ทำเนียบฯ 30 ส.ค.- 4 หน่วยงานรัฐ ลงนาม MOU เสริมสร้างเครือข่าว เพื่อสร้างธรรมาภิบาลในภาครัฐ “วิษณุ” ย้ำ ปฏิรูประบบธรรมาภิบาลเป็นเรื่องใหญ่ของการปฏิรูประบบราชการ ยืนยัน รัฐเดินหน้าแก้ปัญหาทุจริต ขอความร่วมมือทุกหน่วยงาน เพื่อให้ดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นโลกของไทยสูงขึ้น เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การเสริมสร้างเครือข่ายเพื่อสร้างธรรมาภิบาลในหน่วยงานภาครัฐ ระหว่างปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน
โอกาสนี้ นายวิษณุ ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ประชาชนเข้มแข็ง ภาครัฐโปร่งใส ร่วมพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า การลงนาม MOU วันนี้ เพื่อจับมือทำงาน และแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน และสร้างความโปร่งใสในภาครัฐ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปอย่างมั่นคง ปราศจากการคอรัปชั่น
นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องที่ใหญ่ที่สุดในการปฏิรูประบบราชการ คือการปฏิรูประบบธรรมาภิบาล หรือ หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยธรรมาภิบาล ถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบงานของรัฐ ที่ทุกอย่างต้องทำอย่างโปร่งใส ถูกต้องตามกฏหมาย มีคุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบ เปิดโอกาสให้คนมีส่วนร่วม และใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า โดยทั้งหมดจะช่วยลดการทุจริตคอรัปชั่น และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการติดต่อราชการ
นายวิษณุ กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมานี้ ไม่มีการเดินขบวนมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล หรือร้องเรียนเรื่องต่าง ๆ มากเหมือนในอดีต ซึ่งไม่ใช่เป็นเพราะรัฐบาลปิดกั้นประชาชน แต่เป็นเพราะรัฐบาลได้ตั้งศูนย์ดำรงธรรมในแต่ละพื้นที่ เพื่อรับเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ จากประชาชนและนำไปแก้ไข หากเรื่องใดยังแก้ไขไม่ได้ และมีความจำเป็นเร่งด่วน ก็จะมีการออกคำสั่งตามมาตรา 44 เพื่อแก้ไขปัญหา
“เมื่อรัฐบาลนี้เข้ามาทำหน้าที่ ก็พบว่ามีเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องของการทุจริตค้างอยู่กว่า 30 โครงการ ซึ่งได้ส่งให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ แต่ละเรื่องอาจไม่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ ต้องมีความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน รวมถึง ภาคเอกชนและประชาชนด้วย” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่า ดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นโลกในปี 2560 ไทยคะแนนเพิ่มจาก 35 เป็น 37 ขยับมาที่ 96 จาก 101 ใน 180 ประเทศ ถือว่าพอใช้ เมื่อเทียบกับประเทศในอาเซียน แต่ทุกหน่วยงานต้องช่วยกันแก้ปัญหาทุจริต ให้คะแนนไปให้ถึง 50 เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ให้รู้ว่าไทยมีการแก้ไขปัญหาทุจริต
“ยืนยันว่า รัฐเดินหน้าติดตามแก้ไขปัญหาทุจริต ไม่ว่าจะเป็นในกระทรวงต่างๆ การทุจริตเงินทอนวัดและการทุจริตคนไร้ที่พึ่ง ซึ่งการหาข้อมูลต่างๆไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ต้องดำเนินการ เพื่อให้ระบบราชการใสสะอาดขึ้น” นายวิษณุ กล่าว .- สำนักข่าวไทย .- 453 (211)