เวียงจันทน์ 14 ธ.ค. – ไทย-สปป.ลาวลงนามข้อตกลงสัญญาซื้อขายไฟฟ้า “เซเสด-น้ำงึม1” ฉบับใหม่ พร้อมผลักดันให้เกิดตลาดซื้อขายไฟฟ้าอาเซียนเต็มรูปแบบ
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (ฟฟล.) ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือสัญญาซื้อขายไฟฟ้าน้ำงึม 1 และเซเสดฉบับใหม่ โดยปรับอัตราค่าไฟฟ้าใหม่สะท้อนต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าที่แท้จริง ซึ่งพิธีลงนามมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นสักขีพยาน
ขณะเดียวกันทั้ง 2 หน่วยงานได้จัดเสวนาสายส่งสายสัมพันธ์พลังงานลาวไทยมั่นยืนในวาระครบรอบ 50 ปี เชื่อมสายส่งไฟฟ้าระหว่างกัน และในอนาคตกำลังพัฒนาตลาดซื้อขายไฟฟ้าอาเซียนภายใต้อาเซียนกริด โดยลาวจะเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าหลักขายไฟฟ้าในภูมิภาคนี้ผ่านสายส่งจากไทยในรูปแบบเหมือนตลาดไฟฟ้าของสหภาพยุโรป
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. เปิดเผยว่า การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้เนื่องมาจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าน้ำงึม 1 และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเซเสดฉบับเดิมครบกำหนดอายุสัญญาฯ โดย ฟฟล.ได้ขอเสนอปรับอัตราค่าไฟฟ้าใหม่สำหรับทั้ง 2 โครงการ เพื่อให้สะท้อนต้นทุนผลิตไฟฟ้าที่แท้จริงตามที่มีการซื้อขายไฟฟ้ากันในปัจจุบัน โดยมีสาระสำคัญ อัตราค่าไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างเจรจาและพิจารณาเสนอขออนุมัติฝ่ายนโยบายที่จะใช้ทำสัญญากับ ฟฟล. สำหรับปี 2562 นั้น ปริมาณไฟฟ้าที่ กฟผ.จะรับซื้อจาก ฟฟล.ให้มีอัตราค่าไฟฟ้าในช่วง Peak เท่ากับ 1.80 บาทต่อหน่วย และในช่วง Off-Peak เท่ากับ 1.53 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราเฉลี่ยประมาณ 1.63 บาทต่อหน่วย และสำหรับปริมาณไฟฟ้าที่ ฟฟล.รับซื้อจาก กฟผ.ให้มีอัตราค่าไฟฟ้าในช่วง Peak เท่ากับ 1.90 บาทต่อหน่วย และในช่วง Off-Peak เท่ากับ 1.63 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราเฉลี่ยประมาณ 1.73 บาทต่อหน่วย โดยอัตราค่าไฟฟ้าดังกล่าวจะเป็นอัตราที่ใช้ระหว่าง กฟผ. และ ฟฟล. จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562
ทั้งนี้ อัตราค่าไฟฟ้าใด ๆ ที่จะใช้ระหว่างกันตลอดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่และตลอดช่วงเวลาการต่ออายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่จะต้องอยู่ในอัตราระหว่างอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยต่ำสุดที่อัตราค่าไฟฟ้าตามสัญญาฯ ปัจจุบัน 1.33 บาทต่อหน่วย และอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยสูงสุดไม่เกินราคาเฉลี่ย Primary Energy ที่รับซื้อจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ IPP ใน สปป. ลาว 2.10 บาทต่อหน่วย
สำหรับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าน้ำงึม 1 ฉบับเดิม ปี 2517 – ปัจจุบัน (ผนวกรวมโครงการน้ำลึก และโครงการน้ำเทิน 2 เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา) มีการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าตามต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ณ เวลานั้น ซึ่งในช่วง Peak เท่ากับ 1.60 บาทต่อหน่วย และในช่วง Off-Peak เท่ากับ 1.20 บาทต่อหน่วย และสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าเซเสดฉบับเดิม ปี 2548 – ปัจจุบัน (ผนวกรวมโครงการเซเสด 2 และโครงการห้วยลำพันใหญ่ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา) มีการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าตามต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ณ เวลานั้น ซึ่งในช่วง Peak เท่ากับ 1.60 บาทต่อหน่วย และในช่วง Off-Peak เท่ากับ 1.20 บาทต่อหน่วย
“การลงนามของทั้ง 2 ฝ่ายในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่นี้ นอกจากจะเป็นการลงนามเพื่อกำหนดราคาให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของพลังงานไฟฟ้าที่มีการซื้อขายกันที่เป็นปัจจุบันแล้ว ยังเป็นการลงนามในวาระครบรอบ 50 ปี สายส่งสานสัมพันธ์ พลังงาน ลาว – ไทย มั่นยืน เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ และการเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาด้านพลังงานไฟฟ้าร่วมกันอย่างยั่งยืน ซึ่งจะมีส่วนช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศต่อไป” นายวิบูลย์ กล่าว.- สำนักข่าวไทย