เฮ! ลูกจ้างส่วนราชการกว่าล้านคนได้รับสิทธิ พ.ร.บ.เงินทดแทน ฉบับใหม่

สปส. 21 พ.ย.- ข่าวดีสำหรับลูกจ้างส่วนราชการกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ ได้รับสิทธิตาม พ.ร.บ.เงินทดแทน ฉบับใหม่ ทันทีที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 9 ธ.ค.นี้


นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงความสำคัญของพระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 ว่า ทันทีที่กฎหมายว่าด้วยกองทุนเงินทดแทนฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2561 เป็นต้นไป จะส่งผลให้ลูกจ้างส่วนราชการทั้งประเทศกว่า 1 ล้านคน ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายนี้ ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างประเภทสัญญารายปี หรือสัญญาจ้างเหมา เช่น พนักงานกวาดถนน พนักงานเก็บขยะ ซึ่งเป็นลูกจ้างของกรุงเทพมหานคร (กทม.) รวมทั้งลูกจ้างของกิจการที่มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไรทางเศรษฐกิจด้วย เช่น องค์กรพัฒนาเอกชนต่างๆ จากเดิมที่ลูกจ้างเหล่านี้ไม่เคยได้รับสิทธิประโยชน์ค่าทดแทนจากกองทุนเงินทดแทน กรณีประสบอันตราย เจ็บป่วย สูญหายหรือตาย อันเนื่องมาจากการทำงานให้นายจ้าง 

นายอนันต์ชัย กล่าวต่อไปว่า กฎหมายใหม่ยังเพิ่มเงินทดแทนให้ลูกจ้าง จากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ70 ของค่าจ้างรายเดือน โดยกรณีลูกจ้างไม่สามารถทำงานได้และมีใบรับรองแพทย์ให้หยุดงาน ก็สามารถเบิกค่าทดแทนหยุดงานได้ตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป แต่สูงสุดไม่เกิน 1 ปี สำหรับกรณีลูกจ้างทุพพลภาพจะได้รับค่าทดแทนไม่น้อยกว่า 15 ปี หรือกรณีลูกจ้างถึงแก่ความตายหรือสูญหาย ทายาทก็จะได้รับค่าทดแทนมีกำหนด 10 ปี นอกจากนี้ยังได้เพิ่มค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพของลูกจ้าง จำนวน 40,000 บาท


ส่วนประโยชน์ที่นายจ้างได้รับจาก พ.ร.บ.เงินทดแทน ฉบับใหม่ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีอำนาจลดการจ่ายเงินเพิ่มในท้องที่ที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ ประสบภัยพิบัติ หรือมีสถานการณ์พิเศษอย่างอื่นได้ และปรับลดเงินเพิ่มหรือเบี้ยปรับจากเดิมร้อยละ 3 ต่อเดือน ลดลงเหลือร้อยละ 2 ต่อเดือน และกำหนดให้จำนวนเงินเพิ่มต้องไม่เกินจำนวนเงินสมทบที่นายจ้างต้องจ่าย ดังนั้น นายจ้างจึงไม่ต้องกังวลว่าจะต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนเงินทดแทนเพิ่มจากเดิมแต่อย่างใด 

ขณะเดียวกัน ยังอำนวยความสะดวกโดยเพิ่มช่องทางให้นายจ้างสามารถยื่นแบบรายการขึ้นทะเบียนนายจ้าง และจ่ายเงินสมทบ แจ้งการประสบอันตราย เจ็บป่วย หรือสูญหาย ผ่านทางสำนักงาน หน่วยบริการ ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทรัมป์” เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางถึงสนามบินในกรุงวอชิงตันแล้วในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ้น เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกชายคนเล็กถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูก 2 คน ถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชนตกสะพาน ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อ 10 ต.ค.67

รถน้ำมันระเบิดไนจีเรียหลังพลิกคว่ำ เสียชีวิต 77 ราย

รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหลังจากพลิกคว่ำในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไนจีเรีย คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 77 คนที่กำลังเอาถังมารองน้ำมันที่รั่วไหลจากรถบรรทุก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมประชุม World Economic Forum ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และตอกย้ำให้นักลงทุนและภาคเอกชนเชื่อมั่นใน “โอกาสของประเทศไทย” ตามแคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”

วันแรก กทม.ขอประชาชน Work From Home

หลังวันแรก กทม. ขอความร่วมมือประชาชน Work From Home พบว่าการจราจรบางจุดคล่องตัว รถลดลง แต่หลายจุดรถยังหนาแน่น โดยการประกาศขอความร่วมมือของ กทม. หลังค่าฝุ่น PM 2.5 ตลอดสัปดาห์เป็นสีส้ม ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ จำนวนมาก

ยื่นดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

“อาจารย์ปานเทพ-บอสณวัฒน์” พาตัวแทนมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด ยื่นดีเอสไอขอรับคดีแตงโมตกเรือเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 2 ลูก

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จำนวน 2 ลูก โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้าน รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมวางมาตรการคุมเข้มในพื้นที่