พาณิชย์ชี้คุณภาพข้าวดีดันราคาสูงขึ้นได้จริง

นนทบุรี 11 พ.ย. – รัฐมนตรีพาณิชย์และผู้ส่งออกข้าวไทยมั่นใจศักยภาพข้าวไทย หากดูแลคุณภาพทุกขั้นตอนดีราคาข้าวไทยสูงขึ้นได้จริงอาจเกินกว่า 20,000 บาทต่อตัน แนะทุกฝ่ายต้องร่วมมือจริงจัง 


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ต่อการดูแลข้าวไทยจะเน้นเรื่องคุณภาพข้าวไทยทุกขั้นตอนตั้งแต่หาพันธุ์ข้าว เพาะปลูกข้าว ตลอดจนส่งออกข้าวไปตลาดโลกอย่างมีคุณภาพสูง เพราะเชื่อว่าหลายประเทศทั่วโลกยอมสู้ราคาข้าวไทย แม้จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ โดยข้าวเปลือกหอมมะลิตอนนี้เฉลี่ย 17,000-18,000 บาทต่อตัน และเชื่อว่าหากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนรวมถึงเกษตรกรใส่ใจดูแลกันอย่างจริงจังโอกาสที่ข้าวเปลือกหอมมะลิไทยจะปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 20,000 บาทต่อตันได้ในอนาคตอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้หลายประเทศที่ปลูกข้าวจะหันมาส่งออกข้าวและแย่งตลาดข้าวไทยบ้าง แต่ในอนาคตจะแข่งขันด้านคุณภาพและปรับปรุงด้านขนส่งสินค้าทั้งระบบแบบครบวงจร เพราะการนำระบบไอทีมาใช้ในการขนส่งสินค้าจะครอบคลุมทั่วโลกและรวดเร็วมากขึ้น ดังนั้น ถ้าดูศักยภาพของไทยต่อการเป็นศูนย์กลางด้านไอทีโดยผ่านการเชื่อมโยงบิ๊กดาต้าที่ไทยพัฒนา เชื่อว่าจะทำให้การบริหารและจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นอกจากนี้ เป้าหมายสำคัญในฐานะที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตข้าวจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิด จากเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวที่เน้นแต่ปริมาณแต่ละปีต้องส่งออกข้าวมาก ๆ มาเป็นประเทศที่ส่งออกในอัตราที่เหมาะสมเฉลี่ย 9-10 ล้านต้น แต่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มข้าวไทยทุกประเภทให้สูงขึ้นแทน โดยรัฐบาลพยายามส่งเสริมลดพื้นที่เพาะปลูกข้าว แต่ให้เกษตรกรหันมาผสมผสานปลูกพืชอื่นทดแทน จะเห็นว่าช่วงแรกที่เกษตรกรยังไม่เข้าใจว่าลดพื้นที่เพาะปลูกข้าวหันจะทำอะไร ประกอบกับรายได้จะไม่พอเลี้ยงครอบครัว ซึ่งในวันนี้สามารถพูดได้ว่าการจำกัดปริมาณเพาะปลูกข้าวไม่ให้เกินกว่า 33 ล้านตันข้าวเปลือกต่อปี น่าจะทำให้สร้างรายได้ของมูลค่าข้าวในตลาดโลกสูงขึ้นส่งผลให้เกษตรกรขายข้าวเปลือกในประเทศสูงขึ้น 

ทั้งนี้ เฉลี่ยข้าวขาวจาก 6,000-6,500 บาท เพิ่มเป็น 7,000-8,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกหอมมะลิจากเดิม 15,000-16,000 บาท ขณะนี้ 17,000-18,000 บาทต่อตัน เนื่องจากข้าวไทยมีคุณภาพสูงกว่าประเทศที่ส่งออกข้าวด้วยกันและปีนี้หลายประเทศผู้ผลิตข้าวได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ทำให้เกิดความต้องการข้าวสูงส่งผลให้ราคาขยับขึ้น จึงเป็นไปได้ในอนาคตหากไทยยังเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจะต้องเน้นข้าวไทยให้มีคุณภาพสูงโดยไม่เน้นปริมาณข้าวมากจนเกินไปและขณะนี้ ภาคเอกชนไทยหลายรายหันมาแปรรูปข้าวไทยในเชิงอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากขึ้น ถือว่าใช้ปริมาณข้าวไม่มาก แต่สร้างมูลค่าเพิ่มในกลุ่มสินค้าแปรรูปด้านต่าง ๆ แทน ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องและภาครัฐพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่


ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การรักษาคุณภาพข้าวไทยเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกรจะต้องร่วมมือกัน เพื่อให้ข้าวไทยมีคุณภาพสูงขึ้น ซึ่งเวลานี้ ประเทศผู้ผลิตข้าวมีการพัฒนาพันธุ์ข้าวใกล้เคียงกับไทยทั้งรสชาติและคุณภาพ โดยจะต่างกันตรงราคายังถือว่าต่ำกว่าไทยพอสมควร หากเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องเกรงว่าจะเป็นทางเลือกลูกค้าหันไปสั่งซื้อข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านแทนนำเข้าข้าวไทยได้ในอนาคต แม้จะมีบางประเทศยอมสู้ราคาข้าวไทยที่แพงได้ แต่ในประเทศเหล่านี้จะลดปริมาณซื้อข้าวไทยในกลุ่มราคาแพงไม่มากแล้วหันซื้อข้าวที่มีคุณภาพใกล้เคียงข้าวไทยในจำนวนมากแทน จึงเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องให้ความสนใจในเรื่องนี้กันมากขึ้น

“ในช่วง 10 ปีที่แล้ว เริ่มจากการขายข้าวขาวเพียงชนิดเดียว แต่วันนี้เริ่มมีข้าวหลายชนิด ทั้งหอมมะลิ ข้าวเหนียว และข้าวขาวพันธุ์พื้นนิ่ม ราคาแตกต่างกันสามารถเพิ่มทางเลือก และยังตอบสนองความต้องการของประเทศผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาของไทยยังคงขายข้าวหอมมะลิและข้าวขาวพันธุ์พื้นแข็งที่ทำข้าวนึ่งเหมือนเดิม รวมทั้งราคาข้าวขาวเวียดนามก็แพงกว่าไทยประมาณ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน โดยปีนี้ราคาขายข้าวเฉลี่ยของเวียดนามอยู่ที่ 530 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่ข้าวไทยปีนี้ประมาณ 505 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเท่านั้น แม้ราคาหอมมะลิจะสูงถึง 1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่ปริมาณส่งออกน้อย ทำให้ราคาส่งออกเฉลี่ยยังต่ำกว่าเวียดนาม ถือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหารือกันอย่างจริงจัง โดยต้องเร่งหาพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ หรือเปิดตลาดใหม่ เพื่อแข่งขันกับเวียดนาม” ร.ต.ท.เจริญ กล่าว

ทั้งนี้ รัฐบาลควรเข้ามาสนับสนุนทดลองและหาพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ ที่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค เพราะที่ผ่านมาชาวนาไม่รู้ความต้องการของตลาด ซึ่งจะต้องทำความเข้าใจกับเกษตรกรว่าสิ่งที่ผลิตจะต้องเป็นความต้องการของตลาดด้วย รวมถึงอีกปัจจัยสำคัญ คือ การลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ที่ไทยยังต้นทุนสูง แต่กลับได้ผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่าเกือบทุกประเทศ เพื่อให้ไทยยังคงเป็นผู้นำตลาดค้าข้าวในช่วงที่ตลาดโลกมีการแข่งขันกันสูงขึ้น เพราะแต่ละประเทศมีการนำเข้าข้าวน้อยลง เนื่องจากต้องการความมั่นคงทางอาหาร จึงหันมาปลูกเองจนหลายประเทศขยับขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกข้าวแทนการนำเข้า เห็นได้ชัดเจนจากประเทศจีนที่ขณะนี้มีสตอกข้าวสูงถึง 113 ล้านตัน จากปกติจะเก็บสตอกเพียง 40 ล้านตัน จึงมีการนำไปทำข้าวนึ่ง ส่งออกไปยังตลาดแอฟริกา ซึ่งเป็นตลาดข้าวนึ่งสำคัญของไทย แต่ราคาถูกกว่าประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน  

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นประเด็นท้าทาย ไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้น เพราะจำนวนสตอกข้าวของจีนที่มีอยู่สูงมากนั้น หากมีการเทขายออกมา เชื่อว่าจะกระทบต่อตลาดข้าวทั่วทั้งโลกแน่นอน รวมถึงกรณีที่ประเทศผู้นำเข้าหลายประเทศเริ่มใช้มาตรการสารเคมีตกค้างในข้าวที่เข้มงวดมากขึ้น หรือใช้มาตรฐานที่สูงกว่า มาตรฐานการใช้วัตถุเจือปนอาหาร หรือ มาตราฐานโคเด็กซ์ (Codex) ของคณะกรรมาธิการอาหารระหว่างประเทศ โดยอ้างความปลอดภัยของผู้บริโภค เพื่อเป็นมาตรการกีดกันทางการค้า จึงอยากให้รัฐบาลเร่งวางแผนและกระตุ้นให้เกษตรกรใช้สารเคมีอย่างจำกัด และกำหนดระยะเวลาที่ใช้ให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาล่วงหน้าไม่ใช่เกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ เพราะจะส่งผลต่อชื่อเสียงข้าวไทยระยะยาว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย

