สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี 28 พ.ย.-นายกฯพบคนไทยในเยรมนี ย้ำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อดูแลประชาชน ไม่ใช่หาเสียง อ้อนเอาหัวใจมาฝาก ไม่ใช่เรื่องการเมือง ขอรักน้อย ๆ แต่นาน ๆ
“สุธิดา ปล้องพุดซา” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ติดตามภารกิจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมคณะ เยือนกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายน 2561 รายงานว่า เมื่อเวลา 15.45 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง โดยนายกรัฐมนตรีพบปะพูดคุยกับชุมชนไทยในเยอรมนี พร้อมรับชมการแสดงรำไทยจากเยาวชนที่มีเชื้อสายไทย-เยอรมัน โดยเยาวชนได้มอบพวงมาลัยให้กับนายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจ เป็นเรื่องธรรมดาที่คนไทยเมื่ออยู่ที่ใดแล้วมีโอกาสเจอกันก็จะมีความสุข การแสดงของเยาวชนไทยที่นี่แสดงให้เห็นถึงความเป็นไทยที่มีรากแก้วแข็งแรง ตนทราบดีว่า การอยู่อาศัยที่ต่างประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทุกคนก็ปรับตัวให้เข้ากับประเทศนั้น และเชื่อว่าทุกคนคงไม่ลืมประเทศไทย
“4 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลนี้ ประเทศไทยมีเสถียรภาพและเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562 ทุกคนต้องเปลี่ยนหลักคิดและวิธีการใหม่ ขอให้เลือกตั้งให้ดี อย่าฟังอะไรที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เพราะเรื่องบางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำ ทุกคนต้องมีหลักคิดในการเลือกตั้ง 4 ปีรัฐบาลออกกฎหมายมากกว่า 400 ฉบับ ซึ่งไม่เคยมีรัฐบาลใดที่ออกกฎหมายได้เช่นนี้ เศรษฐกิจก็ดีขึ้นพอสมควร ก่อนที่ผมจะเข้ามาบริหารประเทศ อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยอยู่ที่ 0.9 ทำให้ความน่าเชื่อถือตกไป รัฐบาลค่อย ๆ แก้ไขปัญหา จนกระทั่งในปีที่ 4 การเติบโตทางเศรษฐกิจขึ้นมาอยู่ที่ 4.3 วันนี้ เศรษฐกิจใหม่เกิดขึ้นเพราะ โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ขณะที่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ประชาชนมาขึ้นทะเบียนเพื่อรัฐบาลจะดูแลอย่างเต็มที่ ทำให้คนมีรายได้มากขึ้น ไม่ใช่การดูถูกประชาชน และไม่ได้ทำเพื่อการหาเสียงด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขออย่ามองว่ายุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปีนานจนเกินไป เพราะประเทศต้องเดินหน้า โลกยุคใหม่ที่ไร้พรมแดนจะต้องมีภูมิคุ้มกัน มีหลักคิดที่ถูกต้อง ไม่ใช่เรียนหนังสือเพื่อให้สอบได้ แต่เพื่อให้ทำงานเป็น ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์จัดทำขึ้นเพื่อคนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ขณะที่ด้านการเกษตร ต้องพัฒนาการเกษตรปลอดภัย คือการใช้เคมีได้ในจำนวนจำกัด ก่อนจะนำไปสู่เกษตรอินทรีย์ที่ไม่ใช้สารเคมีใด ๆ ทั้งสิ้น ทราบว่าทุกคนห่วงใยประเทศชาติ แต่เห็นแล้วว่าไม่ง่ายสำหรับผู้ประกอบการไทยในต่างประเทศ
“ประเทศไทยไม่เคยเจอสงครามมากมายแบบนี้มาก่อน มีแต่ความขัดแย้งกันเอง ทำไมไม่เลือกตั้งให้ดี ประชาธิปไตยไม่จำเป็นต้องทะเลาะกัน แต่คือการรับฟังเสียงส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องพัฒนา ยุทธศาสตร์ชาติได้วางกรอบไว้ทั้งหมดแล้ว แต่ต้องดูว่ารัฐบาลชุดต่อไปจะดำเนินการได้หรือไม่ ยืนยันว่าผมทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ได้หวังผลประโยชน์ ที่ผ่านมาสังคมบิดเบือน ปราศจากความปรองดอง แต่ทุกวันนี้ ผมทำให้ทุกคนดูโทรทัศน์ช่องเดียวกันได้แล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการหารือทวิภาคีกับนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี นับว่าเป็นบุคคลที่สร้างคุณูปการให้กับโลกอย่างมาก และปี 2562 ไทยจะเป็นประธานอาเซียน อาเซียนต้องพึ่งพากันและนำพาต่างชาติเข้ามาลงทุน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้มาการเมือง แต่มาเยี่ยมคนไทย เอาหัวใจมาฝาก ขอให้รักน้อย ๆ แต่รักนาน ๆ เพราะรักหวือหวา เดี๋ยวก็เลิกรัก .-สำนักข่าวไทย
