“สมคิด” นำทัพโรดโชว์จีนหวังดึงลงทุนไทยเพิ่ม

จีน 8 ธ.ค. – รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจนำทัพโรดโชว์จีน 7-12 ธันวาคม ใน 3 หัวเมืองใหญ่ หวังดึงนักลงทุนที่สนใจหลายด้านเข้ามาลงทุนไทยเพิ่ม มั่นใจไทยมาถูกทาง


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ  กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 7-12 ธันวาคมนี้เป็นหัวหน้าคณะนำหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางไปขยายความร่วมมือทางการค้าและการลงทุน  รวมทั้งจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุนและงานสัมมนาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนใน  3 เมืองใหญ่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ เมืองเซินเจิ้น เมืองหางโจว และกรุงปักกิ่ง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ฝ่ายไทยและนายแจ็ค หม่า ประธาน บริษัท อาลีบาบา ได้มีการพบปะหารือที่จะร่วมกันขยายการค้านั้น  โดยช่วงเช้าวันนี้จะมีการหารือความร่วมมือระหว่างฝ่ายไทยและบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป ในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเอสเอ็มอีไทยทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ จนกระทั่งสามารถส่งออกไปแข่งขันในตลาดโลกได้ว่ากรอบความร่วมมือครั้งนี้ทางบริษัท อาลีบาบา พร้อมให้การสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงเอสเอ็มอี ในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ พร้อมทั้งจะให้การสนับสนุนพัฒนาบุคลากรสู่โลกดิจิทัลตามนโยบายประเทศไทย 4.0 และดิจิทัล อีโคโนมี เพื่อสังคม โดยกรอบความร่วมมือมี 4 ด้าน ระยะเวลาการดำเนินการภายในปี 2560


สำหรับกรอบความร่วมมือของทั้ง 2 ฝ่าย ประกอบด้วย 1.การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเอสเอ็มอีและพัฒนา Thailand National e-commerce Platform  แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม 1.กลุ่ม Starter กลุ่มชุมชนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจและไม่เคยทำการค้าแบบดิจิทัล  2.กลุ่ม Basic กลุ่มที่ทำธุรกิจเล็ก ๆ ภายในประเทศ  3.กลุ่ม Ready กลุ่มที่ทำธุรกิจภายในประเทศอย่างเข็มแข็งแล้ว แต่ไม่เคยส่งออก และ 4.กลุ่ม Expert กลุ่มที่มีความพร้อมสำหรับส่งออก ซึ่งจะได้รับการฝึกอบรมพัฒนาต่อยอดอี-คอมเมิร์ซ 30,000 ราย และคาดว่าจะสามารถทำการค้าบนออนไลน์ผ่าน platform ต่าง ๆ ได้ไม่น้อยกว่า 10,000 ราย

2.การพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านดิจิทัล โดยตั้งเป้าจะมีผู้เข้ารับการฝึกอบรมเทคนิคด้านดิจิทัลทั้งหมด 10,000 ราย โดยผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมเป้าหมายจะต้องสามารถสร้าง Digital Profession ที่สามารถเป็น Developer ได้จำนวน 1,000 ราย  สามารถสร้างแอพพลิเคชั่นที่ได้รับการพัฒนาสู่ตลาดจีน  100 แอพพลิเคชั่น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ 100 ราย จะได้รับการฝึกอบรมโดย Thailand Digital Academy ผ่านเทคโนโลยี Big Data และArtificial Intelligence (AI) และสร้าง trainer ที่สามารถช่วย เอสเอ็มอีรายเล็ก ๆ ให้ขายออนไลน์ได้ 2,000 ราย

3.การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ในประเทศไทย โดยภายใน 1 ปี บริษัทอาลีบาบา และบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด จะดำเนินการร่วมกัน โดยจะขยายระบบเตรียมการฝากส่งสินค้าในประเทศผ่าน  Application Prompt Post ให้ใช้งานได้ครอบคลุมทุกจังหวัด โดยจะทำการศึกษาระบบการจัดการคลังสินค้าและการให้บริการ Fulfillment สำหรับธุรกรรมอี-คอมเมิร์ซระหว่างประเทศของกลุ่มธุรกิจในเครืออาลีบาบา เพื่อนำมาปรับใช้กับการวางระบบงานคลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) ของไปรษณีไทยด้วย และ 4.การเชิญชวนบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป มาลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) พร้อมทั้งพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Digital Hub and Digital Data Center) และความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือกับหน่วยงานชั้นนำระดับโลก ตลอดจนผู้นำด้าน E-Commerce Platform ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต


