กทม.17 ต.ค.-หนุ่ม 29 ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาคดีลวงสาว 19 ข่มขืน ชิงทรัพย์ ท้องที่ สน.ตลิ่งชัน อ้างว่าสมยอม
จากกรณีนายคาสฑฎา บัวทอง หรือท็อป อายุ 29 ปี ใช้อุบายล่อลวง น.ส.แพรว(นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ลูกสาวนักสะสมพระชื่อดัง ผ่านทางแชทเฟซบุ๊ก แล้วไปดื่มแอลกอฮอล์กันที่ร้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน ก่อนลวงขึ้นรถยนต์ไปข่มขืนที่บ้านพักพร้อมกักขังหน่วงเหนี่ยว และชิงทรัพย์ เกิดเหตุวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานแล้วขอศาลจังหวัดตลิ่งชันออกหมายจับ 3 ข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยที่ผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และจับตัวได้ที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
ล่าสุด พนักงานสอบสวนได้เบิกตัวนายคาสฑฎา และมารดามาสอบปากคำและคุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ทั้งสองมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด นายคาสฑฎา ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตามระหว่างให้ปากคำ มีหญิงสาวคนหนึ่งมายืนรออยู่หน้าห้องสอบ บอกเป็นเพื่อนผู้ต้องหา พร้อมขอสื่ออย่าซักถามใดๆอีก
พ.ต.ท.ประเสริฐ พรมจันทร์ รองผู้กำกับ สน.ตลิ่งชัน เปิดเผยว่า นายคาสฑฎา ปฏิเสธทุกข้อหา บอกเพียงรู้จักสาวหญิงสาว 19 ปี ทางเฟซบุ๊กมาหลายเดือนก่อนนัดเจอกัน โดยอ้างว่าหญิงสาวสมยอมไปที่บ้านพัก และมีความสัมพันธ์กัน และขอให้การต่อหน้าทนายความ
ด้านหญิงสาวผู้เสียหายยังยืนยันตามที่แจ้งความว่าถูกล่อลวงและถูกข่มขืนก่อนถูกพาไปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม
มีรายงานว่า ขณะชุดจับกุมนำกำลังไปจับกุม ผู้ต้องหามีพฤกติการณ์หลบหนีแต่ไปไม่รอด จึงกลับลำเข้ามอบตัว หวังได้ประกันในชั้นพนักงานสอบสวน แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นภัยต่อสังคม พนักงานสอบสวนจึงคัดค้านการประกัน อีกทั้งอัตราโทษสูงเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และเชื่อว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาหลายครั้ง ผู้ใดเคยตกเป็นเหยื่อสามารถแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่ สน.ตลิ่งชัน .-สำนักข่าวไทย
