ก.เกษตรฯคาดจ่ายเงินชาวสวนยาง 28 ธ.ค.นี้

กรุงเทพฯ  15 ธ.ค.- ถึงคิวเกษตรกรได้ของขวัญปีใหม่ เงิน ลดค่าครองชีพ ปาล์ม จ่าย 20 ธ.ค.นี้, ยางพาราคาด 28 ธ.ค.นี้ ปลัด ก.เกษตรฯ ชี้เร่งทุกมาตรการใช้ยางฯ ส่งผลราคาพุ่ง 2 บาทต่อกิโลกรัม 


นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าตามที่รัฐบาลออกนโยบายกระตุ้นกการใช้ยางพารา เช่น มาตรการช้อปช่วยชาติ การทำถนน การส่งเสริมการใช้ในอุตสาหกรรม  ขณะนี้ส่งผลทำให้ราคายางสูงขึ้นมา 2 บาทต่อกิโลกรัมแล้ว โดยปลายสัปดาห์นี้ราคาซื้อขายยางแผ่น 46.70 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากเมื่อต้นเดือนธันวาคมซึ่งราคาอยู่ที่ 44.70 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมกับเร่งจ่ายเงินช่วยค่าครองชีพไร่ละ 1,800 บาทไม่เกิน 15 ไร่ เป็นของขวัญปีใหม่ โดยมาตรการนี้ เจ้าของสวนยาง ได้ 1,100 บาท คนกรีดยางได้ 700 บาท  

“มาตรการช่วยค่าครองชีพ 1800บาท/ไร่แก่ชาวสวนยาง ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบสิทธิที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ การยางแห่งประเทศไทย(กยท.)ที่เป็นสวนยางในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิถูกต้องกว่า 1.3 ล้านราย คาดว่า รับเงินช่วยเหลือได้ 28 ธ.ค.นี้เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่”ปลัดกระทรวงเกษตรฯกล่าว


นอกจากนี้ มาตรการทำถนนยางพารา 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตรได้ส่งคู่มือ แบบก่อสร้างและราคากลางให้แก่ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กว่า 7,200 แห่งพร้อมสร้างทั่วประเทศ โดยสามารถรับซื้อน้ำยางสดได้จากสหกรณ์ชาวสวนยางโดยตรง ได้ตั้งแต่วันนี้ ในการดำเนินการสร้างถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพารา 75,002 หมู่บ้าน ซึ่งหากสร้างหมู่บ้านละ 1 กิโลเมตร รวมระยะทาง75,032 กิโลเมตร ใช้งบสะสมของ อปท. กว่า 90,000 ล้านบาท ในโครงการนี้เบื้องต้นจะใช้น้ำยางสดปริมาณ1.44 ล้านตัน หรือคิดเป็นยางข้น 720,000 ตัน มูลค่าน้ำยางสดกว่า 16,000 ล้านบาท 

นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สยยท.) กล่าวว่า มีพื้นที่สวนยางที่ไม่มีเอกสารสิทธิที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือกว่า 5 ล้านไร่ ซึ่งเป็นเกษตรกรจำนวนมากรัฐควรดูแลด้วย  ไม่ใช่แค่เกษตรกรสมาชิก กยท. เท่านั้น ข้อมูลตัวเลขพื้นที่กรีดยางในแต่ละหน่วยงานในเวลานี้ยังไม่ตรงกัน โดยข้อมูล กยท. มีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนสำหรับผู้ที่มีเอกสารสิทธิ (บัตรสีเขียว) 1.05 ล้านราย พื้นที่ 14.7 ล้านไร่ เทียบกับข้อมูลสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) 20.1 ล้านไร่ (ข้อมูลวันที่ 21 มีนาคม 61)

ด้านนายพันศักดิ์ จิตรรัตน์ ประธานคณะกรรมการด้านปาล์มนํ้ามันและพืชพลังงาน สภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า มาตรการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ซื้อนํ้ามันปาล์มดิบ (CPO) ไปผลิตกระแสไฟฟ้าราคา 18 บาทต่อกิโลกรัม  แล้วให้รับซื้อผลปาล์มให้ที่มีน้ำมันร้อยละ 17  จากเกษตรกรราคา 3.20 บาทต่อกิโลกรัม นับเป็นราคาที่ขาดทุน เพราะอย่างน้อยจะต้องรับซื้อผลปาล์ม 4 บาทต่อกิโลกรัม ในส่วนมาตรการจ่ายเงินช่วยชาวสวนปาล์ม ไร่ละ 1,500 บาทไม่เกิน 15 ไร่ต่อราย ทราบว่า จะจ่ายเข้าบัญชีเกษตรกรในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ เป็นเพียงมาตรการที่ช่วยได้เพียงระยะสั้นเท่านั้น


“เมื่อมาถึงจุดนี้เกษตรกรชาวสวนปาล์มต้องช่วยเหลือตัวเอง โดยจังหวัดกระบี่ จะเชิญพลเรือตรี .สมัย ใจอินทร์ เจ้ากรมพัฒนาการช่าง กรมอู่ทหารเรือ มาให้ความรู้ พร้อมจัดเวทีเสวนาและแถลงข่าวในหัวข้อ “B100 มีประโยชน์อย่างไร ดี-เสียอย่างไร” และจะจัดคาราวานไปในหลายจังหวัดภาคใต้ เพื่อปลุกกระแสให้เกิดการใช้ B100 เป็นพลังงานรถ เพื่อดันราคาผลปาล์ม” นายพันศักดิ์ กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ เจ็บ 21

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ ถนนสายเอเชีย ขาขึ้น จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้บาดเจ็บ 21 คน คาดคนขับหลับใน เบื้องต้นยังไม่พบตัว

เน้นเครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B, C คาดมีผู้ติดค้างจำนวนมาก

ฝนตกหนักช่วงเช้า เพิ่มอุปสรรคค้นหาผู้ประสบภัย และการรื้อซากอาคาร สตง.ถล่ม เจ้าหน้าที่ทุกส่วนต้องหยุดปฏิบัติภารกิจชั่วคราว วันนี้ยังเน้นใช้เครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B และโซน C ที่มีลักษณะคล้ายร่างกายมนุษย์ติดอยู่ในซาก ด้านทีม K9 ประกาศยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย