“รองสมพงษ์”ขอดูคัดสำนวนเก่าคดีชายกระโดดตึกศาลหลังถูกตั้งเป็นหัวหน้าชุดทำงาน

กรุงเทพฯ 25 ก.ค.- รอง ผบช.น.ขอคัดสำนวนการสอบสวนคดีชายกระโดดอากคารศาลอาญา รัชดาตรวจสอบ หลังถูกแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะทำงาน

พลตํารวจตรีสมพงษ์  ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือจัดตั้งเป็นหัวหน้าคณะทำงานอย่างเป็นทางการจากพลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แต่ได้รับมอบหมายมาแล้วในเบื้องต้น  โดยทิศทางการทำงานหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบว่า ที่ผ่านมาการทำสำนวนคดีดังกล่าว มีข้อบกพร่องหรือจุดอ่อนในสำนวนคดีดังกล่าวอย่างไร  โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการขอคัดสำนวนคำพิพากษาจากศาลมาประกอบการพิจารณา ซึ่งถ้าไม่มีพยานหลักฐานใหม่ ก็อาจรื้ิอฟื้นคดีได้ค่อนข้างยาก และคดีนี้เพิ่งผ่านการพิจารณาในศาลชั้นต้น  แต่ยังมีการพิจารณาในชั้นอุทธรณ์และฎีกาอีก 2 ชั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ โดยส่วนตัวขณะนี้ตนเองยังไม่ได้เห็นรายละเอียดต่างๆในสำนวนคดีดังกล่าว เนื่องจากเพิ่งได้รับคำสั่ง แต่ได้ให้ทีมงานตรวจสอบข้อมูลต่างๆแล้ว 

ส่วนกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมว่า ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวอาจได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากรู้จักกับผู้มีอิทธิพลนั้น  ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบในรายละเอียดว่า มีกลุ่มบุคคลหรือผู้มีอิทธิพลเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องตามที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมหรือไม่ 

ส่วนประเด็นที่ญาติของนายศุภชัย  ทัฬหสุนทร  ผู้เสียชีวิตจากการกระโดดตึกศาลอาญา ออกมาระบุว่า ชุดพนักงานสอบสวนใช้ให้ญาติของผู้เสียชีวิตไปหาข้อมูลภาพวงจรปิดต่างๆโดยไม่ออกไปสืบสวนหาพยานหลักฐานเอง จนทำให้นายศุภชัยต้องลาออกจากงานและเกิดความเครียดนั้น  เรื่องดังกล่าวยังไม่ทราบรายละเอียดต้องรอการสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าวก่อนว่ามีพฤติการณ์ตามที่ญาติของผู้เสียชีวิตระบุก่อนหน้านี้หรือไม่ 

ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงแรงกดดันในการรื้อฟื้นคดี จะมีการทำสำนวนคดีอ่อน ค้าสำนวน หรือมีการเอื้อประโยชน์กันหรือไม่ พลตํารวจตรีสมพงษ์ระบุว่า  ไม่ได้รู้สึกกดดันกับการรื้อฟื้นคดีดังกล่าวเพราะการทำคดีความยากง่ายอยู่ที่การหาพยานหลักฐาน หากพยานหลักฐานไม่ถึง หรือไม่มี ก็็ไม่สามารถปั้นได้ จึงต้องทำงานแบบมืออาชีพตรงไปตรงมาตามอำนาจที่กฎหมายมอบให้เต็มที่ แต่หากมีพยานหลักฐานแล้วไม่ทำ ตำรวจชุดดังกล่าวอาจโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ในคดีนี้ยังไม่ทราบในรายละเอียด   

ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่า คดีดังกล่าวผ่านมาหลายปีแล้ว  จะสามารถหาพยานหลักฐานใหม่ๆมาใช้ประกอบสำนวนคดีได้หรือไม่ ตนยังไม่สามารถระบุได้ เพราะยังไม่ทราบว่าการดำเนินการในคดีดังกล่าวมีจุดบกพร่องหรือเป็นจุดหละหลวมหรือไม่ ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมกับชุดพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวด้วย  โดยผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเตรียมเรียกประชุมพนักงานสอบสวนชุดเดิมมาประชุมสอบถาม แต่ยังไม่สามารถระบุเวลาที่แน่นอนได้.-สำนักข่าวไทย