอ็นจีของไทยใน
20 ปีก็จะเพิ่มขึ้นจาก1/3 เป็น 2/3 ของความต้องการก๊าซของประเทศ
ประกอบกับการก่อสร้างท่อก๊าซใหม่ และสายส่งใหม่อีก
400,000-500,000 ล้านบาท ส่วนเหล่านี้จะรวมในค่าไฟฟ้า ดังนั้น อัตราค่าไฟฟ้าตามแผน 3.576 บาท/หน่วยเป็นไปได้ยาก

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
(สนพ.) ชี้แจงว่า ทางกระทรวงฯเชื่อว่าแอลเอ็นจีจะมีการแข่งขันมากขึ้นจากทั่วโลก
จึงใช้ตัวเลขอ้างอิงต้นทุนเฉลี่ยในแผน
244 บาท/ล้านบีทียู ขณะที่พลังงานทดแทนก็จะมีต้นทุนที่ถูกลง
สำหรับแผนพีดีพีใหม่จัดทำเฉพาะแผนที่ผลิตจำหน่ายในระบบ
3
การไฟฟ้า เท่านั้น ไม่ได้รวมเรื่องไฟฟ้าที่ผลิตเองใช้เอง(
IPS) แต่อย่างใด โดยวันที่ 24 เมษายน 2561 ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของประเทศ(Peak) เพิ่มขึ้นร้อยละ0.6 ที่ 34,317 เมกะวัตต์ ในขณะที่พีกในระบบของ กฟผ.
อยู่ที่
29,968 เมกะวัตต์ ลดลงร้อยละ1.1
โดยกำลังผลิตในระบบของประเทศ ณ สิ้นเดือนกันยายน 25
61
อยู่ที่
54,617 เมกะวัตต์ เป็นสัดส่วนของ กฟผ.เพียงร้อยละ 27 ที่เหลือเป็นของเอกชนและการนำเข้า

สำหรับแผนพีดีพีฉบับใหม่ คำนึงถึงต้นทุน, สิ่งแวดล้อมและความมั่นคง
โดย
1.ระบบผลิตไฟฟ้าความมั่นคงใน 20 ปีนี้
จะมีกำลังผลิตใหม่
51,415 เมกะวัตต์ แยกเป็นพลังงานหมุนเวียน
20,757 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำสูบกลับ กฟผ. 500 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น1,105 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม(กฟผ./ไอพีพี)
13,156 เมกะวัตต์, โรงไฟฟ้าถ่านหิน 1,740 เมกะวัตต์,ซื้อไฟต่างประเทศ 5,857 เมกะวัตต์ ,โรงไฟฟ้าหลักแข่งขัน (กฟผ./ไอพีพี) 8,300 เมกะวัตต์ 2.โรงไฟฟ้าตามนโยบายส่งเสริมภาครัฐ
แบ่งออกเป็นโรงไฟฟ้าขยะ
400 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐ
120 เมกะวัตต์ รวม 520 เมกะวัตต์ 3.โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนตามแผนพลังงานทดแทน(AFDP) มีรวม
18,176 เมกะวัตต์ แยกเป็น ชีวมวล3,376 เมกะวัตต์
ก๊าซชีวภาพ
546 เมกะวัตต์ โซลาร์ภาคประชาชน 10,000 เมกะวัตต์ โซลาร์ลอยน้ำ/Hydro 2,725 เมกะวัตต์ พลังงานลม
1,485 เมกะวัตต์  ขยะอุตสาหกรรม
44 เมกะวัตต์

สำหรับแผนพัฒนาโรงไฟฟ้ารายภาค แยกออกเป็นภาคเหนือ
ทางกฟผ.จะผลิตโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ
600 เมกะวัตต์ในปี 2569 ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
กฟผ.จะผลิตไฟฟ้าโซลาร์ลอยน้ำ เขื่อนสิรินธร
45
เมกะวัตต์ปี 2563 ,เขื่อนอุบลรัตน์ 24 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าก๊าซน้ำพอง 650 เมกะวัตต์,ส่วนโรงไฟฟ้าหลักแข่งขันที่ให้
ไอพีพีแข่งขัน กับ กฟผ.จำนวน
2 โรงกำลังผลิตโรงละ  700
เมกะวัตต์เข้าระบบในปี 2573และปี 2575 ส่วนการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ ปีละ 700 เมกะวัตต์ ในปี 2569,ปี 2571,ปี 2575,และปี 2578
ส่วนโรงไฟฟ้าภาคตะวันออก จะเป็นโรงไฟฟ้าหลักแข่งขันระหว่างไอพีพีและกฟผ.แบ่งเป็น
2 โรงได้แก่ 1,000
เมกะวัตต์ ปี 2576 และ700 เมกะวัตต์ในปี 2580

ส่วนภาคตะวันตก จะเป็นโรงไฟฟ้าหลักแข่งขันระหว่าง ไอพีพีและ
กฟผ.แบ่งเป็น
2 โรง โรงละ 700 เมกะวัตต์ในปี 2566 และปี 2567
,โรงไฟฟ้าในภาคใต้ ประกอบไปด้วยโรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐชายแดนภาคใต้
จำนวนปีละ
60
เมกะวัตต์ในปี 2564และ 25 65  ,โรงไฟฟ้าก๊าซฯสุราษฎร์ธานี
(รองรับกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินภาคใต้ล่าช้า) มีกำลังผลิตโรงละ
700
เมกะวัตต์.ในปี 2570 และปี 2572 ,โรงไฟฟ้าหลักแข่งขันระหว่างไอพีพีและกฟผ.1,000
เมกะวัตต์ ปี 2577 และ700 เมกะวัตต์ปี 2578

โรงไฟฟ้าภาคกลางตอนบน จะเป็นโรงไฟฟ้าหลักแข่งขันไอพีพี/กฟผ. 1,400 เมกะวัตต์ในปี 2575 ,โรงไฟฟ้าเขตนครหลวง
แบ่งเป็น ดำเนินการโดย กฟผ.แยกเป็นพระนครใต้
700
เมกะวัตต์ปี 2569 ,พระนครใต้ 1,400
เมกะวัตต์ ปี 2570 
พระนครเหนือ 700
เมกะวัตต์ ปี 2571 ,พระนครเหนือ 700
เมกะวัตต์ปี 2578 
และโรงไฟฟ้าหลักแข่งขันระหว่างไอพีพีและกฟผ.700
เมกะวัตต์ปี 2579 –สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สุดชิล ใส่เสื้อฮาวาย เข้าพรรคประชุมแกนนำ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” ว่าที่นายกฯ สุดชิล ใส่เสื้อฮาวายลายใบไม้ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประชุมแกนนำในวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อฮาวายลายใบไม้ เมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายอนุทิน ขอตัวขึ้นไปประชุมก่อน และระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีสำคัญ ภายหลังมีแกนนำพรรค และว่าที่รัฐมนตรีตามโผ ครม.อนุทิน 1 เช่น นายภราดร ปริศนานันทกุล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ส่งช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี รวมไปถึงต้นกล้วยไม้สีขาวก้านยาว ในกระถางพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ ประมาณ 1 คนโอบ ติดนามบัตรมีชื่อของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด.-314-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย