น้องทราย ม.5 โคราชพบสหวิชาชีพกรณีครูปาแก้ว

นครราชสีมา 15 ก.ย.- ผู้ปกครองพา “น้องทราย” นักเรียน ม.5 ผู้บาดเจ็บถูกครูปาแก้วกระเด็นใส่หน้ารุดให้ปากคำสหวิชาชีพ เผยไม่เคยมีปัญหากับครู และอยากย้ายโรงเรียน แต่ตอนนี้ขอรักษาตัวให้หายและให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย


เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (15 ก.ย.) ที่สำนักงานอัยการจังหวัดนครราชสีมา ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้ปกครองและน้องทราย นักเรียนหญิง อายุ 17 ปี ชั้น ม.5  ผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บจากครูพละขว้างแก้วกาแฟเมลามีนกระเด็นใส่ถูกใบหน้า ทำให้ปากเบี้ยว ตาปิดไม่สนิท เดินทางเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนในคดีข้อหาทำร้าย โดยมี น.ส.สุภา ปุ้มแสง นักสังคมสงเคราะห์ บ้านพักเด็กและครองครัวจังหวัดนครราชสีมา กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มาพูดคุยและให้คำแนะนำก่อนเข้าห้องสอบสวนที่มีการจัดแยกไว้

rat (3)


การสอบปากคำน้องทราย ภายในห้องมีญาติ 1 คน สามารถเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ และมีการติดเครื่องบันทึกเสียง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพมาร่วมสอบ ได้แก่ น.ส.กัญญพัชร  เกียรติแสดงสิงห์ พนักงานอัยการจังหวัดนครราชสีมา และนางสรณ์ศิริ   ศิริวันอัมพร นักจิตวิทยา   เนื่องจากผู้เสียหายยังเป็นเยาวชน ส่วน ร.ต.อ.กานต์ สิงห์ชัย พนักงานสอบสวน สภ.โชคชัย เจ้าของคดี นั่งแยกอยู่อีกห้องหนึ่ง ซึ่งมีเครื่องขยายเสียงและภาพกล้องวงจรปิดในห้องสอบสวนถ่ายทอดสดออกมาให้ชมและฟังตลอดการสอบสวน โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์

แม่ของน้องทราย ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าห้องให้ปากคำว่า  ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยเจรจาตกลงกันเรื่องค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลมา 3 ครั้ง ตามที่พนักงานสอบสวนนัดหมาย แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ดังนั้น ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย  ตอนนี้ขอรักษาน้องทรายหายเป็นปกติ เพราะหากปล่อยไว้นานแพทย์เกรงว่าอาจกระทบต่อการมองเห็นหรือตาบอด ทุกวันนี้น้องทรายเริ่มมองเห็นพร่ามัว สำหรับการย้ายโรงเรียนนั้น  ต้องคุยกันอีกครั้ง

rat (1)


ด้านน้องทราย กล่าวว่า แม้ไม่มีครูพละสอนอยู่ที่โรงเรียนนั้นแล้ว แต่ก็ไม่อยากไปเรียน เพราะสภาพแวดล้อมจะทำให้นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น อยากย้ายที่เรียน ยอมรับว่าสภาพจิตใจตอนนี้ย่ำแย่ หากเข้ามาเรียนในตัวเมืองจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ครอบครัวฐานะไม่ค่อยดี พ่อแม่ทำงานรับจ้างและทำไร่มันสำปะหลัง เท่ากับเป็นการสร้างภาระให้ครอบครัวอีก วันพรุ่งนี้ (16 ก.ย.) จะไปรักษาตัวที่ รพ.ยันฮี ซึ่งแพทย์บอกว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 3 วัน ในการตรวจอย่างละเอียด หลังเกิดเหตุครูไม่เคยถามหรือมาเยี่ยมมีเพียง ผอ.โรงเรียนที่เข้ามาพูดคุย และที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาส่วนตัวกับครู และยังเป็นครูที่ปรึกษามาตั้งแต่ ม.4 โดยบุคลิกของครูค่อนข้างดุ เสียงดัง วันนี้ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย

“ก่อนเคยฝันว่าเรียนจบแล้วจะมุ่งหวังไปเรียนเป็นครูสอนพละ หรือนักวิทยาศาสตร์การกีฬา เพราะเราเลือกเรียนสายกีฬา แต่วันนี้คงไม่อยากเป็นแล้ว”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เตือนภาคใต้ฝนเพิ่มขึ้น ส่วนไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง

กรมอุตุฯ เตือนภาคใต้ฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนไทยตอนบน อุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง อีสานอุณหภูมิลด 2-4 องศาฯ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า