นครราชสีมา 17 ก.ย.-ตำรวจเจ้าของคดีครูปาแก้วใส่นักเรียนหญิงเตรียมเรียกเพื่อนนักเรียน 9 คนไปให้ปากคำในฐานะพยานวันอังคารนี้ ก่อนสรุปสำนวนส่งอัยการสัปดาห์หน้า ขณะที่ ผอ.โรงเรียนโชคชัยสามัคคี เผยเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย อยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี และอยากให้น้องทรายกลับมาเรียนต่อที่เดิมจนจบ
ความคืบหน้ากรณีผู้ปกครองนักเรียนแจ้งความดำเนินคดีนายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ครูวิชาพลศึกษา โรงเรียนโชคชัยสามัคคี อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ที่ก่อเหตุปาแก้วเซรามิกกระเด็นไปถูกใบหน้า น.ส.นฤดี หรือน้องทราย นักเรียนชั้น ม.5 ส่งผลให้ลูกศิษย์คนดังกล่าวเสียโฉม ปากเบี้ยว ตาซ้ายปิดไม่สนิท
ร.ต.อ.กานต์ สิงห์ช้างชัย พนักงานสอบสวน สภ.โชคชัย เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ตำรวจได้ให้นักเรียนชั้น ม.5/10 เพื่อนร่วมชั้นของน้องทราย ได้จำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด เพื่อบันทึกเป็นหลักฐานประกอบสำนวน ขณะเดียวกันได้ประสานโรงเรียน เพื่อขอเบิกตัวเพื่อนนักเรียน 9 คน ในฐานะพยาน ไปสอบปากคำต่อหน้าอัยการและนักสังคมสงเคราะห์ในวันที่ 20 ก.ย.นี้ ก่อนรวบรวมสรุปสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการภายในสัปดาห์หน้า
ด้าน ว่าที่ ร.ต.นิพนธ์ ภักดีแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนโชคชัยสามัคคี ยืนยันว่าผลสอบครูปาแก้ว ทุกอย่างว่ากันไปตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง ทั้งนี้ พยานทุกคนให้การตรงกันหมดว่า ครูปาแก้วไปกระทบขอบหน้าต่างก่อนกระเด็นไปโดนหน้าน้องทราย สอดคล้องกับรูปการณ์ที่แก้วไปโดนบริเวณใบหน้าด้านซ้าย ซึ่งเกิดจากความไม่ตั้งใจ ส่วนที่น้องทรายยืนยันมาตลอดว่า ครูปาแก้วใส่หน้าโดยตรงนั้น อาจจะขัดแย้งกับพยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นไปได้ว่า ขณะนั้นน้องทรายอาจจะก้มดูโทรศัพท์ จึงไม่เห็นเหตุการณ์ หรือเห็นไม่ชัดเจน
“ในฐานะผู้บังคับบัญชา มีความเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย อยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี อยากให้น้องทราย กลับมาเรียนต่อที่เดิมให้จบ ม.6 ครูและเพื่อน ๆ ทุกคนพร้อมให้กำลังใจ ครูพร้อมช่วยสอนเสริมและให้สอบปลายภาคทีหลังได้ ส่วนเรื่องที่น้องทรายต้องการย้ายโรงเรียนนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ทำเรื่องใด ๆ มาที่โรงเรียนเลย” ผู้อำนวยการโรงเรียนโชคชัยสามัคคี กล่าว.-สำนักข่าวไทย