สำนักข่าวไทย10ก.ย.-ผู้จัดการ กยศ.เผยระงับติดตามหนี้ให้นักเรียนที่เชียงรายแล้ว หลังพบสถานศึกษาปลอมเเปลงเอกสารเพื่อกู้เงิน เร่งตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติม คาด 2-3 วันรู้ผล ยอมรับช่องโหว่คือให้อำนาจสถานศึกษาอนุมัติการกู้เงินของเด็ก
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ผู้จัดการ กยศ.) เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยถึงความคืบหน้ากรณีที่ผู้ปกครองของนักเรียนรายหนึ่งในจ.เชียงราย เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเชียงของ ระบุว่าลูกชายถูกกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) ส่งหนังสือทวงถามหนี้เงินกู้เรียนเกือบ 60,000 บาท ทั้งที่ไม่เคยกู้เงิน ซึ่งคาดว่าสถานศึกษาในขณะนั้นอาจปลอมแปลงเอกสารเพื่อกู้เงินว่า กยศ.ได้สืบหาข้อมูล พบว่าปัจจุบันสถานศึกษาดังกล่าวไปปิดทำการเรียนการสอนไปเเล้ว โดยผู้กู้ไปเรียนที่สถานศึกษาเเห่งนี้ตั้งเเต่ปี 2553 เมื่อเรียนได้ 3 เดือนก็ลาออกเเล้วย้ายไปเรียนที่อื่น
ซึ่งกองทุนได้โอนเงินเข้าบัญชีผู้กู้รายนี้ตั้งเเต่ปี 2556-2557 โดยให้กู้เงินประเภทค่าครองชีพ เดือนละ 2,200 บาท รวมเป็นเงิน 52,800 บาท ซึ่ง กยศ.ได้พูดคุยกับผู้กู้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ยื่นกู้ โดยกยศ.ได้ระงับการติดตามหนี้ให้เเล้ว ไม่ต้องกังวล โดยให้ผู้กู้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการมาอีกครั้ง
ขณะเดียวกันกยศ.ได้ติดต่อสถานศึกษาเเล้วอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน รวมถึงค้นหนังสือสัญญาต้นฉบับที่มีลายเซ็นของผู้กู้ เพื่อตรวจว่าเป็นลายเซ็นผู้กู้จริงหรือไม่อย่างละเอียด ซึ่งคาดว่า 2-3 วันนี้จะทราบผล
นายชัยณรงค์ กล่าวต่อว่า ส่วนก่อนหน้านี้พบกรณีเจ้าของโรงเรียนดังกล่าวกำลังถูกกยศ.ดำเนินการฟ้องร้องทางแพ่ง หลังโรงเรียนนำเงินจากกยศ.มาปล่อยให้นักเรียนกู้ยืมเมื่อปี 2549 แต่ไม่มีการนำส่งเอกสารหลักฐานของนักเรียนให้กับกยศ.นั้น เป็นสถานศึกษาเดียวกัน เเต่ปี 49 เป็นการค้างส่งเอกสารบางส่วน เเต่ในปี 56 เป็นการกู้เงินตามปกติ ซึ่งกยศ.ไม่ทราบว่ามีการทุจริต ซึ่งมาทราบตอนที่ทำหนังสือเเจ้งเด็กไปแล้ว เเละเด็กก็ได้ตามกลับมา
อย่างไรก็ตามยอมรับช่องโหว่หนึ่งของปัญหาคือการที่ กยศ.ให้อำนาจสถานศึกษาพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัตินักเรียน รวมถึงการคัดเลือก อนุมัติตลอดจนทำสัญญา เเต่หากถ้าสถานศึกษาทำผิด เเสวงหาผลประโยชน์กับเด็ก ก็จะดำเนินการทางกฏหมาย อาทิ เพิกถอนไม่ให้สถานศึกษาดังกล่าวกู้เงินกยศ. เเต่ก็ต้องไม่กระทบต่อการกู้ของเด็ก ซึ่งตนคิดว่าปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นไม่มากในอดีต อาจจะมีข้อบกพร่องบ้างเนื่องจากเเต่ละปีให้เด็กกู้เงินหลายเเสนคน ปัจจุบันอาจไม่พบเเล้ว
ทั้งนี้หากใครพบปัญหาอย่างกรณีดังกล่าวให้ไปแจ้งความ หรือเข้ามาติดต่อกยศ.ได้ทันที กยศ.จะช่วยเหลือเต็มที่ ขณะเดรยวกันกยศ.กำลังพัฒนาระบบให้กู้ยืมใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2563 โดยระบบใหม่จะไม่มีการเซ็นสัญญาด้วยเอกสาร เเต่จะมีการยืนยันตัวตนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น ซึ่งปัญหาดังกล่าวก็จะไม่เกิดขึ้นอีก .-สำนักข่าวไทย