กาญจนบุรี 20 ส.ค.- รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า เผยการร่วมลาดตระเวนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตกช่วง 6 วัน หลังพบกระทิงป่าตายชุดแรก 4 ตัว และยังพบเพิ่มอีกรวมเป็น 8 ตัว แต่ไม่มีร่องรอยถูกยิง คาดเกิดน้ำป่าพัดฝูงตกจากผา
พ.อ.พิเชษฐ์ หัสดีผง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา พบซากกระทิง 4 ตัว บริเวณลำห้วยรันตี บ้านกองม่องทะ ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จึงมอบหมายให้ ร.อ.ชาญณรงค์ อินลา ผู้ควบคุมส่วนลาดตระเวน หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เข้าตรวจสอบร่วมกับนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อมาพบซากกระทิงเพิ่มอีก 2 ตัว สภาพขึ้นอืด เบื้องต้นไม่พบร่องรอยต้องสงสัย คาดว่าเป็นฝูงกระทิงถูกน้ำป่าพัดตกจากหน้าผาที่มีความสูง 100 เมตร จากนั้นช่วงวันที่ 17-19 ส.ค. ชุดลาดตระเวนได้เข้าพิสูจน์ตามลำห้วยรันตีไปถึงบริเวณผาผึ้ง บ้านกองม่องทะ ซึ่งเป็นบริเวณรอยต่อโป่งร้อนกับเขาเอเหม่ และพบซากกระทิงอีก 2 ตัว รวมการตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 14-19 ส.ค. พบซากกระทิงจำนวน 8 ตัว อายุ 1-15 ปี ไม่พบรอยการถูกยิง
พ.อ.พิเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า จุดที่พบซากกระทิงเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร (ด้านตะวันตก) และอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวช่วงที่ผ่านมามีเหตุน้ำป่าไหลหลาก ทำให้ลำห้วยรันตีมีน้ำสูงกว่าปกติมากและเชี่ยวกราก คาดว่าฝูงกระทิงดังกล่าวหนีน้ำไม่ทัน จึงถูกกระแสน้ำพัดตกจากภูเขาและไหลมาตามลำน้ำ โดยซากกระทิงที่พบมีสภาพเริ่มเน่าเปื่อยและส่งกลิ่นเหม็น ประกอบกับเจ้าหน้าที่ไม่มีเครื่องมืออุปกรณ์จัดเก็บซาก หากปล่อยทิ้งไว้จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้และอาจส่งผลกระทบต่อชุมชนกับระบบนิเวศน์ จึงขออนุมัติพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ในการเผาทำลายซากกระทิง.-สำนักข่าวไทย