ประชาธิปัตย์ 17 ก.ย.- ราเมศ ห่วง การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างของ สนช. พบช่องโหว่เอื้อต่อการทุจริตคอร์รัปชั่นได้ ขัดต่อร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 258 ย้ำ หากกรรมาธิการ สนช.ไม่ปรับแก้ จะต้องไปสู้กันในศาลรัฐธรรมนูญ
นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง ร่าง พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุของภาครัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรรมาธิการวิสามัญ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า ได้ท้วงติงในสาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ต่อกรรมาธิการหลายครั้ง โดยเฉพาะมาตรา 7 ที่ยกเว้นว่า การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐวิสาหกิจ การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ การจัดจ้างที่ปรึกษาและงบประมาณการวิจัยต่างๆ ตลอดจนการกู้เงินจากต่างประเทศมาใช้จ่าย ไม่ต้องเปิดเผยราคากลาง หรือข้อมูลเพื่อความโปร่งใส รวมทั้ง มาตรา 60 ที่ยกเว้นไม่ให้ใช้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
“ผมมองว่า ไม่ควรยกเว้นการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่เช่นนั้น อาจเกิดความโปร่งใสในการใช้งบประมาณแผ่นดินได้” นายราเมศ กล่าว
นายราเมศ กล่าวว่า โดยหลักการแล้ว พรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยกับการมีกฎหมายออกมา เพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง แต่กฎหมายที่จะร่างขึ้นมานั้น ต้องมีประสิทธิภาพในการป้องกันอย่างแท้จริง ไม่ใช่ออกกฎหมายเพื่อเอื้อการทุจริตและประพฤติมิชอบ และว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ท้วงติงไปยังกรรมาธิการที่กำลังพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบ ทั้งที่กฎหมายมีความสำคัญต่อประเทศ
“ขอเรียกร้องว่า หากมีความจริงใจในเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างแท้จริงแล้ว กรรมาธิการควรออกมาชี้แจงถึงความคืบหน้าของกฎหมายฉบับดังกล่าว ว่าได้แก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการป้องกันการทุจริตอย่างแท้จริงหรือไม่” นายราเมศ กล่าว
นายราเมศ ย้ำว่า หากกรรมาธิการไม่ปรับแก้ กฎหมายฉบับนี้จะขัดต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านประชามติ ในมาตรา 258 ซึ่งระบุอย่างชัดเจนว่า ให้มีการปรับปรุงระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ให้คล่องตัว เปิดเผย และตรวจสอบได้ ให้มีกลไกป้องกันการทุจริตทุกขั้นตอน
“หากร่างกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างไม่แก้ไขให้สอดคล้อง ก็ต้องไปสู้ในศาลรัฐธรรมนูญ เพราะร่างกฎหมายนี้ขัดต่อบทบัญญัติของร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 258” นายเรเมศ กล่าว .- สำนักข่าวไทย