กทม. 10 ธ.ค.-ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ โพสต์ชี้แจงกรณีไม่รับคนไข้ถูกสารเคมีระเบิดใส่ เหตุเกินขีดความสามารถของ รพ.เพราะผิวหนังไหม้ถึงร้อยละ95 ต้องไป รพ.ใหญ่ ขณะที่วันพรุ่งนี้ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมเตรียมเข้าพบกรม สบส.ขอความช่วยเหลือกรณีดังกล่าว
พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘เหรียญทอง แน่นหนา’ ถึงกรณี รพ.ไม่รับคนไข้ถูกสารเคมีระเบิดใส่ ว่า เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นต่อสาธารณชน ได้โปรดแชร์เพื่อทราบโดยทั่วกันด้วยว่า กรณีผู้บาดเจ็บจากโรงงานสารเคมีระเบิดจนเกิดบาดแผลไหม้ เป็นผู้ประกันตนสิทธิประกันสังคมกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ผู้บาดเจ็บรายนี้ได้ประสบเหตุจากการทำงานในโรงงานสารเคมีที่เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ จ.ปทุมธานี และมีการส่งตัวเข้ารักษาเบื้องต้นใน รพ.ย่านใกล้เคียงที่เกิดเหตุ
แต่เนื่องจากผู้บาดเจ็บมีบาดแผลไหม้จากสารเคมีซึ่งเป็นการไหม้ในระดับ 3 [Third degree burn] มากถึง 95% ซึ่งถือว่าเป็นบาดแผลไหม้ในระดับสูงสุด รพ.แรกรับจึงจำเป็นต้องหา รพ.ส่งต่อ ที่มีขีดความสามารถในการรักษาบาดแผลไหม้ในระดับสูงสุด ซึ่ง รพ.ที่มีขีดความสามารถในระดับนี้จะมีก็แต่ รพ.ที่เป็นคณะแพทยศาสตร์ [University Hospital] หรือ รพ.ในระดับตติยภูมิขั้นสูง [Super-Tertiary Hospital] ในสังกัดของหน่วยงานรัฐเท่านั้น
การรักษาผู้บาดเจ็บรายนี้ไม่ว่าจะโดย รพ.รัฐหรือ รพ.เอกชนก็ตามสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้เต็มจำนวน จากกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม การที่ รพ.มงกุฎวัฒนะไม่รับการส่งตัวผู้บาดเจ็บรายนี้ หาได้เกิดจากปัญหาค่าใช้จ่าย หรือการขาดจิตสำนึกแต่อย่างใด แต่เพราะผู้บาดเจ็บรายนี้เป็นกรณีไหม้ในระดับ 3 [Third degree burn] มากถึง 95% ซึ่งถือว่าเป็นบาดแผลไหม้ในระดับสูงสุด จึงยากเกินขีดความสามารถของ รพ.มงกุฎวัฒนะที่ทำการรักษาได้
ด้านชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ‘ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม’ระบุว่า รับช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้รายนี้ให้ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากไม่มีโรงพยาบาลไหนรับรักษาให้ตามสิทธิประกันสังคม โดยในวันอังคารนี้ ทางชมรมฯ จะเรียนอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ให้เข้ามาช่วยเหลือโดยเร่งด่วน .-สำนักข่าวไทย