เชียงราย 29 ต.ค. – รัฐมนตรีอุตสาหกรรมรับฟังส่วนราชการ เอกชน ร่วมกำหนดยุทธศาสตร์พัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ยกระดับสินค้าวิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอี
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนภาคเหนือตอนบน 2 จังหวัดน่าน พะเยา เชียงราย เพื่อจัดทำงบประมาณตามยุทธศาสตร์หลักเป็นรายกลุ่มจังหวัด เพื่อส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอี ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผ่านการตั้งศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 ระดับจังหวัด (Mini ITC) การดึงไปรษณีไทยมาช่วยเรื่องระบบโลจิสติกส์ จัดส่งให้ได้คุณภาพ ช่วยเหลือทั้งเงินทุน และไม่ใช่ตัวเงิน ดึงมหาวิทยาลัยมุ่งเน้นการวิจัย เพื่อผลักดันสินค้าผ่านนวัตกรรมยุคใหม่ ด้านเงินทุน กระทรวงอุตสาหกรรมมีกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ หรือกองทุนคนตัวเล็ก สินเชื่อเถ้าแก่ 4.0 ของเอสเอ็มอีแบงก์ กองทุนของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อบูรณาการร่วมกันหลังช่วยเหลือตั้งแต่หลัก 1 บาท ขยายไปจนถึง 5-10 ล้านบาทต่อราย เพื่อให้รับเงินทุนขยายกิจการได้อย่างทั่วถึง
สำหรับภาคเหนือตอนบน 2 มีขนาดเศรษฐกิจอุตสาหกรรม 11,582 ล้านบาท จากขนาดจีดีพี 192,111 ล้านบาท มีรายได้ต่อหัวเฉลี่ย 80,000 บาทต่อปีต่อคน สถานประกอบการ 2,785 แห่ง มุ่งเน้นเกษตรแปรรูปอาหาร การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ศิลปวัฒนธรรม ภาคเหนือผลิตชา 50,000 ไร่ ผลผลิต 48,000 ตันต่อปี จากทั้งหมดไทยผลิต 120,000 ตันต่อปี ครองอันดับ 3 ของอาเซียน และไทยผลิตกาแฟ 60,000 ตันต่อปี อันดับ 11 ของโลก ในภาคเหนือตอนบนปลูกกาแฟคุณภาพ 45,000 ไร่ ผลิต 6,000 ตันต่อปี โดยเฉพาะกาแฟพันธ์อาราบีก้า สำหรับสมุนไพร ทั้งประเทศไทยผลิตได้ 1,200 ชนิด หรือประมาณ 200,000 ตันต่อปี จึงเป็นจุดเด่นต้องส่งเสริมสินค้าเกษตรแปรรูปให้เป็นจุดเด่น
ทั้งนี้ กำหนดยุทธศาสตร์หวังดึงเกษตรกรขยับมาเป็นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ผ่านความร่วมมือกับหลายฝ่าย ด้วยการสร้างโรงงานต้นแบบเชื่อมโยงไปสู่ฐานการผลิต OEM ใช้งบประมาณ 450 ล้านบาท การยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการผลิตเป้าหมาย 500 ผลิตภัณฑ์ งบประมาณ 50 ล้านบาท การพัฒนาแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร เป้าหมาย 1,000 ผลิตภัณฑ์ งบประมาณ 50 ล้านบาท รวมใช้งบ 750 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย