พาณิชย์ชี้คุณภาพข้าวดีดันราคาสูงขึ้นได้จริง

นนทบุรี 11 พ.ย. – รัฐมนตรีพาณิชย์และผู้ส่งออกข้าวไทยมั่นใจศักยภาพข้าวไทย หากดูแลคุณภาพทุกขั้นตอนดีราคาข้าวไทยสูงขึ้นได้จริงอาจเกินกว่า 20,000 บาทต่อตัน แนะทุกฝ่ายต้องร่วมมือจริงจัง 


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ต่อการดูแลข้าวไทยจะเน้นเรื่องคุณภาพข้าวไทยทุกขั้นตอนตั้งแต่หาพันธุ์ข้าว เพาะปลูกข้าว ตลอดจนส่งออกข้าวไปตลาดโลกอย่างมีคุณภาพสูง เพราะเชื่อว่าหลายประเทศทั่วโลกยอมสู้ราคาข้าวไทย แม้จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ โดยข้าวเปลือกหอมมะลิตอนนี้เฉลี่ย 17,000-18,000 บาทต่อตัน และเชื่อว่าหากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนรวมถึงเกษตรกรใส่ใจดูแลกันอย่างจริงจังโอกาสที่ข้าวเปลือกหอมมะลิไทยจะปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 20,000 บาทต่อตันได้ในอนาคตอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้หลายประเทศที่ปลูกข้าวจะหันมาส่งออกข้าวและแย่งตลาดข้าวไทยบ้าง แต่ในอนาคตจะแข่งขันด้านคุณภาพและปรับปรุงด้านขนส่งสินค้าทั้งระบบแบบครบวงจร เพราะการนำระบบไอทีมาใช้ในการขนส่งสินค้าจะครอบคลุมทั่วโลกและรวดเร็วมากขึ้น ดังนั้น ถ้าดูศักยภาพของไทยต่อการเป็นศูนย์กลางด้านไอทีโดยผ่านการเชื่อมโยงบิ๊กดาต้าที่ไทยพัฒนา เชื่อว่าจะทำให้การบริหารและจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นอกจากนี้ เป้าหมายสำคัญในฐานะที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตข้าวจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิด จากเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวที่เน้นแต่ปริมาณแต่ละปีต้องส่งออกข้าวมาก ๆ มาเป็นประเทศที่ส่งออกในอัตราที่เหมาะสมเฉลี่ย 9-10 ล้านต้น แต่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มข้าวไทยทุกประเภทให้สูงขึ้นแทน โดยรัฐบาลพยายามส่งเสริมลดพื้นที่เพาะปลูกข้าว แต่ให้เกษตรกรหันมาผสมผสานปลูกพืชอื่นทดแทน จะเห็นว่าช่วงแรกที่เกษตรกรยังไม่เข้าใจว่าลดพื้นที่เพาะปลูกข้าวหันจะทำอะไร ประกอบกับรายได้จะไม่พอเลี้ยงครอบครัว ซึ่งในวันนี้สามารถพูดได้ว่าการจำกัดปริมาณเพาะปลูกข้าวไม่ให้เกินกว่า 33 ล้านตันข้าวเปลือกต่อปี น่าจะทำให้สร้างรายได้ของมูลค่าข้าวในตลาดโลกสูงขึ้นส่งผลให้เกษตรกรขายข้าวเปลือกในประเทศสูงขึ้น 

ทั้งนี้ เฉลี่ยข้าวขาวจาก 6,000-6,500 บาท เพิ่มเป็น 7,000-8,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกหอมมะลิจากเดิม 15,000-16,000 บาท ขณะนี้ 17,000-18,000 บาทต่อตัน เนื่องจากข้าวไทยมีคุณภาพสูงกว่าประเทศที่ส่งออกข้าวด้วยกันและปีนี้หลายประเทศผู้ผลิตข้าวได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ทำให้เกิดความต้องการข้าวสูงส่งผลให้ราคาขยับขึ้น จึงเป็นไปได้ในอนาคตหากไทยยังเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจะต้องเน้นข้าวไทยให้มีคุณภาพสูงโดยไม่เน้นปริมาณข้าวมากจนเกินไปและขณะนี้ ภาคเอกชนไทยหลายรายหันมาแปรรูปข้าวไทยในเชิงอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากขึ้น ถือว่าใช้ปริมาณข้าวไม่มาก แต่สร้างมูลค่าเพิ่มในกลุ่มสินค้าแปรรูปด้านต่าง ๆ แทน ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องและภาครัฐพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่


ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การรักษาคุณภาพข้าวไทยเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกรจะต้องร่วมมือกัน เพื่อให้ข้าวไทยมีคุณภาพสูงขึ้น ซึ่งเวลานี้ ประเทศผู้ผลิตข้าวมีการพัฒนาพันธุ์ข้าวใกล้เคียงกับไทยทั้งรสชาติและคุณภาพ โดยจะต่างกันตรงราคายังถือว่าต่ำกว่าไทยพอสมควร หากเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องเกรงว่าจะเป็นทางเลือกลูกค้าหันไปสั่งซื้อข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านแทนนำเข้าข้าวไทยได้ในอนาคต แม้จะมีบางประเทศยอมสู้ราคาข้าวไทยที่แพงได้ แต่ในประเทศเหล่านี้จะลดปริมาณซื้อข้าวไทยในกลุ่มราคาแพงไม่มากแล้วหันซื้อข้าวที่มีคุณภาพใกล้เคียงข้าวไทยในจำนวนมากแทน จึงเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องให้ความสนใจในเรื่องนี้กันมากขึ้น

“ในช่วง 10 ปีที่แล้ว เริ่มจากการขายข้าวขาวเพียงชนิดเดียว แต่วันนี้เริ่มมีข้าวหลายชนิด ทั้งหอมมะลิ ข้าวเหนียว และข้าวขาวพันธุ์พื้นนิ่ม ราคาแตกต่างกันสามารถเพิ่มทางเลือก และยังตอบสนองความต้องการของประเทศผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาของไทยยังคงขายข้าวหอมมะลิและข้าวขาวพันธุ์พื้นแข็งที่ทำข้าวนึ่งเหมือนเดิม รวมทั้งราคาข้าวขาวเวียดนามก็แพงกว่าไทยประมาณ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน โดยปีนี้ราคาขายข้าวเฉลี่ยของเวียดนามอยู่ที่ 530 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่ข้าวไทยปีนี้ประมาณ 505 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเท่านั้น แม้ราคาหอมมะลิจะสูงถึง 1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่ปริมาณส่งออกน้อย ทำให้ราคาส่งออกเฉลี่ยยังต่ำกว่าเวียดนาม ถือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหารือกันอย่างจริงจัง โดยต้องเร่งหาพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ หรือเปิดตลาดใหม่ เพื่อแข่งขันกับเวียดนาม” ร.ต.ท.เจริญ กล่าว

ทั้งนี้ รัฐบาลควรเข้ามาสนับสนุนทดลองและหาพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ ที่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค เพราะที่ผ่านมาชาวนาไม่รู้ความต้องการของตลาด ซึ่งจะต้องทำความเข้าใจกับเกษตรกรว่าสิ่งที่ผลิตจะต้องเป็นความต้องการของตลาดด้วย รวมถึงอีกปัจจัยสำคัญ คือ การลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ที่ไทยยังต้นทุนสูง แต่กลับได้ผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่าเกือบทุกประเทศ เพื่อให้ไทยยังคงเป็นผู้นำตลาดค้าข้าวในช่วงที่ตลาดโลกมีการแข่งขันกันสูงขึ้น เพราะแต่ละประเทศมีการนำเข้าข้าวน้อยลง เนื่องจากต้องการความมั่นคงทางอาหาร จึงหันมาปลูกเองจนหลายประเทศขยับขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกข้าวแทนการนำเข้า เห็นได้ชัดเจนจากประเทศจีนที่ขณะนี้มีสตอกข้าวสูงถึง 113 ล้านตัน จากปกติจะเก็บสตอกเพียง 40 ล้านตัน จึงมีการนำไปทำข้าวนึ่ง ส่งออกไปยังตลาดแอฟริกา ซึ่งเป็นตลาดข้าวนึ่งสำคัญของไทย แต่ราคาถูกกว่าประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน  

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นประเด็นท้าทาย ไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้น เพราะจำนวนสตอกข้าวของจีนที่มีอยู่สูงมากนั้น หากมีการเทขายออกมา เชื่อว่าจะกระทบต่อตลาดข้าวทั่วทั้งโลกแน่นอน รวมถึงกรณีที่ประเทศผู้นำเข้าหลายประเทศเริ่มใช้มาตรการสารเคมีตกค้างในข้าวที่เข้มงวดมากขึ้น หรือใช้มาตรฐานที่สูงกว่า มาตรฐานการใช้วัตถุเจือปนอาหาร หรือ มาตราฐานโคเด็กซ์ (Codex) ของคณะกรรมาธิการอาหารระหว่างประเทศ โดยอ้างความปลอดภัยของผู้บริโภค เพื่อเป็นมาตรการกีดกันทางการค้า จึงอยากให้รัฐบาลเร่งวางแผนและกระตุ้นให้เกษตรกรใช้สารเคมีอย่างจำกัด และกำหนดระยะเวลาที่ใช้ให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาล่วงหน้าไม่ใช่เกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ เพราะจะส่งผลต่อชื่อเสียงข้าวไทยระยะยาว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย