พรรคชาติไทยพัฒนา 30 ต ค -สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ร่ำไห้ทิ้งชาติไทยพัฒนาไปซบภูมิใจไทย อ้างอุดมการณ์ ขณะที่ยังบลัดเสียใจ แต่เชื่อตัดสินใจยากที่สุดในชีวิต
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา ต่อนายทะเบียนพรรค ก่อนให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลว่าวันนี้ไม่พร้อมทำงานให้พรรคชาติไทยพัฒนาในสภาพของตนแบบนี้ และมีความรู้สึกว่าความคิดไม่เหมาะกับพรรคนี้แล้ว แม้จะมีจุดยืนเดียวกันคือ การเป็น ส.ส. คือตัวแทนของประชาชนที่ไม่ใช่ตัวแทนพรรคการเมือง โดยจะไปสมัครเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย วันพรุ่งนี้ (31 ต.ค.) ต้องตัดสินใจให้ชัด เพราะคิดทบทวนมาระยะหนึ่งแล้ว แม้ผู้ใหญ่ของพรรคชาติไทยพัฒนาจะขอให้อยู่ช่วยงานพรรค แต่เห็นว่าไม่ใช่แนวทางของตนแล้ว
ส่วนจะมีสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาคนอื่นตามไปหรือการลาออกครั้งนี้สะท้อนปัญหาความขัดแย้งในพรรคหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เรื่องความขัดแย้งแต่เป็นแนวทางของแต่ละบุคคล สำหรับตนมาคนเดียว ก็ไปคนเดียว
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า บทบาทที่จะไปช่วยพรรคภูมิใจไทยคือด้านกีฬา โดยจะยกบุรีรัมย์ โมเดล มาใช้กับจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมเสนอตัวเป็นคนรุ่นใหม่ ทำให้พรรคเป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืนและ มี2-3 โครงการ ที่จะไปเสนอด้วย ส่วนที่ต้องเจอคู่ต่อสู้ อย่างนายธเนศ เครือรัตน์ อดีต ส.ส.เพื่อไทย จังหวัดศรีสะเกษ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ไม่กังวลหรือกลัว เพราะคิดว่าถึงจะเป็นส.ส. หรือไม่ ก็ทำงานมาโดยตลอด ส่วนชาวบ้านในพื้นที่เข้าใจหรือไม่นั้น ยอมรับว่าจริง ๆ ลำบากใจและหวังว่าจะเข้าใจเพราะ ที่ตัดสินใจไม่ใชเรื่องผลประโยชน์แต่เป็นเรื่องอุดมการณ์
“ไม่ว่าจะเจอใครก็ตามเป็นนักมวยต้องชก สู้อยู่แล้ว การตัดสินใจลงเลือกตั้งตามบริบท ว่าถ้าอยู่พรรคเดิมจะยาก แต่เลือกทางออกสายกลาง ไม่สุดขั้ว ภูมิใจไทยใกล้เคียงความคิดมากสุด อีกทั้ง ศรีสะเกษและบุรีรัมย์เป็นพื้นที่ใกล้เคียงกัน” นายสิริพงศ์ กล่าว
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ยังไม่คุยกับนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้ากลุ่มยังบลัดพรรคชาติไทยพัฒนา ถึงการลาออก แต่ไม่ได้โกรธกัน โดยตนจะมาลาคนในพรรคอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
นายภราดร ปริศนานันทกุล กลุ่มยังบลัดพรรคชาติไทยพัฒนา ยอมรับว่า เสียใจ กับการลาออกของนายสิริพงศ์ ด้วยความสนิทสนมส่วนตัว และทำงานร่วมกันมาตลอด ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกัน ออกไปเหมือนขาดอะไรไป แต่ถ้าวันนึงต้องขึ้นสังเวียนชก ต่างคนต้องต่างทำหน้าที่ แต่มิตรภาพยังคงเดิม เชื่อว่าตัดสินใจครั้งนี้ยากลำบากที่สุดในชีวิตของนายสิริพงศ์แล้ว
ด้านนายกรรวีร์ ปริศนานันทกุล กลุ่มยังบลัดพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า แม้จะอยู่คนละพรรค แต่เป็นพวกเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างให้สัมภาษณ์ ถึงเหตุผลการลาออก นายสิริพงศ์ ร้องไห้น้ำตาคลอ ขณะที่นายภราดร และนายกรรวีร์ ได้เข้าไปสวมกอดเพื่อเป็นการอำลา อวยพรให้โชคดี พร้อมถ่ายภาพร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย