นายกฯแนะคนไทยในอังกฤษรอบคอบในการรับข้อมูลจากโซเชียล

สหราชอาณาจักร 21 มิ.ย.-นายกฯพอใจเยือนอังกฤษประสบความสำเร็จ ได้รับการต้อนรับอบอุ่นทั้งจากผู้นำประเทศและคนไทย ไม่โกรธคนต่อต้าน แนะรับข้อมูลโซเชียลด้วยความรอบคอบ แจงกรณีผ้าพันคอหรู-ภรรยาไม่ได้ร่วมทริปด้วย


สกนธ์ จินดาวรรณ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ติดตามภารกิจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และคณะ เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 19-26 มิถุนายน รายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของสหราชอาณาจักร ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีพบกับคนไทยและนักศึกษาไทยที่อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรจำนวน 267 คน โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางมาสหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรกในยุโรปที่มาเยือนในรอบ 4 ปี ซึ่งตนเข้าใจบริบทและข้อจำกัดการเมืองของแต่ละประเทศ


“การมาครั้งนี้ตั้งใจจะทำประโยชน์ให้กับประเทศไทย จึงขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ แม้จะมีคนบางกลุ่มไม่เห็นด้วย แต่ผมเข้าใจและไม่โกรธเคือง จึงอยากฝากบอกไปยังกลุ่มคนเหล่านั้นด้วยว่าผมทำเพื่อคนไทย ที่สำคัญคนไทยอย่าสร้างปัญหาทะเลาะเบาะเเว้งกันให้ส่งผลเสียมาถึงประเทศไทย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี เล่าถึงการพบกับนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ว่า บรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี มีความเป็นมิตรไมตรีต่อกัน ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกต่อความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ขณะเดียวกันได้ชี้แจงถึงการเดินหน้ายุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการวางอนาคตประเทศอย่างเป็นระบบ ส่วนการเลือกตั้งยังคงเป็นไปตามโรดเเมปต้นปีหน้า 

“ช่วงเวลาระหว่างนี้ผมจะดูแลและจัดการไม่ให้ประเทศไทยประสบกับปัญหาความขัดแย้งเหมือนในอดีต สำหรับการปลดล็อคผ่อนปรนให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองจะแบ่งเป็นห้วงเวลาตามความเหมาะสม อย่างช่วงที่หนึ่งอาจจะเปิดโอกาสให้สามารถประชุมพรรคดำเนินกิจกรรมการเมือง ไม่ให้เป็นปัญหาติดล็อคเงื่อนเวลาของกฎหมาย แต่จะไม่ปล่อยให้มีการชุมนุมประท้วงบนถนนอีกเด็ดขาด ขณะที่การเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดขึ้นหลังจาการเลือกตั้งใหญ่ไปแล้ว 3 เดือน” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้มาเพราะตัวเอง แต่นำเกียรติยศชื่อเสียงของประเทศไทยมาด้วย มาแสดงให้คนอังกฤษเห็นว่าตลอดความสัมพันธ์ 400 ปี เปลี่ยนแปลงกันไม่ได้ เพื่อนยังคงเป็นเพื่อน สิ่งดี ๆ คงต้องรักษาไว้

“ใครที่กล่าวหาว่าผมใช้อำนาจ ผมไม่เคยใช้เพื่อดูแลปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองหรือขู่บังคับใคร สิ่งที่ทำเพื่อประเทศชาติทั้งนั้น ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็น และแม้ว่าผมจะไม่ใช้อำนาจเหล่านั้น แต่ก็จะสู้เพราะรู้ว่าทำความดี อยากให้ทุกคนระมัดระวังการรับข้อมูลจากโซเชียลมีเดียที่กล่าวร้ายกันไปมา ซึ่งผมก็โดนเล่นงานเช่นกัน ช่วงแรกระหว่างที่ดำรงตำแหน่งเป็นทหารรู้สึกโกรธ แต่เมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีจึงทำใจได้ ไม่โกรธ แม้ผมจะไม่เคยทำสิ่งที่ไม่ดีตามที่กล่าวหา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการเสนอภาพนายกรัฐมนตรีพันผ้าพันคอ ขณะที่ผู้ร่วมคณะอื่นแต่งกายเพียงเสื้อเชิ๊ต ว่า รู้สึกไม่สบาย มีอาการหนาว ๆ ร้อน ๆ จึงใส่ผ้าพันคอโดยไม่ได้ดูยี่ห้อว่าหรูหราอะไร แต่ถูกกล่าวหาว่าแต่งตัวหล่อเกินไป 

“ก็ผมหนาวของผม ถ้าผมไม่ใส่ผ้าพันคอ วันนี้ผมก็ไม่สามารถมาพูดคุยกับคนที่นี่ได้ เพราะไม่สบาย ถ้าเกิดมีปัญหาคราวหน้าผมจะไม่ใส่ผ้าพันคอ แต่จะเอาผ้าขาวม้ามาใส่แทนผ้าพันคอ ลองคิดดูว่าน่าเสียใจไหม ทำงานมาแทบตาย แทนที่จะดูผลงานการเดินทางมาสหราชอาณาจักร แต่กลับมาดูแต่ผ้าพันคอและเสื้อผ้า การที่ภรรยาผมไม่ได้เดินทางมาด้วยเพราะติดธุระต้องไปพบแพทย์ แม้จะตั้งใจอยากมา เก็บของเสร็จแล้วก็ตาม และไม่ใช่จะไม่เพราะเป็นข่าวเรื่องมาฉลองวันเกิดอย่างนำเสนอข่าวกัน” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้ายของการพบปะกับคนไทยในสหราชอาณาจักร ได้เปิดโอกาสให้ซักถามและมอบของขวัญดอกไม้ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกร่วมกับคนไทยในสหราชอาณาจักรท่ามกลางบรรยากาศเป็นกันเอง

 

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้บันทึกเทปรายการศาสตร์พระราชา โดยกล่าวสรุปผลการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักร ว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติทั้งจากนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และLord Fowler ประธานสภาขุนนาง สหราชอาณาจักรที่สภาขุนนาง โดยหารือถึงความร่วมมือด้านต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อความร่วมมือทั้ง 2 ประเทศ ทั้งด้านการรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ การเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจและการลงทุนภายใต้กรอบGlobal Britain การเปิดการค้าเสรีกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของไทย 

“เชื่อว่าการเยือนในครั้งนี้จะเป็นผลดี ทำให้การค้าการลงทุนระหว่างกันเพิ่มขึ้นจากอดีต และสร้างการพัฒนาให้กับประเทศไทย ให้เกิดความยั่งยืนตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้” นายกรัฐมนตรี ระบุ.-สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

EOD เก็บกู้ทำลายระเบิด M33 กลางบ้าน

ตรัง 20 ส.ค.- คนร้ายลอบขว้างระเบิด M33 ใส่บ้านในพื้นที่ ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ระเบิดทำงาน 1 ลูก อีก 1 ลูกไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ทำลายเสียงดังสนั่น เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย-สอบปมเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD จังหวัดตรัง ได้ทำการเก็บกู้และทำลายระเบิด M33 ที่ยังไม่ทำงาน ระหว่างทำลายเกิดเสียงดังสนั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ ยางรถยนต์ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันแรงระเบิดปลิวลอยขึ้นฟ้า ควันฟุ้งกระจายไปทั่ว สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง  โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านยูงงาม ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบขว้างระเบิดเข้าใส่บ้านหลังหนึ่ง ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ เจ้าของบ้านเล่าว่าช่วงเกิดเหตุคนในบ้านกำลังนอนหลับ ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง แต่ไม่กล้าออกมาดู กระทั่งเช้าพบหลุมระเบิดขนาดกว้างราว 2 ฟุต ลึก 1 ฟุต อยู่ข้างบ้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ทราบว่าบ้านหลังนี้เคยถูกลอบยิงมาแล้วหลายครั้ง จนเจ้าของบ้านต้องสร้างกำแพงสูงเพื่อป้องกัน แต่ล่าสุดกลับถูกลอบขว้างระเบิดแบบลูกเกลี้ยง […]

ทำแผนโจรชิงทอง 123 บาท สารภาพเป็นหนี้นอกระบบ

สมุทรปราการ 20 ส.ค.- โจรชิงทองกลางห้างดังสมุทรปราการ 123 บาท ทำแผนรับสารภาพกู้เงินมาลงทุนร้านซ่อมรถ เสียดอกรายวันแต่หมุนเงินไม่ทัน จึงก่อเหตุ  กรณีนายวีรวัฒน์ อายุ 31 ปี บุกเดี่ยวควงปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ที่ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ  ก่อนจะอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีเส้นทางที่ไร้กล้องวงจรปิด โดยเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พบว่าผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปทิ้งบ่อปลาแห่งหนึ่งในซอยวัดคอลาด แล้วหลบหนีต่อไป จึงไล่เรียงเบาะแสจนพบหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก เมื่อวาน (19 ส.ค.) จึงนำหมายค้นบ้านนายวีรวัฒน์ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับของกลางทองรูปพรรณซุกซ่อนไว้ในตู้ลำโพงหน้าบ้าน และใส่ในถุงพลาสติกฝังดินใต้ต้นไม้ข้างบ้าน รวมตรวจยึดทองคืนได้ประมาณ 90 บาท ยังเหลือทองคำอีก 33 บาท อยู่ระหว่างสอบขยายผล  ผู้ต้องหาสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบจากการกู้ยืมมาลงทุนร้านซ่อมรถและต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท จึงหมุนเงินไม่ทัน จากนั้นคิดวางแผนในการก่อเหตุ ประมาณ 1 […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบฯ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน

ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบค้างท่อ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน เน้นเศรษฐกิจชายแดน รองรับผลกระทบภาษี “ทรัมป์” และเหตุจำเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) หลังจากรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1.15 แสนล้านบาท รอบสอง 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท และกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) 8,488 ล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในรอบแรกพบว่า มีหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน จึงดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือค้างท่อ 2.6 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในงบกลางสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำมาพิจารณาใช้ในเรื่องจำเป็น เช่น การฟื้นเศรษฐกิจแดนไทย-กัมพูชา การใช้งบรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 19 ในบางรายการ หากส่วนราชการใดต้องการใช้งบดังกล่าว ต้องจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาในการจัดสรรงบให้ สำหรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐ ยอมรับว่า รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ […]