กรุงเทพฯ 11 ธ.ค. – บีกริมเพาเวอร์ฯ จับมือเอดีบีออกหุ้นกู้กรีนบอนด์ เพื่อพัฒนาพลังงานสะอาดในไทย
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ร่วมลงนามสัญญาและแถลงข่าวความสำเร็จในการออกหุ้นกู้กรีนบอนด์ มูลค่า 5,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานทดแทนขึ้นเป็นร้อยละ 30 ภายในปี 2564 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) โดยมีนายไมเคิล แบร์โรว์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการภาคเอกชนเอดีบี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยาน
นางปรียนาถ เปิดเผยว่า บีกริมฯ มีประสบการณ์อย่างยาวนานในอุตสาหกรรมพลังงานและถือว่าเป็นผู้นำในภาคเอกชนรายหนึ่งของประเทศและระดับภูมิภาค ทั้งยังตระหนักดีถึงการมีส่วนร่วมต่อประชาคมโลก ที่จะร่วมส่งเสริมดูแลสภาพภูมิอากาศของโลก ด้วยการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและพัฒนาทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรไม่ว่าในด้านการลดมลภาวะหรือใช้พลังงานสะอาด จึงเริ่มออกหุ้นกู้กรีนบอนด์ มูลค่า 5,000 ล้านบาท หรือ 155 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบด้วย หุ้นกู้อายุ 5 ปี และอายุ 7 ปี ซึ่งเป็นครั้งแรกของหุ้นกู้กรีนบอนด์ที่ได้รับการรับรองโดย Climate Bonds Initiative จะออกในประเทศไทย ทั้งนี้ การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากเอดีบี ถือเป็นสิ่งสำคัญและมีคุณค่าอย่างยิ่งที่จะช่วยสะท้อนความเชื่อมั่น ตลอดจนสร้างความมั่นใจได้ว่าหุ้นกู้ฯ ดังกล่าวมีการจัดทำแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในระดับสากล สอดคล้องกับมาตรฐานเกณฑ์การออกพันธบัตรอาเซียนกรีนบอนด์ที่จะใช้เกณฑ์เดียวกันทั่วภูมิภาคอาเซียนของสมาคมตลาดทุนระหว่างประเทศ ซึ่งเกิดจากความสัมพันธ์อันยาวนานที่ทำขึ้นจากการทำธุรกรรมหลายอย่างต่อกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องระหว่าง บีกริมและเอดีบี
นางปรียนาถ กล่าวว่า ปัจจุบันบีกริมฯ มีโรงไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ 33 แห่ง แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 15 แห่ง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 15 แห่ง โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2 แห่ง และโรงไฟฟ้าพลังงานดีเซล 1 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกว่า 2,045 เมกะวัตต์ และมีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาอีกกว่า 1,081 เมกะวัตต์ รวมเป็นจำนวนกำลังการผลิตติดตั้ง ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้วขณะนี้ 3,126 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ จากการออกหุ้นกู้ กรีนบอนด์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาศักยภาพการผลิตไฟฟ้าของบริษัทฯ ที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนหรือพลังงานสะอาด จากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 30 ให้สำเร็จภายในปี 2564
ด้านธนาคารพัฒนาเอเชียระบุว่าการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาตลาดพันธบัตรสีเขียว (กรีนบอนด์) ในประเทศไทย ที่สำคัญเงินทุนที่ได้จะนำมาใช้สำหรับโครงการพลังงานทดแทนในประเทศไทย ยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างวิถีสังคมคาร์บอนต่ำเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และยังจะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ตั้งไว้ร้อยละ 20 โดยไร้ข้อจำกัดของเงื่อนไขภายในปี 2573 โดยเงินทุนที่ได้จากหุ้นกู้กรีนบอนด์จะใช้สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ดำเนินการแล้ว 9 แห่ง กำลังการผลิต 67.7 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 7 แห่งที่กำลังก่อสร้างอยู่ ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมดในประเทศไทยมีกำลังการผลิตรวม 30.8 เมกะวัตต์ การลงทุนพันธบัตรสีเขียวเป็นครั้งที่ 2 ของเอดีบี โดยปี 2559 ธนาคารสนับสนุนโครงการ พลังงานความร้อนใต้พิภพ Tiwi และ Makban ในฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นโครงการเสนอขายพันธบัตรสีเขียวครั้งแรกของประเทศ และสำหรับการลงทุนหุ้นกู้ครั้งนี้เป็นการติดต่อทางธุรกิจครั้งที่ 3 ระหว่างเอดีบี และบีกริมเพาเวอร์ โดยปี 2560 เอดีบีซื้อหุ้นสามัญ IPO ของบีกริมเพาเวอร์ และเมื่อต้นปีนี้เอดีบี ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้เพื่อสนับสนุนการขยายสู่ตลาดพลังงานทดแทนทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ บีกริม.-สำนักข่าวไทย