เก๋งแต่งซิ่ง เสียหลักพุ่งชนยับ 10 คันรวดบนทางด่วน

กทม. 16 ส.ค.-เก๋งแต่งซิ่งประลองความเร็ว เสียหลักพุ่งชนกันยับ 10 คันรวดบนทางด่วนมุ่งหน้าบางปะอิน เจ้าของรถบีเอ็ม เล่านาทีถูกชน เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคัน บนทางด่วนช่วงทางขึ้นเมืองทองธานี มุ่งหน้าบางปะอิน โดยภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งบันทึกภาพเวลา 00.59 น.วันนี้ (16 ส.ค.68) รถเก๋งสีขาวจำนวน 3 คัน ขับตามกันมาด้วยความเร็วก่อนเกิดการชนกัน ทำให้รถเสียหลักหมุน ก่อนจะถูกรถเก๋งที่ขับตามมาพุ่งชนซ้ำอีกหลายคัน บางคันเกือบตกทางด่วน หลังตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษ เร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถเก๋งแต่งซิ่งประมาณ 10 คัน บางคันเป็นรถหรูราคาแพง ได้รับความเสียหายยับเยิน กีดขวางทั้ง 2 ช่องจราจร มีเศษชิ้นส่วนของรถยนต์ที่แตกและหลุดกระจายเต็มพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปากเกร็ดและเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษได้ประสานรถยกเร่งเคลื่อนย้ายรถที่เสียหายออกพร้อมทำความสะอาดคราบน้ำมันและชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อเปิดการจราจรใช้เวลากว่า 3 ชม. จากการสอบถาม นายอชิตพล อายุ 29 ปี เจ้าของรถยนต์บีเอ็ม ที่ถูกชนกล่าวว่า ตนขับรถไปรับแฟนมาจากที่ทำงาน เพื่อจะเดินทางกลับบ้านย่านธรรมศาสตร์รังสิต ขณะที่ขับรถอยู่ในช่องทางขวา เห็นรถเก๋งสีขาวที่ขับตามมาด้วยความเร็ว ตนจะเปลี่ยนเลนหลบไปในช่องทางซ้าย แต่ก็ถูกรถเก๋งคันดังกล่าวพุ่งชนท้ายก่อนที่รถจะเสียหลักหมุน เป็นจังหวะเดียวกันกับรถอีกคันที่ขับตามกันมาด้วยความเร็วพุ่งชนซ้ำอีกครั้ง […]

‘ทรัมป์’ – ‘ปูติน’ หารือไร้ข้อสรุปเรื่องยุติสงครามในยูเครน

แองเคอเรจ, อะแลสกา 15 ส.ค. – การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอย ได้สิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ เพื่อยุติหรือพักรบสงครามในยูเครน แม้ว่าผู้นำทั้งสองจะกล่าวว่าการพูดคุยเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ก็ตาม หลังจากการประชุมยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมง ในอะแลสกา ผู้นำทั้งสองได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ โดยระบุว่ามีความคืบหน้าในประเด็นต่าง ๆ ที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ และไม่เปิดโอกาสให้ตั้งคำถาม นายทรัมป์ซึ่งปกติเป็นคนช่างพูด กลับเพิกเฉยต่อคำถามที่นักข่าวตะโกนถาม นายทรัมป์กล่าวว่า มีความคืบหน้าบ้าง แต่จะยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ จนกว่าจะมีการทำข้อตกลง ดูเหมือนว่าการพูดคุยครั้งนี้จะไม่ได้นำไปสู่การดำเนินการที่มีความหมายเพื่อหยุดยิงในความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในยุโรปในรอบ 80 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นายทรัมป์ได้ตั้งไว้ก่อนการประชุม แต่เพียงแค่การได้นั่งพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ถือเป็นชัยชนะสำหรับนายปูตินแล้ว หลังจากเขาถูกผู้นำชาติตะวันตกกีดกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 หลังการประชุมสุดยอด นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์นิวส์ ว่าเขาจะชะลอการกำหนดภาษีนำเข้ากับจีนสำหรับการซื้อน้ำมันรัสเซีย หลังจากที่การเจรจากับนายปูตินมีความคืบหน้า นายทรัมป์ยังเคยขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้เขายังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ แม้ว่านายปูตินจะเพิกเฉยต่อเส้นตายหยุดยิงที่นายทรัมป์กำหนดไว้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในการให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์ นิวส์ นายทรัมป์ยังได้เสนอแนะว่าจะมีการจัดการประชุมระหว่างนายปูตินและประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี […]

กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย