fbpx

เฝ้าระวังเขื่อนปราณบุรีเพิ่ม

กรุงเทพฯ  20 ส.ค. – เบบินคา-มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ส่งผลน้ำไหลเข้าเขื่อน 7 วัน สูงสุดที่ภาคตะวันตกกว่า 1 พันล้าน ลบ.ม. ศูนย์เฉพาะกิจฯ ชี้เขื่อนใหญ่เฝ้าระวัง 5 แห่ง เพิ่มเขื่อนปราณบุรีหลังน้ำไหลเข้า 84% ของความจุ


นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ เปิดเผยสถานการณ์น้ำและพื้นที่เสี่ยงสำคัญวันที่ 20 ส.ค.61 ว่า สภาพฝนวันนี้ประเทศไทยยังมีฝนต่อเนื่องและฝนตกหนักบางแห่ง ทำให้ยังต้องเฝ้าระวังปริมาณฝนสะสม โดยเฉพาะ 15 จังหวัด ที่ต้องเฝ้าระวังภาคเหนือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน ตาก ภาคตะวันตก กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ภาคตะวันออก นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี ตราด ภาคใต้ ระนอง พังงา ซึ่งปริมาณฝน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมาก ภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ 74.5 มม. ภาตะวันออก จันทบุรี 101.5 มม. ตราด 67.8 มม. ระยอง 49.2 มม. ภาคกลาง เพชรบูรณ์ 100.5 มม. พิษณุโลก 48 มม. ภาคใต้ พังงา 124.5 มม. กระบี่ 73 มม. สตูล 52.2 มม. นราธิวาส 43.8 มม. ปัตตานี 43.0 มม. ยะลา 35  มม.

สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ  ซึ่งเป็นอ่างฯ ขนาดใหญ่ที่มีระดับเกินเกณฑ์ควบคุม (Upper Rule Curve) และปริมาณน้ำเกินร้อยละ 80 ของความจุ ล่าสุดเพิ่มเขื่อนปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้เขื่อนเฝ้าระวังพิเศษ เพิ่มเป็น 5 แห่ง จากเมื่อวานนี้ 4 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงมีปริมาณน้ำไหลเข้ามากกว่าระบายออกยกเว้นเขื่อนน้ำอูน  1.เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ปริมาณน้ำ 776 ล้าน ลบ.ม. จากเมื่อวาน 771 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 109% น้ำล้นทางระบายน้ำ (Spillway) สูง 1.41 เมตร ปริมาณน้ำไหลเข้า 30.64 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ระบายออก 22.46 ล้าน ลบ.ม. แนวโน้มการระบายน้ำยังคงสูง ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี บริเวณ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ล้นตลิ่ง 11 ซม. และที่ อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ยังต่ำกว่าตลิ่ง 33 ซม. ทำให้พื้นที่ริม 2 ฝั่งลำน้ำในบริเวณ อ.แก่งกระจาน อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด อ.เมือง และ อ.บ้านแหลม ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 


2. เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร ปริมาณน้ำไหลเข้าน้อยกว่าระบายออก ปัจจุบันปริมาณน้ำ 528 ล้าน ลบ.ม. จากเมื่อวาน 530 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 101% ปริมาณน้ำไหลเข้า 3.55 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ปริมาณน้ำระบายออก 5.28 ล้าน ลบ.ม. มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง บริเวณบ้านนาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม บ้านพอกใหญ่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร 3. เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี ปริมาณน้ำ 7,984 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 90% ปริมาณน้ำไหลเข้า 86.84 ล้าน ลบ.ม. ระบายออก 42.10 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งในช่วงวันที่ 23-27 ส.ค. 61 จะปรับการระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 53 ล้าน ลบ.ม.  4. เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ปริมาณน้ำ 194 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 86% ปริมาณน้ำไหลเข้า 7.59 ล้าน ลบ.ม. ระบายออก 6.65 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลผ่านทางระบายน้ำล้นสูง 63 ซม. และ 5. เขื่อนปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปริมาณน้ำ 330 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 84%  ปริมาณน้ำไหลเข้า 22.94 ล้าน ลบ.ม. ระบายออก 10.78 ล้าน ลบ.ม.

ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่/กลางที่มีปริมาณน้ำในอ่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 2 แห่ง คือ 1. เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฏร์ธานี ปริมาณน้ำ 4,903 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 87% ปริมาณน้ำไหลเข้า 36.87 ระบายออก 19.68 ล้าน ลบ.ม. และ 2. อ่างเก็บน้ำคิรีธาร จ.จันทบุรี ปริมาณน้ำ 76 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 100% ปริมาณน้ำที่ระบาย 0.83 ล้าน ลบ.ม.

“จากอิทธิพลของพายุเบบินคาและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ส่งผลให้น้ำไหลเข้าอ่างฯ สะสม 7 วัน ( 12 – 19 ส.ค. 61) มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ ขนาดใหญ่ รวมทั้งประเทศ 2,676 ล้าน ลบ.ม. สูงสุดที่ภาคตะวันตก 1,062 ล้าน ลบ.ม. ภาคเหนือ 627 ล้าน ลบ.ม. ภาคใต้ 549 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 256 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออก 119 ล้าน ลบ.ม. และภาคกลาง 61 ล้าน ลบ.ม. ตามลำดับ ขณะที่อ่างฯ ที่ความจุเกิน 100% แบ่งเป็น ขนาดใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนน้ำอูน เขื่อนแก่งกระจาน ขนาดกลาง 11 แห่ง แบ่งเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 แห่ง และภาคตะวันออก 3 แห่ง  ขณะที่อ่างเฝ้าระวัง (80-100%) ขนาดใหญ่ 5 แห่ง ได้แก่ เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนรัชชประภา เขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนปราณบุรี ขนาดกลาง 62 แห่ง แยกเป็น ภาคเหนือ 5 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 45 แห่ง ภาคตะวันออก 8  แห่ง ภาคกลาง 1 แห่ง และภาคใต้ 3 แห่ง” นายสำเริง กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553