ผลสอบ ก.แรงงาน ไม่พบเจ้าหน้าที่เอี่ยวทุจริตเงินคนพิการ

ดินแดง 5 ต.ค.-รมว.แรงงาน เผยไม่พบเจ้าหน้าที่กระทรวงเอี่ยวทุจริตเงินคนพิการ พบเพียงผู้ประกอบการไม่ทำตามสัญญา วงเงินเสียหายประมาณการ 14 ล้านไม่ไช่ 1,500 ล้านบาท


หลังจากที่เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา นายปรีดา ลิ้มนนทกุล ตัวแทนเครือข่ายพิทักษ์สิทธิคนพิการ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อกรมสืบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อขอให้ดำเนินคดีต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิและปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมต่อเงินส่งเสริมผู้พิการ พร้อมยื่นหลักฐานชี้เจ้าหน้าที่รัฐมีพฤติกรรมที่ชี้แจงละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หลายกรณี มูลค่าความเสียหาย 1,500 ล้านบาททั่วประเทศต่อปี จากนั้นวันที่ 20 กันยายน กระทรวงแรงงาน ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในส่วนของกระทรวงแรงงาน ให้สรุปผลภายใน 15 วัน หรือในวัที่ 5 ตุลาคม 2561 นั้น 


พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน และนายวิวัฒน์ ตังหงส์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงโกงเงินคนพิการ ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้


พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีที่ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิคนพิการ ได้ยื่นหนังสือต่อหน่วยงานของรัฐหลายแห่ง ขอให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิและปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมกับคนพิการตามมาตรา 33 และ 35 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 โดยในวันนี้ครบ 15 วัน ของการตรวจสอบ ซึ่งผู้ร้องขอให้ตรวจสอบจำนวน 9 เรื่อง และจากการตรวจสอบข้อมูลทั่วไปและข้อมูลเฉพาะกรณีจากผู้ร้อง และกลุ่มผู้พิการที่มาให้ข้อเท็จจริงจำนวน 150 คน และการสอบข้อเท็จจริงสถานประกอบการ ผู้พิการในพื้นที่ ในชั้นนี้พบว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 33 จำนวน 2 เรื่อง ,มาตรา 35 จำนวน 6 เรื่อง และคาบเกี่ยวทั้ง 2 มาตราอีก 1 เรื่อง พบว่ามีข้อมูลบางส่วนเป็นไปตามที่ร้องเรียนมาแต่เป็นการปฏิบัติของผู้ประกอบ การที่ไม่ครบถ้วนตามสัญญาการยื่นขอให้สิทธิโดยยังไม่พบความบกพร่องและทุจริตของเจ้าหน้าที่ 

ด้านนายวิวัฒน์ ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ กล่าวว่า ทั้ง9 เรื่องที่ร้องเรียนมาพบว่าเป็นเรื่องเก่าที่เคยร้องมาในช่วงปี2559-2560 จำนวน 6 เรื่องและเรื่องใหม่ในปี2561จำนวน 3 เรื่อง โดยเรื่องเก่า 6 เรื่อง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วทั้งหมด แบ่งเป็นเรื่องมาตรา 33 จำนวน 1 เรื่อง คือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบริษัทใน จ.ชลบุรี มีผู้พิการเกี่ยวข้อง 1 คน เหตุเกิดช่วงตุลาคม 2559 ตรวจสอบพบเป็นการจ้างงานไม่ครบเงื่อนไข และเรื่องที่เกี่ยวกับมาตรา35 จำนวน 5 เรื่อง ได้แก่1.อยู่ในกรุงเทพฯมีผู้พิการเกี่ยวข้อง 1ราย เป็นเรื่องที่ให้การอบรมไม่ครบตามที่กำหนดไว้ ผู้เกี่ยวข้องได้นำเงินส่วนี่มีปัญหาจ่ายเข้ากองทุนแล้ว 2.เกิดใน ปี 2559 ที่จ.ชลบุรี  มีผู้พิการเกี่ยวข้อง 2 ราย เป็นเรื่องที่ให้การอบรมไม่ครบตามที่กำหนดไว้ ผู้เกี่ยวข้องได้นำเงินส่วนี่มีปัญหาจ่ายเข้ากองทุนแล้ว 3.เกิดในกรุงเทพฯช่วง พ.ย.2559 ผู้พิการเกี่ยวข้อง 3 ราย ตรวจสอบแล้วเกิดบริษัทที่เกี่ยวข้องยังปฏิบัติไม่ถูกต้อง ,4.เกิดในโรงพยาบาลเอกชน ในกรุงเทพฯช่วงมี.ค.2560 ผู้พิการเกี่ยวข้อง 1 ราย คือไม่ได้อบรมครบตามเวลาที่กำหนด และเรื่องที่ 5.เกิดช่วง พ.ย.2559 ในกรุงเทพฯ ผู้พิการเกี่ยวข้อง 3 ราย ตรวจสอบแล้วบริษัทที่เกี่ยวข้องยังปฏิบัติไม่ถูกต้อง ทั้งหมดกระทรวงแรงงานได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบและไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายวิวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับอีก 3 กรณีเป็นเรื่องที่ได้รับข้อมูลมาในปี 2561 เรื่องที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 33 จำนวน 1 เรื่อง เกี่ยวกับการจ้างงาน คนพิการจำนวน 70 คนในพื้นที่กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงแรงงานได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบด้วยการสุ่มสอบถามข้อมูลพูดคุยกับผู้พิการในบริษัทพบว่ามีการจ้างงานทั้ง 70 คนจริงและได้มีการโอนเงินเดือนให้ตามข้อตกลงในสัญญา  รวมทั้งยังมีการส่งเบี้ยประกันสังคมให้ครบทุกคนด้วย

,กรณีที่ 2เกี่ยวกับมาตรา 33 และ 35 เหตุเกิดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยระบุว่ามีผู้พิการที่ได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวข้องจำนวน 160 คน จากการตรวจสอบพบเป็นบริษัทแห่งหนึ่งมีคนงานรวม 1280 คนตามกฏหมายต้องจ้างคนพิการเข้าทำงานประมาณ 13 คนและทางบริษัทได้มีการว่าจ้างคนพิการให้ทำงาน 10 คน แต่ทางบริษัทก็ได้ใช้สิทธิตามมาตรา 35 ด้วยการจัดพื้นที่ให้กับผู้พิการที่เหลือทำการค้าขายก็ถือว่าได้ทำถูกต้องตามข้อกำหนด และกรณีที่ 3 ในจังหวัดสมุทรสาครมีผู้พิการเดือดร้อนเกี่ยวข้องจำนวน 31 คน ตรวจสอบพบว่าเป็นเรื่องของการอบรมไม่ครบตามจำนวนที่กำหนดไว้จึงสั่งการให้กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ส่งหนังสือแจ้งไปยังกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ(พก.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตตนพิการ พ.ศ.2550 พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมฯแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน

นายวิวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ยืนยันว่าข้อมูลที่ได้รับมาจากตัวแทนคนพิการยังไม่ครอบคลุมหรือว่าลงลึกไปถึงเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงานที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการทุจริตเงิน เพราะการร้องเรียนไม่มีผู้เสียหายออกมาร้องโดยตรง เป็นเพียงคำกล่าวอ้างของตัวแทนคนพิการเท่านั้น รวมทั้งมูลค่าความเสียหายที่ได้ระบุไว้1,500 ล้านบาท อาจเกิดจากความเข้าใจผิด นำยอดรวมผู้พิการที่ต้องได้รับการจ้างงานประมาณ 14,600 คน มาคูณกับอัตราค่าจ้าง 109,500 บาทต่อคนต่อปี ซึ่งเมื่อตรวจสอบจำนวนผู้ที่ มาร้องเรียนที่อาจได้รับความเดือดร้อนประมาณ 150 คน มูลค่าจริงๆประมาณการอยู่ที่ 14 ล้านบาทเท่านั้น และจากการตรวจสอบข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตลอด 15วันพบว่าความเสียหายก็ไม่น่าจะถึง 14 ล้านบาท ในชั้นนี้ถือว่าหมดหน้าที่ของคณะกรรมการในการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วซึ่งหากหน่วยงานใดจะมาขอข้อมูลที่ทางกระทรวงได้ทำสรุปไว้ก็ยินดีที่จะให้ข้อมูลอย่างเต็มที่

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีสมาคมหรือชมรมคนพิการในจังหวัดต่างๆ เข้าไปเกี่ยวข้องทุจริต  วันนี้ส่งรายงาน  ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการเข้าไปตรวจสอบ แต่ยืนยันแม้จะหมดหน้าที่ แต่ถ้าหากผู้พิการที่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีการทุจริตจริงหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ มีข้อมูลก็สามารถนำมาส่งให้ที่กระทรวงแรงงานได้หรือหากไม่สะดวกก็สามารถประสานมายังกระทรวงฯ เจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ จะลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลในที่อยู่ตามที่ระบุไว้ รวมทั้งจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการโดยเด็ดขาด

