กรุงเทพฯ 9 ก.ย.- ตำรวจเร่งคลี่คลายปมการฆ่าตัวตายของ “เก๋ กันยกร” ดารานางแบบ หลังตัดสินใจกินยาฆ่าหญ้าก่อนกระโดดจากอาคารสูงและเสียชีวิตเมืื่อคืนท่ีผ่านมา
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี เก๋ กันยกร ศุภการค้าเจริญ อายุ 30 ปี ดารานางแบบดัง เสียชีวิตจากเหตุตกที่สูงว่า เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 เวลาประมาณ 21.30 น. สน.โชคชัย ได้รับแจ้งเหตุมีคนตกจากที่สูง บริเวณลาพรีมคลินิค ซอยร่วมน้ำใจ แยก 4 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ และร่วมกับแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพผู้ตายเบื้องต้น ณ โรงพยาบาลลาดพร้าว
จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ ทราบว่า ขณะกำลังทำงานอยู่อาคารที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 1 พร้อมด้วยพยานอีกคน ซึ่งเป็นแม่บ้าน ได้ยินเสียงดังตุ๊บคล้ายของหนักตกใส่ ระเบียงชั้น 2 จึงพากันขึ้นไปดูที่ห้องทำงานชั้น 3 พบ ผู้ตาย นอนบาดเจ็บอยู่ที่ระเบียง จึงช่วยกันนำส่ง รพ.ลาดพร้าว
ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บริเวณเกิดเหตุพบว่า ผู้ตายได้กระโดดลงมาจากหน้าต่างห้องพักที่อาศัยอยู่เพียงคนเดียว และ จากการตรวจสอบภายในห้องพักพบยาฆ่าหญ้ากรัมม๊อกโซน เปื้อนอยู่บนพื้นห้องน้ำและในห้องนอน
จากการติดตามดูอาการผู้ตายและสอบถามแพทย์ รพ.ลาดพร้าว ในเวลาต่อมาทราบว่า ผู้ตายมีอาการบาดเจ็บจากบาดแผลตกจากที่สูงและภายในร่างกายพบว่ามีสารพิษ เบื้องต้นอยู่ในอาการสาหัส ซึ่งแพทย์กำลังให้การรักษา ต่อมาเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2561 เวลาประมาณ 20.30 น. ได้รับแจ้งว่าผู้ตายได้เสียชีวิตแล้ว โดยพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย จะได้ส่งศพผู้ตายไปสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจเพื่อตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดต่อไป
รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า สำหรับสาเหตุการฆ่าตัวตายในครั้งนี้ สันนิษฐานว่าแรงจูงใจของผู้ตายมาจากความเครียดเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัว ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ ดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ในสำนวนคดีชันสูตรพลิกศพ อย่างครบถ้วน ตรงไปตรงมา ด้วยความรวดเร็ว เป็นธรรม โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์นิติเวชเป็นสำคัญ พร้อมกำชับฝ่ายสืบสวน สนับสนุนข้อมูลในการพยานหลักฐาน จากพยานบุคคลและพยานแวดล้อมต่างๆทางคดี เพื่อจะได้ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ที่แท้จริงและสามารถตอบคำถามของญาติผู้เสียชีวิตและสังคมได้.-สำนักข่าวไทย