จับคู่ค้าสหกรณ์กับผู้ส่งออกสินค้าปศุสัตว์-ประมง

กรุงเทพฯ  21 ก.ย. – กรมส่งเสริมสหกรณ์ใช้กลไกประชารัฐ ดันสหกรณ์ส่งออกสินค้าประมงและปศุสัตว์ เน้นกลุ่ม CLMV และจีน ผลักดันสหกรณ์ร่วมมือกับเอกชน


นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือการขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าประมงและปศุสัตว์สหกรณ์ว่าด้วยกลไกประชารัฐ ว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายขับเคลื่อนประเทศด้วยกลไกประชารัฐ ซึ่งเป็นการรวมความร่วมมืออระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ในการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากให้เจริญเติบโตอย่างเข้มแข็ง ขณะเดียวกันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญของการบริหารสินค้าการเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยใช้หลักการตลาดนำการผลิต กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้นำนโยบายประชารัฐมาเป็นแนวทางในการสร้างความร่วมมือระหว่างสหกรณ์กับภาคเอกชนผลักดันให้ชุมนุมสหกรณ์ประมงแห่งประเทศไทย จำกัดและชุมนุมสหกรณ์เครือข่ายโคเนื้อภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำกัด เป็นแกนหลักในการส่งออกสินค้าประมงและปศุสัตว์สู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะภูมิภาค CLMV และจีน


ทั้งนี้ สินค้าประมง เช่น ปลานิล ปลกระพง กุ้งก้ามกราม เป็นสินค้าที่มีการส่งออกที่สำคัญมีมูลค่าการส่งออกไม่น้อยกว่าปีละ 50,000 ล้านบาท  และมีแนวโน้มที่จะส่งออกเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีสหกรณ์ประมงที่ดำเนินธุรกิจ 69 แห่ง สมาชิก 17,989 ราย มีสหกรณ์ที่สามารถส่งออกสินค้าประมงไปต่างประเทศ 3 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มน้ำท่าทอง จำกัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่งออกกุ้งขาวแวนาไมไปประเทศจีน ปีที่ผ่านมา 500 ตัน มูลค่า 150 ล้านบาท สหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งตราดยั่งยืน จำกัด จังหวัดตราด ส่งออกกุ้งกุลาดำ ไปประเทศจีน  6 ตัน มูลค่า 2.16 ล้านบาท และสหกรณ์สหกรณ์นิคมบ้านสร้างพัฒนา จำกัด จังหวัดปราจีนบุรี ส่งออกปลาคังไปประเทศมาเลเซีย 8 ตัน มูลค่า 0.84 ล้านบาท และส่งออกปลานิลไปประเทศตะวันออกกลาง 15 ตัน มูลค่า 0.5 ล้านบาท

ส่วนสินค้าปศุสัตว์ พบว่าปัจจุบันโคเนื้อเป็นอุตสาหกรรมเกษตรขนาดใหญ่ในประเทศ แต่ละปีมีการส่งออกโคเนื้อประมาณ 150,000 ตัว มีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 60,000-70,000 ล้านบาท ซึ่งสหกรณ์ที่ทำธุรกิจส่งออกโคเนื้อ ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรหนองสูง จำกัด จังหวัดมุกดาหาร ตลาดหลักคือ จีน และเวียดนาม และปีที่ผ่านมาได้มีทดลองตลาดโดยการส่งเนื้อแช่แข็งไปที่ร้านอาหารในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  3.6  ตัน มูลค่า 1.1 ล้านบาท


สำหรับการลงนามครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างชุมนุมสหกรณ์ประมงแห่งประเทศไทย จำกัด กับตัวแทนบริษัทผู้ส่งออก ได้แก่ บริษัท พี.เค.เนเชอรัล ฟิช ฟาร์ม จำกัด , ห้องเย็นเกษตรสมบูรณ์ , บริษัท ศิริคุณ ซีฟู๊ดส์ จำกัด และ บริษัท เอกชัย อินเตอร์ฟูดส์ จำกัด ส่วนสินค้าโคเนื้อ เป็นการลงนามความร่วมมือระหว่างชุมนุมสหกรณ์เครือข่ายโคเนื้อภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำกัด กับสมาคมส่งเสริมการผลิตและส่งออกสินค้ากสิกรรม แขวงสะวันเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พร้อมทั้งเปิดตัวตราสินค้ากลางของเครือข่ายสหกรณ์ประมงและโคเนื้อ ภายใต้แบรนด์ Fish Coop และ E-coop Beef  หวังเพิ่มขีดความสามารถและยกระดับการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ให้มีความพร้อมและสามารถส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ฉายาสภาปี67

ฉายาสภาปี 67 สส. “เหลี่ยม(จน)ชิน” ด้าน วุฒิสภา “เนวิ(น)เกเตอร์”

สื่อสภาตั้งฉายาปี 67 สส. “เหลี่ยม(จน)ชิน” ด้านวุฒิสภา “เนวิ(น)เกเตอร์” ส่วน “วันนอร์” รูทีนตีนตุ๊กแก ประธานวุฒิฯ “ล็อกมง” ส่วนผู้นำฝ่ายค้านฯ “เท้งเต้ง”

มติกฤษฎีกา “กิตติรัตน์” คุณสมบัติไม่ผ่านนั่งประธานบอร์ด ธปท.

คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มีมติไม่ผ่านคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย