กรุงเทพฯ 11 ก.ย.-สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจความเห็นของประชาชนที่มีต่อ “รัฐบาลไทย” เริ่มจากการสอบถามถึงประเด็น “5 อันดับข่าวการเมือง” ที่ประชาชนสนใจ
อันดับ 1 ประชาชนร้อยละ 83.57 สนใจข่าวการใช้มาตรา 44 ปราบปรามทุจริตข้าราชการและนักการเมือง เพราะเป็นการใช้อำนาจพิเศษแก้ปัญหาได้เด็ดขาด รวดเร็ว
อันดับ 2 ร้อยละ 74.64 สนใจข่าวร่างรัฐธรรมนูญ การจัดตั้งพรรคการเมือง เพราะอยากให้มีเลือกตั้งโดยเร็ว อยากเห็นรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์จะได้รู้ทิศทางการเมืองไทย
อันดับ 3 ร้อยละ 68.42 สนใจข่าวสถานการณ์ภาคใต้ ที่เกิดเหตุระเบิดหลายพื้นที่ เพราะเป็นปัญหาที่มีมานาน รู้สึกเป็นห่วง ไม่อยากให้สูญเสีย อยากให้ภาคใต้สงบสุข
อันดับ 4 ร้อยละ 67.54 สนใจข่าวภารกิจ และการบริหารงานของนายกรัฐมนตรี เพราะต้องการติดตามข่าวสารบ้านเมือง การทำงาน และผลงานของนายกฯ
อันดับ 5 ร้อยละ 55.66 สนใจข่าวการใช้งบฯในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ เพราะที่ผ่านมามักมีการทุจริตไม่โปร่งใส
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กับรัฐบาลที่มีนักการเมืองเป็นนายกรัฐมนตรี ประชาชนคิดว่ามีสิ่งใดที่ดีขึ้น-แย่ลง สิ่งที่ดีขึ้น คือการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น ร้อยละ 78.47 ทำงานเด็ดขาด จริงจัง บ้านเมืองเป็นระเบียบ ไม่มีการชุมนุม ร้อยละ 72.65 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมร้อยละ 61.48
สิ่งที่แย่ลง คือปัญหาเศรษฐกิจราคาพืชผลการเกษตร ร้อยละ 76.24 สถานการณ์ภาคใต้ระเบิดการก่อการร้าย ร้ยอละ 66.59 ความขัดแย้งถูกควบคุมสิทธิเสรีภาพ ร้อยละ 56.70
“5 อันดับรัฐบาลไทย” ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ประชาชนชื่นชอบ
อันดับ 1 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ร้อยละ 77.59 เพราะเป็นรัฐบาลทหาร เด็ดขาด จริงจัง
อันดับ 2 รัฐบาลทักษิณ ร้อยละ 70.41 เพราะเศรษฐกิจดี ต่างชาติให้การยอมรับ
อันดับ 3 รัฐบาลอภิสิทธิ์ ร้อยละ 63.16 เพราะมีนโยบายส่งเสริมการปฏิรูปการศึกษา
อันดับ 4 รัฐบาลชวน ร้อยละ 59.17 เพราะประเทศมีความก้าวหน้า บ้านเมืองสงบสุข
อันดับ 5 รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ร้อยละ 54.39 เพราะ เน้นช่วยเหลือเกษตรกรและคนจน
กรุงเทพโพลล์ สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “คะแนนนิยมพรรคการเมืองไทย หลังผ่าน 1 เดือนการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ”
ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 59.9 เห็นว่าการใช้ประชานิยมหาเสียงของพรรคการเมืองแบบที่ผ่านมาในอดีต ไม่เหมาะสมเพราะมีแค่กลุ่มคนบางกลุ่มได้รับผลประโยชน์จากประชานิยมนั้น ขณะที่ร้อยละ 32.4 เห็นว่าเหมาะสมเพราะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ส่วนที่เหลือร้อยละ 7.7 ไม่แน่ใจ
เมื่อถามว่า อยากให้มีการใช้ประชานิยมหาเสียงอยู่อีกหรือไม่ในอนาคต ส่วนใหญ่ร้อยละ 64.2 อยากให้มี แต่ต้องใช้อย่างสร้างสรรค์ โดยเน้นตอบสนองด้านเศรษฐกิจ แก้ปัญหาของแพงค่าครองชีพมากที่สุด (ร้อยละ 70.8) รองลงมาคือด้านการเกษตรสินค้าเกษตร (ร้อยละ 62.1) และด้านการศึกษา (ร้อยละ 59.6) ขณะที่ร้อยละ 31.6 ไม่อยากให้ใช้ประชานิยมหาเสียง
ส่วนคะแนนนิยมพรรคการเมืองพบว่า คะแนนนิยมพรรคประชาธิปัตย์อยู่ที่ร้อยละ 16.9 (ลดลงจากผลสำรวจเมื่อเดือน พฤษภาคม 2559 ร้อยละ 5.8) รองลงมาคือพรรคเพื่อไทยที่มีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 15.3 (ลดลงร้อยละ 3.8) และพรรคชาติไทยพัฒนามีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 1.2 (ลดลงร้อยละ 0.9)
สุดท้ายเมื่อถามว่า“หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้งจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป” พบว่าอันดับแรกคือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองลงมาคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (ร้อยละ 3.8) และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ร้อยละ 3.7) .-สำนักข่าวไทย