สสส.17ก.ย.-สสส.เผยเยาวชนไทยเล่นพนันบอลออนไลน์พุ่ง เหตุกระตุ้นง่าย ลุ้นถี่และมีเดิมพันสูง แนะรัฐดูแลจริงจัง ไม่ใช่ทำตามกระแส
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน (มรพ.) เครือข่ายเยาวชน และภาคีเครือข่าย จัดเสวนา “เยาวชน 4.0 รู้เท่าทันพนันบอลออนไลน์” เพื่อแลกเปลี่ยนความคิด ร่วมสะท้อนปัญหาพนันบอลออนไลน์ และร่วมเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาร่วมกัน ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส.
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน (มรพ.) เปิดเผยว่า พนันฟุตบอลออนไลน์ ถือเป็นภัยของสังคมโดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน พบเล่นพนันบอลเกือบหลักหลายแสนคน เนื่องจากเข้าถึงง่าย ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่มีมือถือ คอมพิวเตอร์ ต่ออินเทอร์เน็ตก็สามารถตกเป็นเหยื่อของพนันบอลออนไลน์ได้อย่างต่อเนื่องโดยส่วนใหญคิดว่า เป็นวิธีหาเงินได้ง่ายๆ และมีแนวโน้มเข้ามาแทนที่การเล่นพนันบอลในช่องทางเดิมๆ โดยปัจจัยที่น่าเป็นห่วงที่ทำให้พนันบอลออนไลน์แพร่ระบาดในกลุ่มเยาวชนอย่างรวดเร็วมี 4 ด้าน คือเข้าถึงง่าย กระตุ้นและปลุกเร้าด้วยสิ่งเร้าหลากหลายรูปแบง ทั้งการโฆษณาเชิญชวนด้วยพริตตี้ เน็ตไอดอล และโปรโมชั่นต่างๆ สามารถเล่นได้ถี่ๆ ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงและวางกับดับให้เดิมพันในจำนวนเงินที่สูง โดยเริ่มต้นจากการเดิมพันในจำนวนเงินที่ต่ำๆก่อน จากนั้นยิ่งเล่นนานยิ่งเดิมพันสูง
นายธนากร กล่าวด้วยว่า นอกการดูเฝ้าระวังจากคนในครอบครัว และการรณรงค์ของหน่วยงานภาคประชาสังคมต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนยุ่งเกี่ยวกับพนันบอล หน่วยงานรัฐควรตรวจและควบคุมอย่างจริงๆ บังคับใช้กฎหมายเข้มงวด เพราะกฎหมายเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้เรื่องนั้น เป็นเรื่องไม่ธรรมดาอีกต่อไป ไม่ใช่ระดมจับตามกระแส สักพักก็ปล่อยไป แต่ต้องดำเนินการควบคุมพนันอย่างต่อเนื่อง มีหน่วยงานที่เข้ามาดูแลปัญหาและผลกระทบของพนัน ทั้งให้ความรู้ บำบัดเยาวชนที่ติดพนันบอลและส่งเสริมให้พวกเขา มีภูมิคุ้มกัน ห่างไกลจากพนันบอลออนไลน์
ด้าน น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)กล่าวว่า จากการสำรวจของโครงการยูรีพอร์ต ประเทศไทย ที่สอบ ถามความคิดเห็นและพฤติกรรมของวัยรุ่นและเยาวชน 2,525 รายทั่วประเทศเกี่ยวกับพนันบอลออนไลน์ ทั้งช่วงก่อนและหลังการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 พบประเด็นที่น่าสนใจคือ ร้อยละ 57 เล่นอินเทอร์เน็ตวันละมากกว่า 5 ชั่วโมง ร้อยละ 22 พบเห็นโฆษณาทุกครั้งที่เข้าสู่โลกออนไลน์ ร้อยละ 18 เคยเข้าไปดูโฆษณาพนันบอล และมากกว่าครึ่ง ร้อยละ54 พบเล่นพนันบอลเพราะเล่นขำๆขณะที่ร้อยละ 48 เรียนรู้การเล่นพนันด้วยตนเองและร้อยละ 52 คิดว่าพนันบอลเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเด็กและเยาวชน ซึ่งการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการพนันออนไลน์เป็นปัญหาต่อการจับกุมเพราะจับกุมยาก เนื่องจากไม่รู้ใครเป็นคนทำผิด ต่อตามตัวยาก และยังส่งผลพัวพันกับปัญหาอาชญากรรม และที่สำคัญมีผลต่อพัฒนาการทางสมองของเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ .-สำนักข่าวไทย