เตือนฝนตกหนัก 36 จังหวัด

กรุงเทพฯ 13 ก.ย. – ศูนย์เฉพาะกิจฯ เตือนฝนตกหนัก 36 จังหวัด จากพายุบารีจัต-มังคุด เร่งทุกหน่วยเดินหน้าพร่องน้ำเพิ่ม  


นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ  13 กันยายน 2561 ว่า ศูนย์เฉพาะกิจฯ ยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ฝนและอิทธิพลของพายุบารีจัตและมังคุด เบื้องต้นคาดว่าพายุบารีจัตจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่กลับจะเป็นผลดีต่ออ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำเก็บกักน้ำน้อย วันนี้ (13 ก.ย.) เมื่อเวลา 04.00 น.พายุโซนร้อนบารีจัตบริเวณด้านตะวันออกของเกาะไหหลำ ประเทศจีน คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน ในวันนี้ หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชั่นและหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก 

ส่วนพายุไต้ฝุ่นมังคุด บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกมีแนวโน้มเคลื่อนผ่านเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ และตอนใต้ของเกาะไต้หวัน ในช่วงวันที่ 14-15 กันยายน  2561 หลังจากนั้นจะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนบน และผ่านเกาะฮ่องกง โดยจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ ในช่วงวันที่ 16-18 กันยายน 2561 ตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่รับลมมรสุมด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม      


อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่าช่วงวันที่ 13 – 18 กันยายน 2561 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งจากการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนขณะนี้ พบว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ขนาดใหญ่มี 54,532 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 77 ปริมาณน้ำในอ่างฯ ขนาดกลาง มี 3,127 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 61 รับน้ำได้อีก 18,443 ล้าน ลบ. ม. 

สำหรับอ่างฯ ที่ความจุเกิน 100% ที่มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเป็นอ่างฯ ขนาดกลาง ปัจจุบันมี 17 แห่ง เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 4 แห่ง แบ่งเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 แห่ง เพิ่มขึ้น 3 แห่ง ภาคตะวันออก 4 แห่ง เพิ่มขึ้น 1 แห่ง ขณะที่อ่างฯ ขนาดใหญ่ 2 แห่ง มีปริมาณน้ำคงที่และลดลง ได้แก่ เขื่อนน้ำอูน 105 % โดยในวันนี้จะมีการปรับแผนเพิ่มการระบายน้ำตามการคาดการ์ฝนของกรมอุตุนิยมวิทยาและ สสนก. เพื่อรองรับปริมาณฝนที่จะตกในพื้นที่ ขณะที่เขื่อนแก่งกระจาน 100 % ลดลงจากเมื่อวาน 1% น้ำล้นทางระบายน้ำ (Spillway) สูง 1 ซม. ลดลง 12 ซม. คาดว่าวันนี้จะไม่มีน้ำไหลผ่านสปิลเวย์ หากไม่มีฝนตกเหนือเขื่อนเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเร่งพร่องน้ำตามการคาดการณ์ฝนที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องด้วย

ส่วนอ่างฯ เฝ้าระวัง ความจุ 80-100% เป็นอ่างฯ ขนาดใหญ่ 5 แห่ง ส่วนใหญ่ปริมาณน้ำทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง ได้แก่ เขื่อนวชิราลงกรณ 94% ลดลงจากเมื่อวาน 1% เขื่อนศรีนครินทร์ 92% เท่าเดิม เขื่อนรัชชประภา 84% เท่าเดิม  เขื่อนขุนด่านปราการชล 85% เท่าเดิม เขื่อนนฤบดินทรจินดา 89% เท่าเดิม แต่อ่างฯ ขนาดกลางมีทั้งสิ้น 72 แห่ง เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 8 แห่ง แยกเป็น ภาคเหนือ 10 แห่ง เพิ่มขึ้น 2 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 43 แห่ง เพิ่มขึ้น 4 แห่ง ภาคตะวันออก 12  แห่งเท่าเดิม ภาคกลาง 6 แห่ง เพิ่มขึ้น 2 แห่ง และภาคใต้ 1 แห่ง เท่าเดิม 


ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ฝนวันนี้มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก 36 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด โดยปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมาก สูงสุดที่ จ.น่าน 118 มม. จ.จันทบุรี 106 มม. จ.มุกดาหาร 94 มม. อำนาจเจริญ 94 มม. ฉะเชิงเทรา 80 มม. บุรีรัมย์ 77 มม. อุบลราชธานี 72 มม. สุโขทัย 69 มม. ระยอง 69 มม. กรุงเทพมหานคร 67 มม. ปทุมธานี 66 มม. เชียงราย 64  มม. พระนครศรีอยุธยา 60 มม. เพชรบูรณ์ 59 มม. จ. นครสวรรค์ 58 มม.และ จ.พะเยา 51 ตามลำดับ

ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำสำคัญ ๆ ที่ยังพบว่ามีน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง แต่มีแนวโน้มทรงตัวและลดลง ได้แก่ แม่น้ำสงคราม จ.สกลนคร อ.เซกา จ.บึงกาฬ แนวโน้มลดลงตามการลดลงของแม่น้ำโขง ห้วยหลวง จ.อุดรธานี แนวโน้มลดลง แม่น้ำนครนายก บริเวณ อ.องครักษ์ จ.นครนายก แนวโน้มทรงตัว แม่น้ำปราจีนบุรี บริเวณ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี แนวโน้มลดลง แม่น้ำบางปะกง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา แนวโน้มทรงตัว ขณะที่พื้นที่ลุ่มต่ำในแม่น้ำป่าสัก บริเวณ อ.ขัยบาดาล จ.ลพบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่เนื่องจากแม่น้ำป่าสักยังคงมีระดับสูงกว่าตลิ่ง ส่วนที่แม่น้ำโขงไม่มีน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังจังหวัดริมแม่น้ำโขง เนื่องจากยังคงมีฝนตกในพื้นที่ และมีปริมาณน้ำจากสถานีจิงหง ประเทศจีนเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

อลังการเคาท์ดาวน์เชียงใหม่ดึงดูดผู้คนทั่วโลก

ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่เชียงใหม่กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่จะไปร่วมเฉลิมฉลองกันที่นั่นไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน ซึ่งมีการจัดกิจกรรมนับถอยหลังสู่ปีใหม่ในหลายจุด โดยเฉพาะที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ซึ่งเต็มไปด้วยความสวยงามของดอกไม้และแสงไฟ เรียกว่าเป็นจุดเคาท์ดาวน์ที่สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน

พ่อช็อก ลูกสาวเสียชีวิตเหตุเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์

พ่อช็อก น้ำตาคลอรู้ข่าวลูกสาวเสียชีวิตเหตุเครื่องบินเชจูแอร์ ไถลออกนอกรันเวย์ เผยเป็นลาง ลูกยื่นเงินหมื่นให้พ่อจ่ายเงินฌาปนกิจศพให้ตัวเอง

Jeju Air CEO apologises for plane crash at airport in South Korea

ซีอีโอเชจูแอร์ขอขมาผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินชน

โซล 29 ธ.ค.- ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) ของสายการบินเชจูแอร์ (Jeju AIr) ขอขมาต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินชนรั้วกั้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 124 คน จากจำนวนคนบนเครื่องบินทั้งหมด 181 คน นายคิม อีแบ ซีอีโอเชจูแอร์ แถลงต่อสื่อสั้น ๆ ว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอขมาต่อผู้โดยสารที่เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ รวมถึงครอบครัว บริษัทจะแก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็วและให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้โดยสาร นอกจากนี้จะพยายามอย่างเต็มที่ในการหาสาเหตุร่วมกับรัฐบาล นายคิม กล่าวว่า บริษัทให้บริการเครื่องบินลำนี้โดยได้มีการซ่อมบำรุงตามปกติ และไม่พบสัญญาณใด ๆ ว่าเครื่องบินมีความผิดปกติ เชจูแอร์เป็นสายการบินต้นทุนต่ำของเกาหลีใต้ที่ตั้งขึ้นในปี 2548 ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศไปยังญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และไทย และมีเที่ยวบินในประเทศจำนวนมาก ด้านโบอิง บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐ แถลงว่า กำลังประสานกับเชจูแอร์ กรณีเครื่องบินโบอิง 737-800 แบบ 2 เครื่องยนต์ เที่ยวบิน 7ซี2216 (7C2216) ชนที่ท่าอากาศยานทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ และพร้อมให้ความช่วยเหลือสายการบิน ขณะที่กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ ระบุว่า เครื่องบินลำนี้ผลิตในปี 2552 […]

ข่าวแห่งปี 2567 : สุดอาลัย…ดาวลับฟ้า ปี 2567

ตลอดปี 2567 นับเป็นปีที่สูญเสียบุคคลมีชื่อเสียง ทั้งในแวดวงบันเทิง ศิลปินแห่งชาติ และวงการสื่อสารมวลชน ที่มีคุณูปการต่อประเทศชาติ