พาณิชย์ชี้คุณภาพข้าวดีดันราคาสูงขึ้นได้จริง

นนทบุรี 11 พ.ย. – รัฐมนตรีพาณิชย์และผู้ส่งออกข้าวไทยมั่นใจศักยภาพข้าวไทย หากดูแลคุณภาพทุกขั้นตอนดีราคาข้าวไทยสูงขึ้นได้จริงอาจเกินกว่า 20,000 บาทต่อตัน แนะทุกฝ่ายต้องร่วมมือจริงจัง 


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ต่อการดูแลข้าวไทยจะเน้นเรื่องคุณภาพข้าวไทยทุกขั้นตอนตั้งแต่หาพันธุ์ข้าว เพาะปลูกข้าว ตลอดจนส่งออกข้าวไปตลาดโลกอย่างมีคุณภาพสูง เพราะเชื่อว่าหลายประเทศทั่วโลกยอมสู้ราคาข้าวไทย แม้จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ โดยข้าวเปลือกหอมมะลิตอนนี้เฉลี่ย 17,000-18,000 บาทต่อตัน และเชื่อว่าหากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนรวมถึงเกษตรกรใส่ใจดูแลกันอย่างจริงจังโอกาสที่ข้าวเปลือกหอมมะลิไทยจะปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 20,000 บาทต่อตันได้ในอนาคตอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้หลายประเทศที่ปลูกข้าวจะหันมาส่งออกข้าวและแย่งตลาดข้าวไทยบ้าง แต่ในอนาคตจะแข่งขันด้านคุณภาพและปรับปรุงด้านขนส่งสินค้าทั้งระบบแบบครบวงจร เพราะการนำระบบไอทีมาใช้ในการขนส่งสินค้าจะครอบคลุมทั่วโลกและรวดเร็วมากขึ้น ดังนั้น ถ้าดูศักยภาพของไทยต่อการเป็นศูนย์กลางด้านไอทีโดยผ่านการเชื่อมโยงบิ๊กดาต้าที่ไทยพัฒนา เชื่อว่าจะทำให้การบริหารและจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นอกจากนี้ เป้าหมายสำคัญในฐานะที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตข้าวจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิด จากเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวที่เน้นแต่ปริมาณแต่ละปีต้องส่งออกข้าวมาก ๆ มาเป็นประเทศที่ส่งออกในอัตราที่เหมาะสมเฉลี่ย 9-10 ล้านต้น แต่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มข้าวไทยทุกประเภทให้สูงขึ้นแทน โดยรัฐบาลพยายามส่งเสริมลดพื้นที่เพาะปลูกข้าว แต่ให้เกษตรกรหันมาผสมผสานปลูกพืชอื่นทดแทน จะเห็นว่าช่วงแรกที่เกษตรกรยังไม่เข้าใจว่าลดพื้นที่เพาะปลูกข้าวหันจะทำอะไร ประกอบกับรายได้จะไม่พอเลี้ยงครอบครัว ซึ่งในวันนี้สามารถพูดได้ว่าการจำกัดปริมาณเพาะปลูกข้าวไม่ให้เกินกว่า 33 ล้านตันข้าวเปลือกต่อปี น่าจะทำให้สร้างรายได้ของมูลค่าข้าวในตลาดโลกสูงขึ้นส่งผลให้เกษตรกรขายข้าวเปลือกในประเทศสูงขึ้น 

ทั้งนี้ เฉลี่ยข้าวขาวจาก 6,000-6,500 บาท เพิ่มเป็น 7,000-8,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกหอมมะลิจากเดิม 15,000-16,000 บาท ขณะนี้ 17,000-18,000 บาทต่อตัน เนื่องจากข้าวไทยมีคุณภาพสูงกว่าประเทศที่ส่งออกข้าวด้วยกันและปีนี้หลายประเทศผู้ผลิตข้าวได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ทำให้เกิดความต้องการข้าวสูงส่งผลให้ราคาขยับขึ้น จึงเป็นไปได้ในอนาคตหากไทยยังเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจะต้องเน้นข้าวไทยให้มีคุณภาพสูงโดยไม่เน้นปริมาณข้าวมากจนเกินไปและขณะนี้ ภาคเอกชนไทยหลายรายหันมาแปรรูปข้าวไทยในเชิงอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากขึ้น ถือว่าใช้ปริมาณข้าวไม่มาก แต่สร้างมูลค่าเพิ่มในกลุ่มสินค้าแปรรูปด้านต่าง ๆ แทน ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องและภาครัฐพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่


ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การรักษาคุณภาพข้าวไทยเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกรจะต้องร่วมมือกัน เพื่อให้ข้าวไทยมีคุณภาพสูงขึ้น ซึ่งเวลานี้ ประเทศผู้ผลิตข้าวมีการพัฒนาพันธุ์ข้าวใกล้เคียงกับไทยทั้งรสชาติและคุณภาพ โดยจะต่างกันตรงราคายังถือว่าต่ำกว่าไทยพอสมควร หากเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องเกรงว่าจะเป็นทางเลือกลูกค้าหันไปสั่งซื้อข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านแทนนำเข้าข้าวไทยได้ในอนาคต แม้จะมีบางประเทศยอมสู้ราคาข้าวไทยที่แพงได้ แต่ในประเทศเหล่านี้จะลดปริมาณซื้อข้าวไทยในกลุ่มราคาแพงไม่มากแล้วหันซื้อข้าวที่มีคุณภาพใกล้เคียงข้าวไทยในจำนวนมากแทน จึงเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องให้ความสนใจในเรื่องนี้กันมากขึ้น

“ในช่วง 10 ปีที่แล้ว เริ่มจากการขายข้าวขาวเพียงชนิดเดียว แต่วันนี้เริ่มมีข้าวหลายชนิด ทั้งหอมมะลิ ข้าวเหนียว และข้าวขาวพันธุ์พื้นนิ่ม ราคาแตกต่างกันสามารถเพิ่มทางเลือก และยังตอบสนองความต้องการของประเทศผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาของไทยยังคงขายข้าวหอมมะลิและข้าวขาวพันธุ์พื้นแข็งที่ทำข้าวนึ่งเหมือนเดิม รวมทั้งราคาข้าวขาวเวียดนามก็แพงกว่าไทยประมาณ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน โดยปีนี้ราคาขายข้าวเฉลี่ยของเวียดนามอยู่ที่ 530 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่ข้าวไทยปีนี้ประมาณ 505 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเท่านั้น แม้ราคาหอมมะลิจะสูงถึง 1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่ปริมาณส่งออกน้อย ทำให้ราคาส่งออกเฉลี่ยยังต่ำกว่าเวียดนาม ถือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหารือกันอย่างจริงจัง โดยต้องเร่งหาพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ หรือเปิดตลาดใหม่ เพื่อแข่งขันกับเวียดนาม” ร.ต.ท.เจริญ กล่าว

ทั้งนี้ รัฐบาลควรเข้ามาสนับสนุนทดลองและหาพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ ที่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค เพราะที่ผ่านมาชาวนาไม่รู้ความต้องการของตลาด ซึ่งจะต้องทำความเข้าใจกับเกษตรกรว่าสิ่งที่ผลิตจะต้องเป็นความต้องการของตลาดด้วย รวมถึงอีกปัจจัยสำคัญ คือ การลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ที่ไทยยังต้นทุนสูง แต่กลับได้ผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่าเกือบทุกประเทศ เพื่อให้ไทยยังคงเป็นผู้นำตลาดค้าข้าวในช่วงที่ตลาดโลกมีการแข่งขันกันสูงขึ้น เพราะแต่ละประเทศมีการนำเข้าข้าวน้อยลง เนื่องจากต้องการความมั่นคงทางอาหาร จึงหันมาปลูกเองจนหลายประเทศขยับขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกข้าวแทนการนำเข้า เห็นได้ชัดเจนจากประเทศจีนที่ขณะนี้มีสตอกข้าวสูงถึง 113 ล้านตัน จากปกติจะเก็บสตอกเพียง 40 ล้านตัน จึงมีการนำไปทำข้าวนึ่ง ส่งออกไปยังตลาดแอฟริกา ซึ่งเป็นตลาดข้าวนึ่งสำคัญของไทย แต่ราคาถูกกว่าประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน  

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นประเด็นท้าทาย ไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้น เพราะจำนวนสตอกข้าวของจีนที่มีอยู่สูงมากนั้น หากมีการเทขายออกมา เชื่อว่าจะกระทบต่อตลาดข้าวทั่วทั้งโลกแน่นอน รวมถึงกรณีที่ประเทศผู้นำเข้าหลายประเทศเริ่มใช้มาตรการสารเคมีตกค้างในข้าวที่เข้มงวดมากขึ้น หรือใช้มาตรฐานที่สูงกว่า มาตรฐานการใช้วัตถุเจือปนอาหาร หรือ มาตราฐานโคเด็กซ์ (Codex) ของคณะกรรมาธิการอาหารระหว่างประเทศ โดยอ้างความปลอดภัยของผู้บริโภค เพื่อเป็นมาตรการกีดกันทางการค้า จึงอยากให้รัฐบาลเร่งวางแผนและกระตุ้นให้เกษตรกรใช้สารเคมีอย่างจำกัด และกำหนดระยะเวลาที่ใช้ให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาล่วงหน้าไม่ใช่เกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ เพราะจะส่งผลต่อชื่อเสียงข้าวไทยระยะยาว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย