ศาลฎีกา 25 ก.ค.- ศาลฎีกาฯ ออกหมายจับ “ทักษิณ” ใบที่ 5 เบี้ยวนัดคดีหวยบนดิน ไม่แจ้งเหตุ จำเลยไม่มาศาลถือปฏิเสธ นัดตรวจหลักฐาน 14 พ.ย.นี้
วันนี้ (25 ก.ค.) ที่ ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง องค์คณะผู้พิพากษา 9 คน ออกนั่งบัลลังก์นัดพิจารณาคดี นัดแรก ในคดีหมายเลขคดีคดีดําที่ อม.1/2551 ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าเป็นคู่ความแทน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร กับพวก รวม 47 คน เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และความผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 84, 86, 90, 91, 147, 152, 153, 154 และ 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 3, 4, 8, 9, 10 และ 11 กรณีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ หวยบนดิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ป.ป.ช. ในฐานะโจทก์ เดินทางมาศาล ส่วนฝ่ายจำเลยไม่มีผู้ใดมาศาล องค์คณะผู้พิพากษาพิจารณาแล้วเห็นว่า นายทักษิณ จำเลยที่ 1 ทราบนัดโดยชอบแล้ว แต่ไม่เดินทางมาศาล โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง พฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า จำเลยหลบหนี จึงให้ออกหมายจับ กรณีหากไม่สามารถจับกุมได้ ภายใน 3 เดือน ศาลมีอำนาจดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีโดยไม่ต้องทำต่อหน้าจำเลยได้ แต่ไม่ตัดสิทธิจำเลยในการต่อสู้คดี ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28 วรรคสอง ให้โจทก์ติดตามผลการจับกุมพร้อมรายงานให้ศาลรับทราบ
ส่วนที่จำเลยไม่มาศาล ในการพิจารณา ครั้งแรก ให้ถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 33 วรรคสาม จึงให้นัดตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 เวลา 14.00 น. โดยให้โจทก์ยื่นบัญชีพยานหลักฐานก่อนวันนัดไต่สวน ไม่น้อยกว่า 14 วัน และให้ส่งหมายแจ้งให้จำเลยทราบ หากไม่มีผู้รับให้ปิดหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหมายจับให้มาฟังพิจารณาคดีที่ศาลออกให้วันนี้ ถือเป็นหมายจับใหม่ใบที่ 5 เนื่องจากเป็นการเริ่มเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีตามกฎหมายใหม่ โดยที่หมายจับใบเดิมในคดีนี้ ศาลยังไม่ได้มีคำสั่งยกเลิก และยังไม่ถือว่าหมดอายุความ ในคดีที่อัยการสูงสุดและ ป.ป.ช. ในฐานะโจทก์ยื่นฟ้องคดี และยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีลับหลังจำเลย ตาม วิ.อม.ใหม่ ประกอบด้วย คดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย, คดีทุจริตการปล่อยกู้เอ็กซิมแบงค์, คดีออกกฎหมายแปลงค่าสัมปทานโทรคมนาคมและมือถือเป็นภาษีสรรสามิต และคดีฟื้นฟูกิจการทีพีไอ .- สำนักข่าวไทย