เพชรบุรี 8 ส.ค.- นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำเขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กำชับให้เปิดเผยสถานการณ์น้ำในพื้นที่ให้ประชาชนรับทราบข้อเท็จจริง เพื่อเตรียมรับมือ และไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป ขอความร่วมมือให้นำเสนอสถานการณ์น้ำตามข้อเท็จจริง ยันสถานการณ์ยังไม่รุนแรง
เวลา 09.00 น. ที่เขื่อนเพชร อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ตรวจเยี่ยมติดตามการบริหารจัดการน้ำที่มาจากเขื่อนแก่งกระจานและสถานการณ์น้ำในภาพรวมจังหวัดเพชรบุรี โดยมีนางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ผู้บริหารส่วนราชการ และประชาชนให้การต้อนรับ
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำว่า จากสถานการณ์ฝนตกต่อเนื่องทำให้ยังคงมีปริมาณน้ำหลากไหลลงเขื่อนแก่งกระจาน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลล้นทางระบายน้ำสูง 33 เซนติเมตรลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน จะมีปริมาณน้ำล้นสปิลเวย์ สูงสุดในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ โดยมีความสูงเหนือสปิลเวย์ประมาณ 0.65 ม. มีอัตราการไหล 106 ลบ.ม.ต่อวินาที
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ในส่วนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนเพชร คาดการณ์ว่าจะมีน้ำไหลรวมหน้าเขื่อนเพชรสูงสุดปริมาณ 230 – 250 ลบ.ม. ต่อวินาที จะทำการหน่วงน้ำหน้าเขื่อน พร้อมทั้งระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเพชรในอัตรา 140 – 160 ลบ.ม. ต่อวินาที ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาด โดยไม่มีผลกระทบ และเมื่อไหลผ่านเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี จะทำให้น้ำเอ่อท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่ง และพื้นที่ชุมชน สูงเฉลี่ยประมาณ 30 – 50 เซนติเมตร ระยะเวลาท่วมขังไม่เกิน 10 วัน หากไม่มีปัจจัยอื่น ๆ มาเสริม
นายทองเปลว กล่าวว่า ส่วนการเตรียมการช่วยเหลือและเร่งระบายน้ำในพื้นที่ จะมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดเสี่ยงที่อาจจะมีน้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่และชุมชน จำนวน 31 เครื่อง พร้อมกับติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำในจุดที่มีการระบายน้ำได้ช้า จำนวน 38 เครื่อง และเตรียมพร้อมยานพาหนะและเครื่องจักรกล เช่น รถขุดตัก จำนวน 20 คัน ประจำในพื้นที่เพื่อขุดเปิดทางน้ำ ทั้งนี้ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรง พื้นที่จังหวัดเพชรบุรีที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง พื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณแม่น้ำเพชรบุรีตั้งแต่พื้นที่ท้ายเขื่อนแก่งกระจานจนถึงเขื่อนเพชร
ภายหลังรับฟังการบรรยายสรุป นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายว่า ขอให้ส่วนราชการ หน่วยงานในท้องถิ่นทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงถึงสถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนเพื่อให้มีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ ต้องเตรียมมาตรการให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นแผนการอพยพ และการบริหารจัดการน้ำ และขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้นำเสนอสถานการณ์น้ำตามข้อเท็จจริง อย่านำเสนอข่าวเกินความเป็นจริง เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวล
“รัฐบาลและส่วนราชการมีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ รวมถึงแผนการอพยพประชาชนและสัตว์เลี้ยงออกจากพื้นที่เสี่ยง ในส่วนของรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาในระยะยาว สำหรับโครงการขนาดเล็กขอให้คำนึงถึงประโยชน์และความคุ้มค่า รวมถึงทันต่อการใช้งานเป็นหลัก ในการดำเนินการ อย่าใช้งบประมาณดำเนินการสูงเกินไป แต่เบื้องต้นขอให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอชื่นชมการทำงานในการแก้ไขปัญหาของส่วนราชการทั้งในส่วนท้องถิ่นและส่วนภูมิภาค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และขอให้เปิดเผยสถานการณ์น้ำ รวมถึงสภาวการณ์ และแนวโน้มในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อเท็จจริง จะได้เตรียมพร้อมรับมือ และไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป นอกจากนี้ยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่นลงพื้นที่ดูสถานการณ์จริง ให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที
จากนั้น นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางไปบริเวณสันเขื่อนเพชรเพื่อดูการระบายน้ำ ก่อนเดินทางต่อไปยังประตูระบายน้ำคลองระบายน้ำสาย D9 ตำบลปึกเตียน อำเภอท่ายาง เพื่อตรวจเยี่ยมการขยายคลองชลประทาน.-สำนักข่าวไทย