ก.เกษตรฯ เดินหน้ามาตรการหยุดกรีดยาง 3 เดือน

กรุงเทพฯ 4 ต.ค.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งเดินหน้ามาตรการให้เกษตรกรหยุดกรีดยาง
3 เดือน แบ่งตามภูมิภาค ไล่จากภาคเหนือลงมาภาคใต้ ลดผลผลิตยางที่ล้นตลาดเพื่อพยุงราคา
โดยรัฐจ่ายเงินชดเชยพร้อมพัฒนาอาชีพ


นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า
ได้วางมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางเดือดร้อนจากราคายางพาราต่ำหลายมาตรการ
ขณะนี้สั่งการให้นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย(กยท.)
ยกร่างหนังสือถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อหารือเรื่องขอกู้เงิน 9,000 ล้านบาท
โดยรัฐบาลรับรอง สำหรับใช้ในโครงการพัฒนาอาชีพเกษตรกรสวนยาง
ระหว่างที่ให้ชาวสวนยางหยุดกรีดยาง 3 เดือน ขณะนี้รักษาการผู้ว่าการกยท.
เตรียมชี้แจงคณะกรรมการกฤษฎีกาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการผ่อนชำระเงินกู้
ซึ่งสัปดาห์หน้าคาดว่า จะทราบคำตอบว่า สามารถทำได้หรือไม่

สำหรับมาตรการหยุดกรีดยางจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน
2561ถึงเดือนเมษายน 2562 รวมพื้นที่ 3 ล้านไร่ทั่วประเทศ
ซึ่งรัฐจะจ่ายค่าชดเชยให้เกษตรกรช่วงหยุดกรีดไร่ละ 3,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน
ทั้งนี้กำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นของเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการว่า
ต้องเป็นผู้ปลูกยางพารารายละ 10-15 ไร่
รวมทั้งต้องปลูกยางในพื้นที่ที่ถูกกฎหมาย  


นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า การกำหนดพื้นที่หยุดกรีดยางไล่เรียง​จากภาคเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเนื่องจากในเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม ยังเป็นช่วงที่ต้นยางพาราในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังให้น้ำยางมากอยู่
จึงให้เริ่มหยุดกรีดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน
เมื่อถึงเดือนมกราคมซึ่งเป็นช่วงยางผลัดใบซึ่ง​เป็น​ช่วงให้น้ำยางน้อย
ชาวสวนยางจะลดหรือหยุดกรีดยางอยู่แล้ว
ดังนั้นระยะเวลาหยุดกรีดจึงจะได้ต่อเนื่องนานขึ้น
แล้วไล่ลงมาภาคตะวันออกจนถึงภาคใต้ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงยางผลัดใบเป็นลำดับถัดมา
ซึ่งจะต้องมีระบบควบคุมอย่างเคร่งครัดไม่ให้แอบกรีด
โดยจะจัดเก็บเครื่องมือกรีดทั้งหมด คาดว่า สามารถลดปริมาณยางเข้าสู่ตลาดได้
200,000 ตัน พร้อมกันนี้จะพัฒนาชาวสวนยางให้มีอาชีพเสริม โดยมีให้เลือกตามความถนัดและความสนใจ
จัดฝึกอบรม ซึ่งจะเป็นการพัฒนาศักยภาพเกษตรกร
โดยไม่พึ่งพาการทำเกษตรเชิงเดี่ยวอย่างเดียว

สำหรับการแก้ปัญหายางในสต็อก 104,000 ตัน ขณะนี้กยท.​
ร่วมกับ​การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
ศึก​ษาความเป็นไปได้​ที่จะนำยางพาราไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตพลังงานชีวมวลว่า
สามารถแปรรูปเป็นพลังงานได้มากน้อยเพียงไร มีความคุ้มทุนหรือไม่
เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์สูงสุด หากพบว่า มีความเหมาะสม ทางกยท.
จึงจะตกลงราคาซื้อขายกับกฟผ. ต่อไป
สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง