กทม. 23 ก.ย.- นิด้าโพล เผย คนไม่เชื่อมั่นเลือกตั้ง ก.พ. 62 เพราะยังไม่ชัดและยังไม่พร้อม แต่อยากให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ อีก และอยากเห็นพรรคใหม่เข้ามาเป็นรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ประชาชนอยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน (ครั้งที่ 4) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ61.63 ระบุว่า อยากให้พรรคการเมืองพรรคใหม่ ๆ เข้ามาเป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพราะ อยากเห็นคนใหม่ ๆ นโยบายใหม่ ๆ แนวคิดใหม่ ๆ เข้ามาบริหารและพัฒนาประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขณะที่บางส่วนระบุว่า เบื่อการบริหารงานของพรรคการเมืองพรรคเก่า ร้อยละ 37.49 ระบุว่า อยากให้พรรคการเมืองพรรคเก่าเข้ามาเป็นรัฐบาล และร้อยละ 0.88 ระบุว่า ไม่ระบุ ไม่แน่ใจ
ผลโพล ยังระบุถึงบุคคลที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน พบว่า ส่วนใหญ่ อันดับ 1 ร้อยละ 29.66 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รองลงมา อันดับ 2 ร้อยละ 17.51 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 13.83 ระบุว่าเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ อันดับ 4 ร้อยละ 10.71 ระบุว่าเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 5 ร้อยละ 5.28 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในสัดส่วนที่เท่ากัน อันดับ 7 ร้อยละ 4.64 ระบุว่าเป็น นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี อันดับ 8 ร้อยละ 1.92 ระบุว่าเป็น หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล ว่าที่หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย อันดับ 9 ร้อยละ 1.76 ระบุว่าเป็น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี อันดับ 10 ร้อยละ 1.52 ระบุว่าเป็น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาชาติ และอันดับ 11 ร้อยละ 1.44 ระบุว่าเป็น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย
เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากให้ได้คะแนนเสียงมากที่สุด และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พบว่า ส่วนใหญ่ อันดับ 1 ร้อยละ 28.78 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 20.62 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ อันดับ 3 ร้อยละ 19.58 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 4 ร้อยละ 15.51 ระบุว่าเป็น พรรคอนาคตใหม่ อันดับ 5 ร้อยละ 4.16 ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 6 ร้อยละ 2.56 ระบุว่าเป็น พรรคประชาชาติ อันดับ 7 ร้อยละ 2.40 ระบุว่าเป็น พรรครวมพลังประชาชาติไทย อันดับ 8 ร้อยละ 1.44 ระบุว่าเป็น พรรคพลังชาติไทย อันดับ 9 ร้อยละ 1.12 ระบุว่าเป็น พรรคชาติไทยพัฒนา และอันดับ 10 ร้อยละ 0.96 ระบุว่าเป็น พรรคประชาชนปฏิรูป
ส่วนปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ใช้ในการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พบว่า ประชาชน ส่วนใหญ่ ร้อยละ 49.80 ระบุว่า เป็นบุคคลที่มีผลงานประจักษ์ ทำประโยชน์ในพื้นที่หรือต่อประเทศไทย รองลงมา ร้อยละ 22.54 ระบุว่า ชอบพรรค/นโยบายของพรรค สำหรับปัญหาที่อยากให้นายกคนต่อไปเข้ามาแก้ไขมากที่สุด พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 41.81 ระบุว่า ปัญหาปากท้องและหนี้สินของประชาชน รองลงมา ร้อยละ 25.42 ระบุว่า ปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ ร้อยละ 11.67 ระบุว่า ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน การใช้อำนาจโดยมิชอบ ผู้มีอิทธิพล
เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้ง ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 โดยไม่มีการเลื่อนออกไปอีก พบว่า ประชาชน ส่วนใหญ่ ร้อยละ 52.76 ระบุว่า ไม่เชื่อมั่น เพราะ ยังไม่มีความพร้อม ไม่ชัดเจนในหลาย ๆ เรื่อง สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ปกติ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเลื่อนการเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้งเลยทำให้ขาดความเชื่อมั่น รองลงมา ร้อยละ 45.16 ระบุว่า เชื่อมั่น เพราะ สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ เป็นไปตามโรดแมปที่รัฐบาลวางไว้ และเชื่อมั่นในความสามารถและความพร้อมของรัฐบาล .-สำนักข่าวไทย