“พล.อ.ประวิตร” ปัดตอบ “ทักษิณ” เคลื่อนไหวที่ฮ่องกง

กลาโหม 5 ต.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ปัดตอบ “ทักษิณ” เคลื่อนไหวที่ฮ่องกง ให้ประชาชนคิดเอาเอง ชี้ต้องให้ 4 รมต.ทำงานเสร็จก่อนลาออก


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่เกาะฮ่องกงเพื่อบัญชาการการเลือกตั้งในครั้งนี้ ว่า ไม่ทราบ เรื่องนี้ก็ต้องแล้วแต่เขา ขอให้ประชาชนคิดเอาเอง ส่วนจะเข้าข่ายกรณีบุคคลภายนอกเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการบริหารกิจการพรรคการเมืองของพรรคการเมืองหรือไม่นั้น ต้องให้คณะกรรมการการเลือก (กกต.) เป็นผู้ดูว่าจะผิดกฎหมายอะไรหรือไม่ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยมีการตั้งพรรคการเมืองสำรองเอาไว้นั้น ก็แล้วแต่เขา

เมื่อถามถึงกรณีที่ 4 รัฐมนตรีที่ลงมาเล่นการเมือง ยังไม่ลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีนั้น จะเป็นการสร้างมาตรฐานให้กับรัฐบาล คสช.ที่ตั้งใจมาปฏิรูปหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของ 4 รัฐมนตรี และทั้ง 4 คนก็ทำตามกฏหมาย ซึ่งทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามกฏหมาย


“ผมถามว่าจะมาสร้างมาตรฐานอะไรกันตอนนี้ และการที่ 4 รัฐมนตรียังไม่ลาออก เนื่องจากจะต้องทำงานให้เสร็จก่อน เพราะงานที่ค้างคายังมีอยู่อีกมาก แต่เขาก็พร้อม” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ส่วนการดูแลความเรียบร้อยพรรคการเมืองที่เริ่มเคลื่อนไหวและรับสมัครสมาชิกพรรค พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ในทุกพื้นที่มีกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ทำหน้าที่ดูแลทุกพื้นที่อยู่แล้ว ที่ผ่านมาได้มีการสั่งการและกำชับไปแล้วว่าให้ดูแลความเรียบร้อยให้กับประชาชน เพื่อมีความปลอดภัยและมีความสงบ

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะต่างจาก 4 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะมีพรรคการเมืองมากขึ้นและมีหลายองค์กรลงมาดูแล พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เลือกตั้งก็คือการเลือกตั้ง จะให้เปลี่ยนแปลงอย่างไร หากมีพรรคการเมืองเป็นจำนวนมาก ทุกพรรคก็ต้องทำตามกฏหมายในทุกเรื่องและทุกอย่าง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย