ยังไม่จบ!ยายหลานโดนทิ้งกลางทางหรือขอลงเอง รอสอบคนขับรถทัวร์

ระยอง 15 ต.ค.-ยายโพสต์เฟซบุ๊กอ้างถูกรถทัวร์ทิ้งกลางทางตอนตี 2 พร้อมหลาน เข้าแจ้งความดำเนินคดีคนขับรถทัวร์ ด้านขนส่งระยองยันพร้อมให้ความเป็นธรรม เผยผู้โดยสารขอลงจากรถเอง รอฟังความอีกด้านจากคนขับรถทัวร์ก่อนสรุปเรื่อง ถ้าผิดจริงมีโทษพักใบขับขี่


จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “คนสู้ชีวิต จันทร์หอม ศรีรักษา” ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก อ้างว่า นั่งรถทัวร์เดินทางมาระยองครั้งแรก โดนคนขับปล่อยทิ้งไว้กลางป่าพร้อมหลาน 2 คน ตอนตีสอง วันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา จนมีผู้เข้ามาแสดงความเห็นถึงการกระทำของคนขับรถทัวร์เป็นจำนวนมาก


ล่าสุดวันนี้(15 ต.ค.) ร.ต.อ.กวีวุฒิ บุญเรือง ร้อยเวร สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้งความจากนางจันทร์หอม ศรีรักษา อายุ 50 ปี ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับทนายความ โดยนางจันทร์หอม ให้การว่า เมื่อวันที่ 13 ต.ค.61 ตนเองพร้อมด้วย น.ส.รัชนีกร ศรีรักษา อายุ 22 ปี บุตรสาว และหลานสาว 2 คน ได้ซื้อตั๋วโดยสารคนละ 600 บาท ขึ้นรถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 ของบริษัทชาญทัวร์ จำกัด สายนครพนม-ระยอง ทะเบียน 10-7847 ขอนแก่น หมายเลขข้างรถ 827-14 ที่วิ่งออกจากต้นทาง จ.นครพนม เพื่อมาลงที่ปลายทาง สถานีขนส่งจังหวัดระยอง แต่พอขึ้นไปนั่งบนรถ ปรากฏว่ารถมีปัญหา คนขับยังมุดซ่อมอยู่ใต้รถ ทำให้ผู้โดยสารต่างโวยวาย จนเกือบจะต้องเปลี่ยนรถคันใหม่ 

นางจันทร์หอม กล่าวต่อว่า เมื่อซ่อมเสร็จ รถทัวร์จึงขับออกมา จนกระทั่งเวลา 02.00 น.วันที่ 14 ต.ค.รถวิ่งเข้าสู่เขต จ.ระยอง ตนจึงโทรประสานกับลูกเขย โดยมีการนัดให้ลงที่สถานีขนส่งระยอง ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดระยะของรถ แต่ในขณะนั้นไม่เหลือผู้โดยสารคนอื่นแล้ว มีเพียงตนกับลูกสาวและหลานอีก 2 คน ตนจึงพยายามมองหาจุดที่ลูกเขยบอกให้ลง พอบอกจุดที่ผ่านปรากฏว่า ลูกเขยบอกว่าเลยแล้วให้ลงเลย ตนเองจึงรีบเดินไปบอกให้คนขับรถจอดรถ เพื่อจะลงบริเวณหน้าบริษัทไออาร์พีซี เพราะมีไฟสว่าง และเห็น รปภ.ยืนอยู่หน้าบริษัท จึงคิดว่าปลอดภัย แต่คนขับได้ขับรถเลยไปกว่า 500 เมตร จึงจอดให้ลง ซึ่งบริเวณนั้นมืดมาก ตนจึงรีบกระเตงหลานพร้อมหิ้วข้าวของเดินมารอที่หน้าบริษัทดังกล่าว เพื่อรอให้ลูกเขยมารับ 


“การกระทำดังกล่าวของคนขับรถทัวร์นับว่าไม่มีความรับผิดชอบต่อผู้โดยสาร ไม่จอดตามจุดที่กำหนด โดยที่ไม่มีพนักงานแจ้งว่าถึงไหนและจะจอดตรงไหน ทำให้เกิดความกลัว หากติดต่อญาติไม่ได้จะทำอย่างไร จึงมาแจ้งความ ขอให้ดำเนินคดีกับคนขับรถและบริษัทรถทัวร์คันดังกล่าว” นางจันทร์หอม กล่าว 

ร้อยเวรจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อรอผลการสอบสวนจากขนส่งจังหวดระยองที่นัดสอบสวนไว้แล้ว มาประกอบการพิจารณาในการดำเนินคดีต่อไป โดยมี น.ส.ทิวา เพ็ญสาริการ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานขนส่งระยอง มาร่วมทำการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น  พร้อมด้วยนายทวีศักดิ์ วีระไชยานนท์ ตัวแทนบริษัทชาญทัวร์ จำกัด นางจันทร์หอม ศรีรักษา น.ส.รัขนีกร ศรีรักษา และหลานทั้ง 2 คน โดยนางจันทร์หอม ยอมรับว่าเป็นคนโพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้นลงในเฟซบุ๊กของตัวเองจริง เพื่อให้ทางบริษัทได้รับรู้ จะได้ไม่เกิดเหตุขึ้นอีก และทวงความเป็นธรรมให้กับตัวเองกับลูกสาวและหลาน  ต้องการให้ทางขนส่งดำเนินการให้ความเป็นธรรมด้วย

ด้านนายวีระศักดิ์ ตัวแทนบริษัทรถทัวร์  ได้รับเรื่องไว้ เพื่อหาข้อมูลจากคนขับและพนักงานบนรถทัวร์ว่าความจริงเป็นอย่างไร หากเป็นจริงก็จะไม่เข้าข้างเด็ดขาด ซึ่งต้องรอให้คนขับรถทัวร์เดินทางกลับจาก จ.นครพนม ก่อนจะพาตัวมาพบเจ้าหน้าที่ขนส่งอีกครั้ง ในวันที่ 16 ต.ค.นี้

ขณะที่ น.ส.ทิวา เพ็ญสาริการ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ กล่าวว่า การขอลงจากรถเป็นความสมัครใจของผู้โดยสาร แต่ก็ถือเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎของทางขนส่ง ที่ระบุชัดเจนว่าต้องนำรถเข้าจอดที่สถานีขนเท่านั้น กรณีที่เกิดขึ้นจึงเป็นการออกนอกเส้นทาง  อย่างไรก็ตาม จะต้องสอบสวนคนขับรถทัวร์อีกครั้ง จึงจะสรุปได้ว่าผิดหรือไม่ผิดอย่างไร โดยจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากผิดจริงก็จะมีโทษปรับและพักใบอนุญาตขับขี่ พร้อมบันทึกประวัติไว้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]