สำนัก ปภ. 21ก.ค.- ปภ.รายงานสถานการณ์น้ำท่วมจากอิทธิพลพายุโซนร้อน เซินติญ คลี่คลายแล้ว 8 จังหวัด ขณะที่ กาญจนบุรี-พิจิตร-นครสวรรค์ มีน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรลุ่มต่ำ เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือผู้ประสบภัย จัดทำบัญชีความเสียหายตามระเบียบกระทรวงการคลัง
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลของพายุโซนร้อน เซินติญ ตั้งแต่วันที่ 17 – 21 กรกฎาคม 2561 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มใน 11 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร นครสวรรค์ ตราด แพร่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ประจวบคีรีขันธ์ ตาก ระนอง กาญจนบุรี และเพชรบุรี รวม 17 อำเภอ 23 ตำบล 67 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,909 ครัวเรือน 5,774 คน ล่าสุดสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 8 จังหวัด ได้แก่ ตราด แพร่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ประจวบคีรีขันธ์ ตาก ระนอง และเพชรบุรี ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 3 จังหวัด รวม 3 อำเภอ 4 ตำบล 15 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 161 ครัวเรือน 599 คน โดยจังหวัดกาญจนบุรี มีน้ำไหลหลากเข้าท่วมในอำเภอสังขละบุรี รวม 2 ตำบล 10 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลหนองลู และตำบลไล่โว่ประชาชนได้รับผลกระทบ 100 ครัวเรือน 400 คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 300 ไร่
ส่วนจังหวัดพิจิตร ระดับน้ำทรงตัวมีน้ำไหลหลากเข้าท่วมอำเภอทับคล้อ ประชาชนได้รับผลกระทบ 61 ครัวเรือน 199 คน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง และระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่จังหวัดนครสวรรค์ น้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ ตำบลตะคร้อ ล้นสปิลเวย์เข้าท่วมในพื้นที่อำเภอไพศาลี พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 80 ไร่ และระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรในที่ลุ่มต่ำ
ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ อีกทั้งเร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
อธิบดี ปภ. กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศลาวตอนบน ส่งผลให้ภาคเหนือของประเทศไทยยังมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขณะที่ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคุลมภาคใต้ ทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางพื้นที่ รวมถึงทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นลมแรง ปภ.จึงได้ประสานจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยจากภาวะฝนตกหนัก ปริมาณฝนสะสม และคลื่นลมแรง โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด อีกทั้งจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด สำหรับทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน คลื่นลมมีกำลังแรง คลื่นสูง 2 – 3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระมัดระวังอันตรายจากคลื่นซัดฝั่ง รวมถึงชาวประมงให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือเป็นพิเศษ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง อีกทั้งนักท่องเที่ยวควรงดประกอบกิจกรรมทางทะเลทุกประเภท.-สำนักข่าวไทย