กรุงเทพฯ ต.ค.-แบงก์รัฐหวั่นมาตรการคุมสินเชื่อบ้านอสังหาชะลอตัว ระบุ ธปท. แจงมาตรการให้ชัดเจน เพราะแบงก์รัฐเน้นปล่อยสินเชื่อบ้านหลังแรกให้ผู้อยู่อาศัยจริง ยอมรับหากคุมยอดปล่อยสินเชื่อ รวมถึงการซื้อประกันอัคคีภัย การซื้อเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน อาจกระทบยอดซื้อบ้านลดลง
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การมาตรการคุมสินเชื่อบ้านของ ธปท. เพื่อดูแลภาคอสังหาฯ เพื่อควบคุมการปล่อยกู้มีความรอบคอบมากขึ้น และเป็นการดูแลระบบสินเชื่อที่ดี ในส่วนของสถาบันการเงินของรัฐมีการปล่อยกู้อย่างระมัดระวังในขณะนี้ แต่ไม่น่าจะกระทบต่อการปล่อยกู้ของสถาบันการเงิน เพราะผู้มีรายได้น้อยยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส. เน้นปล่อยกู้สำหรับผู้ที่ต้องการมีบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านหลังแรก กระจายไปทุกกลุ่มทั้งผู้มีรายได้น้อย ปานกลาง แม้จะหันไปซื้อบ้านหลังที่สอง เพื่อให้พ่อแม่อยู่อาศัยบ้านหลังแรก ขณะที่ธนาคารพาณิขย์ปล่อยกู้ทั้งหมดทั้งบ้านหลังที่ 2-3 ซึ่งอาจกังวลเรื่องการเก็งกำไร จึงต้องชี้แจงให้ชัดเจน เพราะสถาบันการเงินของรัฐไม่ได้เน้นแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ โดยวันที่ 11 ต.ค.61 พร้อมเดินทางเข้าไปร่วมให้ความเห็นกับ ธปท. เพื่อต้องการรับฟังคำอธิบาย และรับทราบแนวทางการคุมสินเชื่อในส่วนใดบ้าง ยอมรับแนวทางคุมสินเชื่อทำให้ระวังการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ยอมรับว่าสตอกที่อยู่อาศัยที่ค้างอยู่รอการขายได้ลดลงไปอย่างมาก และยังไม่พบสัญญาณฟองสบู่ หาก LTV คุมการปล่อยสินเชื่อ รวมไปถึงยอดการซื้อประกันอัคคีภัย การซื้อเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน อาจกระทบยอดซื้อบ้านลดลง เพราะชาวบ้านต้องเก็บเงินดาวน์เพิ่มขึ้น หาเงินรองรับการซื้อประกัน การซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้น เช่น หากต้องวางเงินดาวน์ร้อยละ 20 ต้องใช้เวลาเก็บเงินถึง 50 เดือน จะได้เงินเก็บ 2 แสนบาท เพื่อซื้อบ้านราคา 1 ล้านบาท เพื่อต้องพิจารณาปล่อยกู้ร้อยละ 80-95 ของราคาบ้าน จึงต้องการให้ ธปท.มีการผ่อนปรนการปล่อยกู้บ้านราคาไม่เกิน 1-2 ล้านบาท รวมถึงบ้านหลังแรก เพื่อสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเอง.-สำนักข่าวไทย