นายสมคิด กล่าวภายหลังลงนามเอ็มโอยูร่วมกับอาลีบาบาว่า ไทยไม่ได้ดึงกลุ่มอาลีบาบามาลงทุน แต่จะสร้างระบบเทคโนโลยีไทยเข้มแข็งและพัฒนาต่อยอด ซึ่งอาลีบาบาจะเป็นหุ้นส่วน พัฒนาสร้าง และพร้อมที่จะลงไปสู่การพัฒนาระดับรากหญ้า เพื่อเป็นผู้ผลิตค้าขายสร้างความมั่นคงไปข้างหน้า และการเชื่อมโยงทางการค้าได้แนะนำอาลีบาบาให้ใช้กรอบภายใต้การค้าอาเซียน โดยอาลีบาบาเป็นบริษัทใหญ่ที่จะเข้ามาช่วยเหลือพัฒนาระบบเทคโนโลยีของไทยหลายด้านได้ดีและประธานแจ็คหม่าก็เป็นบุคคลที่มีความต้องการที่จะช่วยเหลือประเทศที่ต้องการพัฒนาระบบเทคโนโลยีอย่างมาก และหากอาลีบาบาสนใจลงทุนสามารถขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ หรือภายใต้กรอบการค้าต่าง ๆ

ด้านประธานอาลีบาบา กล่าวว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของทั้ง 2 ประเทศที่จะร่วมกันพัฒนาระบบการค้าระหว่างกันผ่านโครงการต่าง ๆ ถือเป็นพันธมิตรที่ดีและเพื่อให้กิจการของทั้ง 2 ฝ่ายเติบโตอย่างมั่นคงและอาลีบาบาก็พร้อมที่จะช่วยเหลือสนับสนุนภาคธุรกิจของไทยให้ไปได้ และไทยเองก็พร้อมที่ให้อาลีบาบาเข้ามาสนับสนุน โดยไทยไม่ได้ขาดเงินในการลงทุน  โดยอาลีบาบามองว่าอนาคตไทยน่าจะเป็นศูนย์เทคโลโนยีด้านต่าง ๆ ได้ ซึ่งอาลีบาบาจะช่วยเหลือและเป็นที่ปรึกษาให้ไทยเต็มที่ แต่การที่ไทยจะก้าวอย่างเข้มแข็งได้ก็ขึ้นอยู่กับภาคเอกชนไทยจะต้องพัฒนาธุรกิจของตนเองด้วย

ทั้งนี้ นอกจากกิจกรรมดังกล่าวแล้ว  ยังกำหนดเข้าร่วมประชุมประจำปีของคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้าการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย – จีน ณ กรุงปักกิ่ง โดยจะใช้โอกาสดังกล่าวเชิญชวนนักธุรกิจจีนให้เข้ามาลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่อีอีซี รวมถึงจะนำคณะบีโอไอหารือผู้ประกอบการรายใหญ่จากประเทศจีนไม่น้อยกว่า 10 บริษัท ที่แสดงความสนใจจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยและเป็นกิจการที่จัดอยู่ในกลุ่มคลัสเตอร์ของอุตสาหกรรมเป้าหมาย  อาทิ กิจการวิจัยทางด้านการแพทย์ กิจการผลิตชิ้นส่วนรถไฟฟ้าและชิ้นส่วนยานยนต์อื่น ๆ กิจการผลิตเครื่องจักรอุปกรณ์อัตโนมัติ โดยผู้ประกอบการที่หารือกับคณะครั้งนี้มีความสนใจจะเข้ามาลงทุนในรูปแบบของความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ รวมถึงสถาบันวิจัยต่าง ๆ ในไทย  โดยเฉพาะกิจการด้านอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ ซึ่งมีแผนจะร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และโรงพยาบาลของไทย รวมถึงมีบางรายสนใจเข้ามาตั้งกิจการสำนักงานใหญ่ข้ามชาติ  เพื่อดูแลธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นกิจการตามเป้าหมายการดึงดูดการลงทุนของรัฐบาลอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]