ทปอ.14 ส.ค.-ทปอ.ห่วงการจัดตั้งกระทรวงใหม่ ‘กระทรวงอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม’ ล่าช้า เตรียมเสนอทางออกให้ ศธ.นำร่างพ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องอีก2 ฉบับเสนอเข้า ครม.ภายในเดือนนี้ เพื่อให้การจัดตั้งกระทรวงเป็นไปตามระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนด
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวว่า ขณะนี้การจัดตั้งกระทรวงใหม่ “กระทรวงอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม” มีความคืบหน้าไปมากภายหลังจากที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้นำร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา ที่จัดทำเสร็จตั้งแต่เดือนเม.ย.2561 นำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ซึ่งก็มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวแล้ว ถือเป็นความคืบหน้าในการจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม ที่เริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่ง ทปอ.ยังคงยืนยันในหลักการ ที่ปรากฏในร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา เพื่อประกอบการนำเสนอร่างพระราชบัญญัติการจัดตั้งกระทรวงใหม่
อย่างไรก็ตามกระบวนการจัดตั้งกระทรวงใหม่ต้องประกอบด้วยร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องอีก 2 ฉบับคือร่าง พ.ร.บ.วิจัยและนวัตกรรม และร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ และยังมีความเห็นต่างกันอยู่ จึงมีความเป็นห่วงว่าการจัดตั้งกระทรวงใหม่จะล่าช้าไปจากกรอบระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนด คือในช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดตั้งกระทรวงใหม่ไม่ล่าช้า เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทปอ.จึงมีข้อเสนอแนะไปยังกระทรวงศึกษาฯให้นำร่าง พ.ร.บ.ที่เหลืออีก 2 ฉบับ นำเข้า ครม.ภายในเดือน ส.ค.นี้ก่อน แล้วค่อยนำมาปรับปรุงแก้ไขในบางประเด็นที่ยังเห็นต่างกันอยู่ในภายหลัง’นายสุชัชวีร์ กล่าว
นายสุชัชวีร์ กล่าวด้วยว่า นอกจากการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องให้ทันกรอบระยะเวลาที่กำหนด ยังมีสิ่งที่สำคัญมากขณะนี้คือประเด็นเกี่ยว กับโครงสร้างและกลยุทธ์ของกระทรวงใหม่ ซึ่ง ทปอ.มองว่าควรให้ความ สำคัญกับการวางบทบาท ภาระหน้าที่ ตามโครงสร้างใหม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจน สามารถขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ได้ทันที หลังการควบรวมเกิดขึ้นแล้ว โดยต้องเชื่อมโยงกัน ไม่ซํ้าซ้อน และสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อการพัฒนากำลังคน สร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรม นำไปสู่การใช้งานจริง ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม.-สำนักข่าวไทย