สุราษฎร์ธานี 26 ส.ค.- ผู้การสุราษฎร์ฯ เผยตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบเหตุข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวต่างชาติ พร้อมสืบหาเบาะแสทั้ง ตม.-ตำรวจ-โฮสเทล และรายงานข้อเท็จจริง ผบ.ตร.แล้ว
พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียกประชุมด่วนชุดเจ้าหน้าที่ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี วันนี้ (26 ส.ค.) รวมทั้งวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับตำรวจ สภ.เกาะเต่า และ สภ.เกาะพะงัน กรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติ อายุ 19 ปี อ้างว่ามาเที่ยวกับเพื่อนที่หาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน ถูกวางยาไม่รู้สึกตัวเเละถูกข่มขืน หลังจากนั่งดื่มที่บาร์แห่งหนึ่งวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา และยังอ้างว่าได้ไปแจ้งความกับตำรวจเกาะพะงัน เเต่ตำรวจไม่ลงข้อมูลเรื่องการข่มขืนเพียงลงว่าโทรศัพท์สมาร์ทโฟนกับเงินสด 3,000 บาทหายไป
พ.ต.อ.สถิต คงเนียน ผกก.สภ.เกาะพะงัน รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. นักท่องเที่ยวรายนี้มาพร้อมกับเพื่อนชายต่างชาติเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่าทำโทรศัพท์มือถือ กับเงินสดจำนวน 3,000 บาท หายไปบริเวณหาดทรายรี ต.เกาะเต่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. และไม่ยืนยันว่าถูกโจรกรรม หรือ ทำหายเอง ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งให้ทราบว่าผู้เสียหายจะต้องเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ในพื้นที่เกิดเหตุ แต่นักท่องเที่ยวอ้างว่าไม่สะดวก และไม่ประสงค์จะดำเนินคดี เพียงแต่ต้องการหลักฐานไปแจ้งเคลมกับประกันภัยเท่านั้น พนักงานสอบสวนจึงได้อำนวยความสะดวกให้ ขอยืนยันว่าผู้เสียหายไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกข่มขืน
ด้าน พ.ต.ท.นพา เสนาทิพย์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.เกาะเต่า ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ได้มีเจ้าของโฮสเทลแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 1 ต.เกาะเต่า แจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวสาวต่างชาติคนเดียวกันนี้ได้ส่งข้อความมาแจ้งว่าขณะที่พักอยู่ที่เกาะเต่าถูกข่มขืนและชิงโทรศัพท์มือถือไป ขอให้เจ้าของโฮสเทลรับผิดชอบด้วย หลังรับแจ้งตำรวจเกาะเต่าได้เข้าตรวจสอบทันที รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด ปรากฏว่าช่วงเวลาที่ผู้เสียหายอ้างถึงนั้นทิ้งระยะห่างเกินไป ทำให้ไม่มีภาพบันทึกไว้ และเมื่อจะสอบปากคำผู้เสียหายปรากฏว่าได้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว
พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบของตรวจคนเข้าเมือง พบว่านักท่องเที่ยวรายนี้เดินทางเข้าประเทศไทยทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2561 แจ้งถิ่นที่พักอาศัยย่านถนนพระอาทิตย์ ท้องที่ สน.ชนะสงคราม กทม. กำหนดอยู่ในประเทศไทยถึงวันที่ 11 ส.ค.2561 และพบว่าได้เดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 2 ก.ค.2561 ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปยังตรวจคนเข้าเมืองสุราษฎร์ธานี และโฮสเทลดังกล่าว เพื่อตรวจสอบรายละเอียดการเดินทางเข้ามายังจังหวัดสุราษฎร์ธานี เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีเหตุการณ์ตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง รวมถึงสื่อต่างประเทศรายหนึ่งรายงานข่าว และเว็บพจส่วนบุคคล ขณะนี้ได้รายงานข้อเท็จจริงเสนอไปยังผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว พร้อมมอบหมายฝ่ายกฎหมายตรวจสอบที่มาไปของข่าว ซึ่งพบว่ามีเว็บไซต์หนึ่งใช้ชื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานีนำเสนอข่าวในลักษณะไม่เป็นจริง เข้าข่ายนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเป็นการกระทำต่อเนื่องหลังจากเกิดเหตุนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 ราย ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตบนหาดทรายรี ต.เกาะเต่า เมื่อปี 2557.-สำนักข่าวไทย
