“สมคิด” นำทัพโรดโชว์จีนหวังดึงลงทุนไทยเพิ่ม

จีน 8 ธ.ค. – รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจนำทัพโรดโชว์จีน 7-12 ธันวาคม ใน 3 หัวเมืองใหญ่ หวังดึงนักลงทุนที่สนใจหลายด้านเข้ามาลงทุนไทยเพิ่ม มั่นใจไทยมาถูกทาง


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ  กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 7-12 ธันวาคมนี้เป็นหัวหน้าคณะนำหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางไปขยายความร่วมมือทางการค้าและการลงทุน  รวมทั้งจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุนและงานสัมมนาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนใน  3 เมืองใหญ่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ เมืองเซินเจิ้น เมืองหางโจว และกรุงปักกิ่ง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ฝ่ายไทยและนายแจ็ค หม่า ประธาน บริษัท อาลีบาบา ได้มีการพบปะหารือที่จะร่วมกันขยายการค้านั้น  โดยช่วงเช้าวันนี้จะมีการหารือความร่วมมือระหว่างฝ่ายไทยและบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป ในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเอสเอ็มอีไทยทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ จนกระทั่งสามารถส่งออกไปแข่งขันในตลาดโลกได้ว่ากรอบความร่วมมือครั้งนี้ทางบริษัท อาลีบาบา พร้อมให้การสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงเอสเอ็มอี ในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ พร้อมทั้งจะให้การสนับสนุนพัฒนาบุคลากรสู่โลกดิจิทัลตามนโยบายประเทศไทย 4.0 และดิจิทัล อีโคโนมี เพื่อสังคม โดยกรอบความร่วมมือมี 4 ด้าน ระยะเวลาการดำเนินการภายในปี 2560


สำหรับกรอบความร่วมมือของทั้ง 2 ฝ่าย ประกอบด้วย 1.การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเอสเอ็มอีและพัฒนา Thailand National e-commerce Platform  แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม 1.กลุ่ม Starter กลุ่มชุมชนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจและไม่เคยทำการค้าแบบดิจิทัล  2.กลุ่ม Basic กลุ่มที่ทำธุรกิจเล็ก ๆ ภายในประเทศ  3.กลุ่ม Ready กลุ่มที่ทำธุรกิจภายในประเทศอย่างเข็มแข็งแล้ว แต่ไม่เคยส่งออก และ 4.กลุ่ม Expert กลุ่มที่มีความพร้อมสำหรับส่งออก ซึ่งจะได้รับการฝึกอบรมพัฒนาต่อยอดอี-คอมเมิร์ซ 30,000 ราย และคาดว่าจะสามารถทำการค้าบนออนไลน์ผ่าน platform ต่าง ๆ ได้ไม่น้อยกว่า 10,000 ราย

2.การพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านดิจิทัล โดยตั้งเป้าจะมีผู้เข้ารับการฝึกอบรมเทคนิคด้านดิจิทัลทั้งหมด 10,000 ราย โดยผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมเป้าหมายจะต้องสามารถสร้าง Digital Profession ที่สามารถเป็น Developer ได้จำนวน 1,000 ราย  สามารถสร้างแอพพลิเคชั่นที่ได้รับการพัฒนาสู่ตลาดจีน  100 แอพพลิเคชั่น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ 100 ราย จะได้รับการฝึกอบรมโดย Thailand Digital Academy ผ่านเทคโนโลยี Big Data และArtificial Intelligence (AI) และสร้าง trainer ที่สามารถช่วย เอสเอ็มอีรายเล็ก ๆ ให้ขายออนไลน์ได้ 2,000 ราย

3.การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ในประเทศไทย โดยภายใน 1 ปี บริษัทอาลีบาบา และบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด จะดำเนินการร่วมกัน โดยจะขยายระบบเตรียมการฝากส่งสินค้าในประเทศผ่าน  Application Prompt Post ให้ใช้งานได้ครอบคลุมทุกจังหวัด โดยจะทำการศึกษาระบบการจัดการคลังสินค้าและการให้บริการ Fulfillment สำหรับธุรกรรมอี-คอมเมิร์ซระหว่างประเทศของกลุ่มธุรกิจในเครืออาลีบาบา เพื่อนำมาปรับใช้กับการวางระบบงานคลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) ของไปรษณีไทยด้วย และ 4.การเชิญชวนบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป มาลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) พร้อมทั้งพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Digital Hub and Digital Data Center) และความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือกับหน่วยงานชั้นนำระดับโลก ตลอดจนผู้นำด้าน E-Commerce Platform ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต


นายสมคิด กล่าวภายหลังลงนามเอ็มโอยูร่วมกับอาลีบาบาว่า ไทยไม่ได้ดึงกลุ่มอาลีบาบามาลงทุน แต่จะสร้างระบบเทคโนโลยีไทยเข้มแข็งและพัฒนาต่อยอด ซึ่งอาลีบาบาจะเป็นหุ้นส่วน พัฒนาสร้าง และพร้อมที่จะลงไปสู่การพัฒนาระดับรากหญ้า เพื่อเป็นผู้ผลิตค้าขายสร้างความมั่นคงไปข้างหน้า และการเชื่อมโยงทางการค้าได้แนะนำอาลีบาบาให้ใช้กรอบภายใต้การค้าอาเซียน โดยอาลีบาบาเป็นบริษัทใหญ่ที่จะเข้ามาช่วยเหลือพัฒนาระบบเทคโนโลยีของไทยหลายด้านได้ดีและประธานแจ็คหม่าก็เป็นบุคคลที่มีความต้องการที่จะช่วยเหลือประเทศที่ต้องการพัฒนาระบบเทคโนโลยีอย่างมาก และหากอาลีบาบาสนใจลงทุนสามารถขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ หรือภายใต้กรอบการค้าต่าง ๆ

ด้านประธานอาลีบาบา กล่าวว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของทั้ง 2 ประเทศที่จะร่วมกันพัฒนาระบบการค้าระหว่างกันผ่านโครงการต่าง ๆ ถือเป็นพันธมิตรที่ดีและเพื่อให้กิจการของทั้ง 2 ฝ่ายเติบโตอย่างมั่นคงและอาลีบาบาก็พร้อมที่จะช่วยเหลือสนับสนุนภาคธุรกิจของไทยให้ไปได้ และไทยเองก็พร้อมที่ให้อาลีบาบาเข้ามาสนับสนุน โดยไทยไม่ได้ขาดเงินในการลงทุน  โดยอาลีบาบามองว่าอนาคตไทยน่าจะเป็นศูนย์เทคโลโนยีด้านต่าง ๆ ได้ ซึ่งอาลีบาบาจะช่วยเหลือและเป็นที่ปรึกษาให้ไทยเต็มที่ แต่การที่ไทยจะก้าวอย่างเข้มแข็งได้ก็ขึ้นอยู่กับภาคเอกชนไทยจะต้องพัฒนาธุรกิจของตนเองด้วย

ทั้งนี้ นอกจากกิจกรรมดังกล่าวแล้ว  ยังกำหนดเข้าร่วมประชุมประจำปีของคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้าการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย – จีน ณ กรุงปักกิ่ง โดยจะใช้โอกาสดังกล่าวเชิญชวนนักธุรกิจจีนให้เข้ามาลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่อีอีซี รวมถึงจะนำคณะบีโอไอหารือผู้ประกอบการรายใหญ่จากประเทศจีนไม่น้อยกว่า 10 บริษัท ที่แสดงความสนใจจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยและเป็นกิจการที่จัดอยู่ในกลุ่มคลัสเตอร์ของอุตสาหกรรมเป้าหมาย  อาทิ กิจการวิจัยทางด้านการแพทย์ กิจการผลิตชิ้นส่วนรถไฟฟ้าและชิ้นส่วนยานยนต์อื่น ๆ กิจการผลิตเครื่องจักรอุปกรณ์อัตโนมัติ โดยผู้ประกอบการที่หารือกับคณะครั้งนี้มีความสนใจจะเข้ามาลงทุนในรูปแบบของความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ รวมถึงสถาบันวิจัยต่าง ๆ ในไทย  โดยเฉพาะกิจการด้านอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ ซึ่งมีแผนจะร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และโรงพยาบาลของไทย รวมถึงมีบางรายสนใจเข้ามาตั้งกิจการสำนักงานใหญ่ข้ามชาติ  เพื่อดูแลธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นกิจการตามเป้าหมายการดึงดูดการลงทุนของรัฐบาลอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา