ไทยยังติดอันดับสถิติรุนแรงในครอบครัว1ใน10ของโลก

กทม.5 พ.ย.-เปิดสถิติความรุนแรงในครอบครัวและต่อสตรีของไทย ยังติดอันดับ 1ใน 10ของโลก สำรวจพบมีความรุนแรงถึงสูงร้อยละ34 ส่วนใหญ่ถูกทำร้ายจิตใจ ร่างกาย และรุนแรงถึงขั้นชีวิต พม.เร่งรณรงค์สร้างความตระหนักรู้หวังลดปัญหา


ในการแถลงข่าว ในประเด็น “ความตระหนักรู้ของสังคมไทยต่อพิษภัยความรุนแรงในครอบครัว” เนื่องในเดือนยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ตามการประกาศขององค์การสหประชาชาติ นพ.รณชัย คงสกนธ์ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัว (กสค.) กล่าวว่า สถานการณ์การใช้ความรุนแรงในครอบครัวปัจจุบันยังเกิดขึ้นทุกวันและที่สำคัญระดับการใช้ความรุนแรงกลับมีแนวโน้มสูงขึ้น  ซึ่งองค์การสหประชาชาติระบุว่าประเทศไทยติดอันดับสถิติคดีความรุนแรงต่อเด็กและสตรีเป็นอันดับ1ใน10 ของโลกอย่างต่อเนื่อง


ขณะที่ล่าสุดจากการสำรวจโดยคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดทำเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน โดยได้ดำเนินการสำรวจทั่วประเทศ จากจำนวน 2,280 ครัวเรือน พบว่าความรุนแรงต่อผู้หญิงและบุคคลในครอบครัวมีสัดส่วนความชุกถึงร้อยละ 34.6 เป็นความรุนแรงทางด้านจิตใจมีสัดส่วนมากถึง 1ใน 3 หรือร้อยละ 32.3 ความรุนแรงทางร่างกายประมาณร้อยละ 10 และความรุนแรงทางเพศมีประมาณร้อยละ5 แสดงให้เห็นถึงปัญหาที่มีความรุนแรงและมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น เห็นได้จากกรณีเหตุการณ์ในครอบครัวที่เป็นข่าวทางสื่อมวลชน เช่น กรณีสามีก่อเหตุแทงภรรยาจนเสียชีวิต ด้วยสาเหตุเมาสุราและเห็นภรรยาแต่งกายชุดวาบหวิว  หรือกรณีเด็กนักเรียนชั้นป.3ข่มขืน นักเรียนหญิงชั้น ป.2 เป็นต้น ดังนั้นปัญหานี้จึงถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไขอย่างจริงจัง


ดร.นรีมาลย์ นีละไพจิตร อาจารย์โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ในส่วนของความรุนแรงทางเพศกลุ่มตัวอย่าง ประมาณร้อยละ 93 หรือเกือบทั้งหมดของผู้ที่ได้รับความรุนแรงทางเพศถูกใช้ความรุนแรงทางเพศในลักษณะมีเพศสัมพันธ์โดยไม่เต็มใจและประมาณ 1ใน4 ถูกใช้กำลังบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย นอกจากนี้จะมีการกระทำถูกลวนลาม อนาจารและทำกิจกรรมทางเพศที่ไม่ชอบ และส่วนใหญ่จะเก็บปัญหาไว้ด้วยการอดทน และมีเพียงร้อยละ17 เท่านั้นที่มีการขอความช่วยเหลือ

นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  กล่าวว่า สาเหตุสำคัญประการหนึ่งของปัญหาความรุนแรงต่อเด็กสตรีและบุคคลในครอบครัว คือสาเหตุจากแนวคิดของสังคม ได้แก่ ค่านิยม ความเชื่อ จารีต ที่ถือกันว่าแนวความคิดเรื่องผู้ชายเป็นใหญ่ที่เชื่อมโยงความคิดว่าความรุนแรงเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าว คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี กระทรวงฯจึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมทั่วประเทศตลอดทั้งเดือนนี้ 

ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สังคมตระหนักและเห็นความสำคัญของปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่มีแนวโน้มสูงขึ้น พร้อมทั้งเป็นการสร้างกระแสทางสังคมในการสร้างความร่วมมือจากประชาชนในการยุติปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่มีผลกระทบต่อเด็กสตรีและบุคคลในครอบครัว โดยจะมีการจัดงานประกาศเจตนารมณ์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและบุคคลในครอบครัวในวันที่ 23 พ.ย.นี้ ที่ทำเนียบรัฐบาลและจะประกาศ  คิกออฟ พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่25พ.ย.นี้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน