คาดพายุโพดุลเติมน้ำเขื่อนใหญ่ 14 แห่ง

กรุงเทพฯ 30 ส.ค. – ศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจเกาะติดสถานการณ์พายุโพดุลเข้าอีสาน-เหนือ ลุ้นน้ำไหลเข้าเขื่อนภูมิพล-สิริกิติ์เพิ่ม หลังประเมินพื้นที่ภาคเหนือ อีสานบน ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงมีทิศทางดีขึ้น เตรียมพร้อมแก้ปัญหาพื้นที่เสี่ยงประสบภาวะน้ำล้นตลิ่งบางแห่ง พร้อมคาดว่าจะมีพายุเข้ามาช่วยเติมน้ำอีกปลาย ก.ย.-ต.ค.นี้  



นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจ ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง 11 หน่วยงาน เพื่อติดตามสถานการณ์ และคาดการณ์อิทธิพลจากพายุโพดุลที่ส่งผลกับประเทศไทยในช่วงวันที่ 30 สิงหาคม – 1 กันยายน 2562 ว่า จากการติดตามการเคลื่อนตัวของพายุระดับ 3 (โซนร้อน) โพดุล ซึ่งเป็นลูกที่ 3 ของปีนี้ที่เข้าสู่ประเทศไทย ล่าสุดศูนย์กลางพายุอยู่ที่จังหวัดสกลนคร และลดระดับเป็นพายุดีเปรสชั่น ความเร็ว ลม 55 กม./ชม. เคลื่อนตัวไปด้านทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กม./ชม. คาดว่าจะเคลื่อนผ่านบริเวณจังหวัดอุดรธานี หนองบัวลำภู และเลย  และอ่อนตัวลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำช่วงเย็นวันนี้ จากนั้นจะค่อย ๆ สลายตัว และพ้นไปจากประเทศไทยวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค.) 


อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ศูนย์กลางพายุกำลังลดลงนั้น กระแสลมและปริมาณฝนจะยังคงอยู่อย่างต่อเนื่อง สำหรับวันนี้จะมีฝนตกหนักบริเวณภาคอีสาน โดยเฉพาะภาคอีสานตะวันตก และอีสานตอนล่างบางส่วน ส่วนวันพรุ่งนี้จะมีฝนตกหนักบริเวณภาคเหนือตอนบน และภาคอีสานบางส่วน และตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 เป็นต้นไป จะยังคงมีฝนตกกระจายอยู่อย่างต่อเนื่อง จากอิทธิพลของพายุและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้ามา ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เกิดฝนตกหนักในภาคใต้ด้วย โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตก 

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการประเมินแหล่งน้ำที่จะได้รับประโยชน์จากพายุลูกนี้ที่จะส่งผลให้น้ำไหลเข้าแหล่งน้ำเพิ่มขึ้นในแหล่งน้ำต่าง ๆ เพื่อสำรองไว้ใช้ในฤดูแล้งที่จะถึงนี้ โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ที่ยังมีปริมาณน้ำเก็บกักน้อย แต่จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ ไม่มาก น่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบกับพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ เนื่องจากฝนทิ้งช่วงปัจจุบันที่มีอยู่ 14 จังหวัด 79 อำเภอ 527 ตำบลได้บางส่วน



“จากการคาดการณ์ทิศทางของพายุเบื้องต้น พบว่าพายุลูกนี้จะเพิ่มปริมาณน้ำในแหล่งน้ำที่มีปริมาณความจุน้ำน้อยกว่า 30% ประกอบด้วย ขนาดใหญ่ 14 แห่ง ที่คาดว่าจะได้น้ำเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอ่างฯ ที่มีปริมาณฝนไหลเข้าอ่างฯ น้อยในช่วงที่ผ่านมา อาทิ เขื่อนทับเสลา เขื่อนกระเสียว เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนอุบลรัตน์ เป็นต้น ขนาดกลางน้ำน้อยกว่า 30% ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 130 แห่ง คาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้น 92 แห่ง โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำที่เคยมีปัญหาเริ่มมีน้ำไหลเข้าอ่างฯ มากขึ้น เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง จังหวัดสุรินทร์ ที่ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจนพ้นภาวะวิกฤติแล้ว และห้วยจระเข้มาก จังหวัดบุรีรัมย์ แม้จะยังไม่มากแต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป โดยวันจันทร์ที่ 2 กันยายนนี้ สทนช.จะประชุมศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจอีกครั้ง เพื่อสรุปสถานการณ์น้ำจากอิทธิพลของพายุโพดุลและปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ซึ่งจะนำไปคาดการณ์ปริมาณน้ำหลังสิ้นสุดฤดูฝน เพื่อการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งปี 2562/2563” นายสำเริงกล่าว

อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงผลทางบวกเท่านั้นที่ศูนย์ฯ จะมีการติดตาม แต่ในส่วนผลกระทบของพายุลูกนี้กับพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ลำน้ำสาขาต่าง ๆ ที่จะมีน้ำเพิ่มขึ้นและมีความเสี่ยงล้นตลิ่ง ทางศูนย์ฯ ได้กำชับทุกหน่วยงานให้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าจากฝนตกในช่วง 2-3 วันนี้ ตามที่ศูนย์ได้มีการออกประกาศแจ้งเตือนฉบับที่ 4/2562 ไปก่อนหน้านี้แล้ว ยังรวมถึงแหล่งน้ำที่มีปริมาณน้ำเก็บกักมาก โดยเฉพาะแหล่งน้ำขนาดกลางบริเวณภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคตะวันออก ที่มีปริมาณน้ำเกินกว่า 100% แล้ว จำนวน 28 แห่ง และมีแนวโน้มที่จะเกิน 100% จากอิทธิพลของพายุอีก 13 แห่ง เนื่องจากตั้งแต่ช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมามีฝนตกมากขึ้นในหลายพื้นที่ทำให้ดินมีความชุ่มน้ำ เมื่อมีปริมาณฝนตกลงมาเพิ่มจะส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลลงแหล่งน้ำต่าง ๆ ได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งศูนย์ฯ ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบแหล่งน้ำทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็กที่จะได้รับอิทธิพลจากพายุลูกนี้ พิจารณาปรับแผนการระบายน้ำ รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำเพิ่มขึ้น และตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนเป็นรายเขื่อนอย่างใกล้ชิด เช่น หนองหาร ขณะนี้ได้เร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง 

แต่เนื่องจากในช่วงเวลาเดียวกันลำน้ำโขงมีปริมาณน้ำสูงขึ้น กรมชลประทานจึงเตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งสูบน้ำในพื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วม เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลสภาพอากาศในช่วงปลายเดือนสิงหาคมปี 2561 จะเห็นได้ว่าขณะนั้นมีพายุแปซิฟิกเกิดขึ้น 26 ลูก ขณะที่ปีนี้พายุโพดุลเป็นเพียงลูกที่ 13 เท่านั้น  จึงคาดการณ์แนวโน้มว่ามีโอกาสที่หลังจากนี้อาจจะมีพายุลูกอื่นเข้ามาในประเทศไทยอีกปลายเดือนกันยายน-ตุลาคม ซึ่งศูนย์ฯ จะยังคงต้องติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับบ้านพร้อมหน้า

อุบลราชธานี 8 ส.ค. – ฝนชะล้างความเศร้า ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับเข้าบ้านเรือนเกือบหมดแล้ว ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้งในรอบกว่า 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่เกิดเหตุไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา .-สำนักข่าวไทย

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]