พาณิชย์ชี้คุณภาพข้าวดีดันราคาสูงขึ้นได้จริง

นนทบุรี 11 พ.ย. – รัฐมนตรีพาณิชย์และผู้ส่งออกข้าวไทยมั่นใจศักยภาพข้าวไทย หากดูแลคุณภาพทุกขั้นตอนดีราคาข้าวไทยสูงขึ้นได้จริงอาจเกินกว่า 20,000 บาทต่อตัน แนะทุกฝ่ายต้องร่วมมือจริงจัง 


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ต่อการดูแลข้าวไทยจะเน้นเรื่องคุณภาพข้าวไทยทุกขั้นตอนตั้งแต่หาพันธุ์ข้าว เพาะปลูกข้าว ตลอดจนส่งออกข้าวไปตลาดโลกอย่างมีคุณภาพสูง เพราะเชื่อว่าหลายประเทศทั่วโลกยอมสู้ราคาข้าวไทย แม้จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ โดยข้าวเปลือกหอมมะลิตอนนี้เฉลี่ย 17,000-18,000 บาทต่อตัน และเชื่อว่าหากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนรวมถึงเกษตรกรใส่ใจดูแลกันอย่างจริงจังโอกาสที่ข้าวเปลือกหอมมะลิไทยจะปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 20,000 บาทต่อตันได้ในอนาคตอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้หลายประเทศที่ปลูกข้าวจะหันมาส่งออกข้าวและแย่งตลาดข้าวไทยบ้าง แต่ในอนาคตจะแข่งขันด้านคุณภาพและปรับปรุงด้านขนส่งสินค้าทั้งระบบแบบครบวงจร เพราะการนำระบบไอทีมาใช้ในการขนส่งสินค้าจะครอบคลุมทั่วโลกและรวดเร็วมากขึ้น ดังนั้น ถ้าดูศักยภาพของไทยต่อการเป็นศูนย์กลางด้านไอทีโดยผ่านการเชื่อมโยงบิ๊กดาต้าที่ไทยพัฒนา เชื่อว่าจะทำให้การบริหารและจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นอกจากนี้ เป้าหมายสำคัญในฐานะที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตข้าวจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิด จากเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวที่เน้นแต่ปริมาณแต่ละปีต้องส่งออกข้าวมาก ๆ มาเป็นประเทศที่ส่งออกในอัตราที่เหมาะสมเฉลี่ย 9-10 ล้านต้น แต่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มข้าวไทยทุกประเภทให้สูงขึ้นแทน โดยรัฐบาลพยายามส่งเสริมลดพื้นที่เพาะปลูกข้าว แต่ให้เกษตรกรหันมาผสมผสานปลูกพืชอื่นทดแทน จะเห็นว่าช่วงแรกที่เกษตรกรยังไม่เข้าใจว่าลดพื้นที่เพาะปลูกข้าวหันจะทำอะไร ประกอบกับรายได้จะไม่พอเลี้ยงครอบครัว ซึ่งในวันนี้สามารถพูดได้ว่าการจำกัดปริมาณเพาะปลูกข้าวไม่ให้เกินกว่า 33 ล้านตันข้าวเปลือกต่อปี น่าจะทำให้สร้างรายได้ของมูลค่าข้าวในตลาดโลกสูงขึ้นส่งผลให้เกษตรกรขายข้าวเปลือกในประเทศสูงขึ้น 

ทั้งนี้ เฉลี่ยข้าวขาวจาก 6,000-6,500 บาท เพิ่มเป็น 7,000-8,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกหอมมะลิจากเดิม 15,000-16,000 บาท ขณะนี้ 17,000-18,000 บาทต่อตัน เนื่องจากข้าวไทยมีคุณภาพสูงกว่าประเทศที่ส่งออกข้าวด้วยกันและปีนี้หลายประเทศผู้ผลิตข้าวได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ทำให้เกิดความต้องการข้าวสูงส่งผลให้ราคาขยับขึ้น จึงเป็นไปได้ในอนาคตหากไทยยังเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจะต้องเน้นข้าวไทยให้มีคุณภาพสูงโดยไม่เน้นปริมาณข้าวมากจนเกินไปและขณะนี้ ภาคเอกชนไทยหลายรายหันมาแปรรูปข้าวไทยในเชิงอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากขึ้น ถือว่าใช้ปริมาณข้าวไม่มาก แต่สร้างมูลค่าเพิ่มในกลุ่มสินค้าแปรรูปด้านต่าง ๆ แทน ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องและภาครัฐพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่


ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การรักษาคุณภาพข้าวไทยเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกรจะต้องร่วมมือกัน เพื่อให้ข้าวไทยมีคุณภาพสูงขึ้น ซึ่งเวลานี้ ประเทศผู้ผลิตข้าวมีการพัฒนาพันธุ์ข้าวใกล้เคียงกับไทยทั้งรสชาติและคุณภาพ โดยจะต่างกันตรงราคายังถือว่าต่ำกว่าไทยพอสมควร หากเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องเกรงว่าจะเป็นทางเลือกลูกค้าหันไปสั่งซื้อข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านแทนนำเข้าข้าวไทยได้ในอนาคต แม้จะมีบางประเทศยอมสู้ราคาข้าวไทยที่แพงได้ แต่ในประเทศเหล่านี้จะลดปริมาณซื้อข้าวไทยในกลุ่มราคาแพงไม่มากแล้วหันซื้อข้าวที่มีคุณภาพใกล้เคียงข้าวไทยในจำนวนมากแทน จึงเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องให้ความสนใจในเรื่องนี้กันมากขึ้น

“ในช่วง 10 ปีที่แล้ว เริ่มจากการขายข้าวขาวเพียงชนิดเดียว แต่วันนี้เริ่มมีข้าวหลายชนิด ทั้งหอมมะลิ ข้าวเหนียว และข้าวขาวพันธุ์พื้นนิ่ม ราคาแตกต่างกันสามารถเพิ่มทางเลือก และยังตอบสนองความต้องการของประเทศผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาของไทยยังคงขายข้าวหอมมะลิและข้าวขาวพันธุ์พื้นแข็งที่ทำข้าวนึ่งเหมือนเดิม รวมทั้งราคาข้าวขาวเวียดนามก็แพงกว่าไทยประมาณ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน โดยปีนี้ราคาขายข้าวเฉลี่ยของเวียดนามอยู่ที่ 530 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่ข้าวไทยปีนี้ประมาณ 505 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเท่านั้น แม้ราคาหอมมะลิจะสูงถึง 1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่ปริมาณส่งออกน้อย ทำให้ราคาส่งออกเฉลี่ยยังต่ำกว่าเวียดนาม ถือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหารือกันอย่างจริงจัง โดยต้องเร่งหาพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ หรือเปิดตลาดใหม่ เพื่อแข่งขันกับเวียดนาม” ร.ต.ท.เจริญ กล่าว

ทั้งนี้ รัฐบาลควรเข้ามาสนับสนุนทดลองและหาพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ ที่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค เพราะที่ผ่านมาชาวนาไม่รู้ความต้องการของตลาด ซึ่งจะต้องทำความเข้าใจกับเกษตรกรว่าสิ่งที่ผลิตจะต้องเป็นความต้องการของตลาดด้วย รวมถึงอีกปัจจัยสำคัญ คือ การลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ที่ไทยยังต้นทุนสูง แต่กลับได้ผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่าเกือบทุกประเทศ เพื่อให้ไทยยังคงเป็นผู้นำตลาดค้าข้าวในช่วงที่ตลาดโลกมีการแข่งขันกันสูงขึ้น เพราะแต่ละประเทศมีการนำเข้าข้าวน้อยลง เนื่องจากต้องการความมั่นคงทางอาหาร จึงหันมาปลูกเองจนหลายประเทศขยับขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกข้าวแทนการนำเข้า เห็นได้ชัดเจนจากประเทศจีนที่ขณะนี้มีสตอกข้าวสูงถึง 113 ล้านตัน จากปกติจะเก็บสตอกเพียง 40 ล้านตัน จึงมีการนำไปทำข้าวนึ่ง ส่งออกไปยังตลาดแอฟริกา ซึ่งเป็นตลาดข้าวนึ่งสำคัญของไทย แต่ราคาถูกกว่าประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน  

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นประเด็นท้าทาย ไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้น เพราะจำนวนสตอกข้าวของจีนที่มีอยู่สูงมากนั้น หากมีการเทขายออกมา เชื่อว่าจะกระทบต่อตลาดข้าวทั่วทั้งโลกแน่นอน รวมถึงกรณีที่ประเทศผู้นำเข้าหลายประเทศเริ่มใช้มาตรการสารเคมีตกค้างในข้าวที่เข้มงวดมากขึ้น หรือใช้มาตรฐานที่สูงกว่า มาตรฐานการใช้วัตถุเจือปนอาหาร หรือ มาตราฐานโคเด็กซ์ (Codex) ของคณะกรรมาธิการอาหารระหว่างประเทศ โดยอ้างความปลอดภัยของผู้บริโภค เพื่อเป็นมาตรการกีดกันทางการค้า จึงอยากให้รัฐบาลเร่งวางแผนและกระตุ้นให้เกษตรกรใช้สารเคมีอย่างจำกัด และกำหนดระยะเวลาที่ใช้ให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาล่วงหน้าไม่ใช่เกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ เพราะจะส่งผลต่อชื่อเสียงข้าวไทยระยะยาว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]