กทม. 14 พ.ย. – หลัง ครม.เห็นชอบให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ได้ ขั้นตอนต่อไปกระทรวงสาธารณสุขจะเร่งวิจัยการนำกัญชามารักษาโรค โดยเฉพาะโรคมะเร็ง เริ่มตั้งแต่คิดค้นสูตรยา ปริมาณยาที่เหมาะสมกับโรค และผลข้างเคียง ขณะเดียวกันแพทย์ที่สนับสนุนใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ เสนอให้นำตำรับยา “สนั่นไตรภพ” มาใช้ระหว่างรอผลวิจัย
แม้ยังไม่มีงานวิจัยรับรองว่ากัญชาสามารถรักษามะเร็งได้จริงหรือไม่ แต่ที่พรรคเขียว สถานที่ที่ผู้ป่วยมะเร็งรู้จักว่าเป็นที่ผลิตน้ำมันกัญชาขายและแจกฟรี ก็มีผู้ป่วยมะเร็งเดินทางมาขอซื้อ และขอคำแนะนำวิธีการสกัดน้ำมันกัญชาด้วยตัวเองทุกวัน หลังมีการพูดในกลุ่มคนไข้แบบปากต่อปากว่า หลังจากใช้น้ำมันกัญชารักษามะเร็งแล้วอาการดีขึ้น
ผู้ป่วยส่วนใหญ่เกินครึ่งที่มาที่นี่เป็นผู้ป่วยมะเร็ง รองลงมาเป็นผู้ป่วยเบาหวานและความดัน พวกเขาบอกว่า รู้ว่าการลักลอบใช้กัญชาในขณะนี้ยังเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และอาจมีความเสี่ยงจากการผลิตที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการแพทย์และตำรับยา แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
ผู้ช่วย ผอ.ด้านการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กังวลว่าผู้ป่วยมะเร็งที่ใช้กัญชารักษาทั้งที่ยังไม่มีผลวิจัยรับรอง อาจเกิดความเสี่ยงทำให้อาการแย่ลง ทำให้หลังการเห็นชอบของ ครม.ให้นำกัญชาซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 5 มาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ขั้นตอนต่อไปจะเร่งวิจัยว่าสาร CBD และ THC ในกัญชาสามารถรักษามะเร็งได้จริงหรือไม่ เพราะขณะนี้พบข้อมูลการนำกัญชามาใช้รักษาในผู้ป่วยมะเร็งน้อยมาก งานวิจัยนี้จะเริ่มตั้งแต่คิดสูตรยาที่เหมาะสมกับโรค ปริมาณในการใช้ยา ผลข้างเคียง จนถึงการนำไปทดสอบทั้งในสัตว์ทดลอง และผู้ป่วย เพื่อดูว่าได้ผลหรือไม่
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า มี 4 กลุ่มโรคที่สามารถใช้กัญชารักษาได้เลย เพราะมีข้อมูลวิจัยที่มีผลพิสูจน์ชัดเจนแล้ว เช่น การแก้คลื่นไส้อาเจียนในคนไข้มะเร็งที่รับยาเคมีบำบัด โรคลมชัก ปลายประสาทอักเสบ ส่วนโรคอื่นเช่น มะเร็งต้องวิจัยเพิ่มเติม ผู้ช่วย ผอ.ด้านการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ยืนยันว่าเวลา 5 ปีที่รัฐบาลให้เพื่อศึกษาวิจัยและใช้ทางการแพทย์ เพียงพอที่จะรู้ผลว่ากัญชารักษามะเร็งได้หรือไม่
แต่แพทย์ที่สนับสนุนการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ ระบุว่า ผู้ป่วยบางคนอาจรอไม่ได้ เพราะความรุนแรงของโรคที่มีไม่เท่ากัน จึงเสนอว่าระหว่างรองานวิจัยของแพทย์แผนปัจจุบัน ควรให้กระทรวงสาธารณสุขเปิดโอกาสให้ใช้ตำรับยาโบราณของไทย เช่น น้ำมันสนั่นไตรภพ เพราะเป็นตำรายาจากคัมภีร์โบราณ และพบบันทึกจารึกที่วัดโพธิ์ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งองค์การอนามัยโลกกำหนดให้ว่า ยาที่มีภูมิปัญญาโบราณ มีการบันทึก และใช้กันแพร่หลายในอดีต ไม่ต้องมีการวิจัยใหม่
ในเวทีผ่อนปรนกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ที่กระทรวงสาธารณสุขวันนี้ นอกจากจะเป็นการหารือด้านการแพทย์แล้ว ยังมีการเรียกร้องของเครือข่ายผู้ป่วยที่ใช้กัญชา ให้เปิดเสรีกัญชาเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปลูกเองได้และสกัดยาใช้เองโดยไม่ต้องผ่านแพทย์ หนึ่งในเหตุผลที่พวกเขาเรียกร้องแบบนี้ เพราะกังวลว่า อาจเกิดการผูกขาดยาจากภาครัฐ และการวิจัยที่ต้องใช้ระยะเวลา ซึ่งอาจไม่ทันกับอาการของโรคที่ผู้ป่วยกำลังเผชิญอยู่. – สำนักข่าวไทย