ก.เกษตรเร่งหามาตรการกำกับสหกรณ์ออมทรัพย์

กรุงเทพฯ  29 ส.ค. – รมว.เกษตรฯ เตรียมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์ เพื่อออกกฎกระทรวงควบคุมการทำธุรกรรมการเงิน ซึ่งที่ผ่านมากฎหมายควบคุมไม่ถึงจนหลายสหกรณ์ขาดสภาพคล่อง เป็นหนี้ และมีการทุจริต


นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารจัดการและกำกับดูสหกรณ์ออมทรัพย์ กล่าวว่า กำลังเร่งหามาตรการกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ได้มอบหมายให้กระทรวงดำเนินการ เนื่องจากสหกรณ์ออมทรัพย์อยู่ภายใต้การกำกับของกรมส่งเสริมสหกรณ์

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสหกรณ์ออมทรัพย์ประมาณ 1,400 แห่ง พบว่าหลายแห่งประสบปัญหาการบริหารการเงิน ทั้งนี้ พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ในฐานะนายทะเบียนทำหน้าที่สร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์ แต่กฎหมายสหกรณ์ไม่ทันต่อความผันผวนทางการเงินในปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีจึงให้คณะกรรมการที่ปรึกษาฯ ประกอบด้วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กระทรวงการคลังมาเร่งรัดแก้ไข ซึ่งวันนี้ (29 ส.ค.) อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์จะเสนอรายชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมมาให้พิจารณาแต่งตั้งเป็นคณะอนุกรรมการศึกษาดูแลกิจการสหกรณ์ออมทรัพย์       


นายกฤษฎา กล่าวว่า ธุรกรรมการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์กว่า 1,400 แห่ง มีวงเงินมากถึง 2.2 ล้านล้านบาท สาเหตุที่เงินจำนวนมากไหลเข้าสู่ระบบสหกรณ์ออมทรัพย์มาก เนื่องจากธนาคารพานิชย์และสถาบันการเงินต่าง ๆ ให้ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำไม่เกินร้อยละ 1- 2 ส่วนสหกรณ์ออมทรัพย์ให้สูงถึงร้อยละ 3-4 สหกรณ์ออมทรัพย์นำเงินฝากเหล่านี้มาแสวงหากำไรในหลายรูปแบบ เช่นปล่อยกู้สมาชิก และนำเงินไปฝากสหกรณ์อื่นในเครือข่ายนำไปปล่อยกู้กัน รวมยอดสหกรณ์กู้กันเองกว่า 1.99 ล้านล้านบาท อีกส่วนหนึ่งนำไปซื้อพันธบัตรและลงทุนในตลาดทุนกว่า 400,000 ล้านบาท  แต่เมื่อตรวจสอบพบว่ายอดเงินฝากกับยอดหนี้ใกล้เคียงกัน หากสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครติดยูเนี่ยนไม่สามารถรักษาเสถียรภาพทางการเงินได้ เกรงว่าเงินจำนวนมากที่เสียหายนี้จะส่งผลกระทบถึงระบบการเงิน การคลังของประเทศ

สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ การทำธุรกรรมของสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยการปล่อยกู้เพื่อหากำไรจากดอกเบี้ยเงินกู้เช่นเดียวกับธนาคาร แต่ธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ ควบคุมด้วยเครดิตบูโร ซึ่งจะตรวจสอบสถานะทางการเงินของผู้กู้ทุกรายก่อนปล่อยกู้ แต่สหกรณ์ไม่เข้าระบบเครดิตบูโร จึงไม่สามารถตรวจสอบหนี้ก่อนปล่อยกู้ให้สมาชิกได้ อีกทั้งส่วนใหญ่กู้ไปหมุนเวียนใช้สอยส่วนตัวไม่ใช่กู้ต่อยอดไปทำธุรกิจ

นายกฤษฎา กล่าวว่า เมื่อแต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษากิจการสหกรณ์ออมทรัพย์แล้วจะเร่งกำหนดหลักเกณฑ์กำกับดูแลกิจการสหกรณ์ออมทรัพย์ให้เสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งมีตัวแทนจากทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องและมีสันนิบาตรสหกรณร่วมด้วย หลังจากได้ผลศึกษานำเข้าคณะกรรมการฯ เพื่อออกเป็นกฎกระทรวงเกษตรฯ อาศัยตามอำนาจในพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ รัฐบาลให้ออกเกณฑ์กำกับสหกรณ์ตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังกำกับธนาคารพาณิชย์ ที่ผ่านมากรมส่งเสริมสหกรณ์ออกเกณฑ์กำกับส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว แต่ยังไม่รัดกุมเท่าที่ควร จึงให้กระทรวงเกษตรฯ มากำหนดเกณฑ์เพิ่มเติม โดยจะออกเป็นกฎกระทรวงเกี่ยวกับเกณฑ์กำกับในเรื่องการระดมเงินฝาก  นำเงินฝากไปลงทุน เกณฑ์การให้สมาชิกกู้ การจ่ายเงินปันผล การจ่ายโบนัส ทั้งนี้ รัฐบาลมีความกังวลที่กฎหมายสหกรณ์ตามสภาพเศรษฐกิจไม่ทัน หากการบริหารสะดุดจนขาดสภาพคล่องก็เสี่ยงจะล้มเป็นลูกระนาด เนื่องจากมีการกู้ในกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์กันเองและจะส่งผลกระทบต่อระบบการเงิน การคลังทั้งระบบ


นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้จะเสนอรายชื่อคณะอนุกรรมการศึกษาการกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณา พร้อมกันนี้ทางกรมกำลังจัดทำรายละเอียดมาตรการกำกับดูแลที่จะออกเพิ่มเติม ได้แก่ เกณฑ์กำหนดให้สหกรณ์ออมทรัพย์ทุกแห่งตั้งงบเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ  เพื่อป้องกันการระดมเงินฝากไปปล่อยเงินกู้ โดยไม่ดูคุณสมบัติผู้กู้ สมาชิกบางรายก่อหนี้จำนวนมากพอเกษียณโดนหักเงินจนไม่พอยังชีพ 

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลด้านสินเชื่อทั้งระบบของสหกรณ์ พบว่ามีหนี้เสียเพียงร้อยละ 0.4 แต่มีหลายแห่งที่มีปัญหาสภาพคล่อง เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ เกิดคดีไซฟอนเงินปล่อยกู้ผิดปกติ 2,200 ล้านบาท ซึ่งมีเจ้าหนี้กว่า 10 รายเป็นสหกรณ์ที่นำเงินมาฝาก สหกรณ์ออมทรัพย์ครูมีปัญหาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมาขายกว่า 8,000 ล้านบาท ได้ฟ้องร้องกรรมการติดคุกยึดทรัพย์คืนมาได้เพียงครึ่งเดียว สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ จังหวัดเลย อดีตประธานชักชวนให้สมาชิกกู้กว่า 192 ล้านบาท ซึ่งสหกรณ์เหล่านี้ต้องใช้เวลาแก้ไขดำเนินคดี ยึดทรัพย์นำเงินมาคืน แต่ส่วนใหญ่คืนไม่คุ้มยอดหนี้ ขณะนี้ที่หนักสุด คือ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จากคดีฟอกเงิน ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ปล่อยทรัพย์มาให้ 4 งวด และได้เงินคืนจากวัดพระธรรมกาย สามารถคืนเงินให้สมาชิกร้อยละ  20  ร่วม 2,000 ล้านบาท จากยอดหนี้ 15,000 ล้านบาท ทำแผนชำระหนี้ใน 26 ปีตามแผนฟื้นฟู

อีกแห่งเกิดคดีไซฟอนเงิน วงเงิน 5,500 ล้านบาท ของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ธนกิจไทย และมี 14 สหกรณ์เจ้าหนี้นำเงินมาฝาก โดยสหกรณ์ออมพรัพย์ธนกิจไทยนำเงินฝากไปปล่อยกู้ให้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์เคหะนพเกล้าแล้วนำไปซื้อที่ดินซึ่งปั่นราคาเกินจริงถึง 4,000 ล้านบาท ปรากฎว่าที่ดินดังกล่าวและอาคารในเมืองทองธานีมีมูลค่าจริงเพียง 700 ล้านบาท ซึ่งแนวทางแก้ไขจะสั่งให้สหกรณ์จังหวัดนนทบุรี ออกคำสั่งให้ปีบัญชีนี้ตั้งเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ติดลบขาดทุน 3,800 ล้านบาท แต่สหกรณ์ธนกิจยังไม่ตั้งหนี้สงสัยจะสูญ เพราะยืนยันว่าจะนำที่ดินไปขายได้ 

สำหรับการแก้หนี้สโมสรรถไฟวันที่ 31 สิงหาคมจะเลือกตั้งกรรมการชุดใหม่แทนชุดชั่วคราว โดยกรมจะติดตามแก้หนี้ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ปัญหาของสหกรณ์ออมทรัพย์ที่จะล้มหลายแห่งส่วนใหญ่มาจากมาตรการหละหลวมของระดับนโยบายในอดีต ช่วงปี 2552-2553 ต้องการให้กรรมการบริหารงานสหกรณ์อิสระตรวจสอบกันเอง ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]

คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำ ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัว

มุกดาหาร 13 ส.ค.- คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา หลังศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 26 ปี คดีน้องชมพู่ จากกรณีศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาเพิ่มโทษให้จำคุก “ลุงพล” 26 ปี ฐานเจตนาฆ่าเด็ก พรากผู้เยาว์ และอำพรางศพ ขณะที่ “ป้าแต๋น” พิพากษายืนยกฟ้อง ในคดีฆาตกรรม น้องชมพู่ ทั้งนี้ภายหลัง ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ “ลุงพล” ได้ยื่นขอประกันตัว โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร เสนอไปยังศาลฎีกา ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลฎีกายังไม่มีคำตอบลงมาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทำให้ “ลุงพล” ถูกคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา ย้อนไปคดีนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หายไปจากบ้านพักภาย ในหมู่บ้านกกกอก ทำให้ชาวบ้านมากกว่า 200 ชีวิต รวมถึง ตัวลุงพล ช่วยกันออกตามหา […]