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานระบุว่าปัจจุบันผู้พิการในประเทศไทยมี 1.9 ล้านคน มีสถานประกอบการที่ต้องจ้างแรงงานผู้พิการ 64,570 คน  โดยมาตรา 33 เป็นการจ้างงานโดยตรงระหว่างผู้พิการกับผู้ประกอบการ 36,315 คน  กระทรวงแรงงานมีส่วนช่วยเหลือ โดยการขึ้นทะเบียนคนพิการที่ประสงค์จะทำงาน และประสานส่งต่อเพื่อให้นายจ้างคัดเลือกและบรรจุงาน (ในปี 2561 บรรจุงานได้ จำนวน 1,565 คน) มาตรา 34 มีการส่งเงินเข้ากองทุน จากผู้ประกอบการประมาณ 1,200 แห่ง เป็นการทดแทนการจ้างผู้พิการ 14,623 คน รวมเป็นเงินประมาณ 1,500 ล้านบาท/ปี (ปี 60) ซึ่งคิดอัตรา 1 คนเท่ากับ109,500 บาท/คน/ปี ส่วนมาตรา35 เป็นกรณีสถานประกอบการให้สิทธิผู้พิการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการประกอบอาชีพ 7 ประเภท มีผู้พิการใช้สิทธิจำนวน 12,499 คน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิใจไทย” มีมติถอนตัวร่วมรัฐบาล จี้นายกฯ รับผิดชอบ​ทำไทยเสียเกียรติ

กทม. 18 มิ.ย.-“ภูมิใจไทย” มีมติถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล รัฐมนตรีร่อนใบลาออก มีผล 19 มิ.ย. จี้นายกฯ รับผิดชอบ​ ทำไทยเสียเกียรติ-ศักดิ์ศรี จากกรณีคลิปเสียงสนทนา “ฮุน ​เซน​” พร้อมร่วมมือประชาชน-กองทัพ รักษาอธิปไตยไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.39 น. วันนี้ พรรคภูมิใจไทย ได้ออกแถลงการณ์​ ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2568​ ระบุถึงกรณีการโทรศัพท์เจรจาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน​ ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีผลกระทบต่ออธิปไตย ดินแดน ผลประโยชน์ของประเทศไทย และ​กองทัพไทย ตามที่ประชาชนได้รับทราบแล้วนั้น พรรคภูมิใจไทย ขอเรียนว่า กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ได้ประชุมพิจารณาถึงกรณีที่เกิดขึ้น และมีมติให้พรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป พรรคภูมิใจไทย ขอเรียกร้องให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร […]

เปิดขุมทรัพย์ช่องจอม รังใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์

สุรินทร์ 18 มิ.ย. – จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จ.สุรินทร์ เป็น 1 ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ไม่เพียงตอบโต้กันในมิติทางเศรษฐกิจ แต่กระทบกระทั่งในมิติความมั่นคง ทั้งเรื่องพื้นที่ทับซ้อน และแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติที่เมืองโอร์เสม็ด จังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ถูกจับตาว่าเป็นฐานใหม่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ .-สำนักข่าวไทย

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

มทภ.2 ไม่ติดใจนายกฯ ปมคลิปเสียง ขอทำเพื่อชาติ-ปชช.

อีสาน 18 มิ.ย.- “พล.ท.บุญสิน” มทภ.2 ไม่ติดใจ “นายกฯ อิ๊งค์” ปมคลิปเสียง ขอทำงานเพื่อชาติ-ประชาชน พร้อมเดินทางเยี่ยมลูกน้องบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โทรมาปรับความเข้าใจ พร้อมทั้งอธิบายเนื้อหาในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน เพื่อต้องการให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เบาบางลง เป็นการพูดคุยกันหลังบ้าน โดยตนได้บอกกับนายกฯ ไปว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ” ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขอบคุณที่เข้าใจ ถือว่าคุยแล้วเข้าใจแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร ตนทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชน พล.ท.บุญสิน ยังระบุต่อว่า วันนี้กำลังเดินทางไปเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน ตนทำงานตามปกติ ไม่มีอะไร.-313.-สำนักข่าวไทย