กรุงเทพฯ 22 ก.ย.- อธิบดีกรมอนามัย ชี้ปัญหาฟันผุทำเด็กไทยแคระแกร็นพัฒนาการล่าช้า ส่งผลไอคิวต่ำแนะพ่อแม่ดูแลให้ลูกแปรงฟันเริ่มตั้งแต่ซี่แรก ด้วยแปรงสีฟันมาตรฐานกรมอนามัย
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า โรคและความผิดปกติในช่องปากเด็กเล็กที่เด่นชัดที่สุด คือโรคฟันผุซึ่งพบได้ตั้งแต่อายุ 9 เดือนและเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 1-3 ขวบ การสำรวจล่าสุดพบเด็ก 3 ขวบ มีปัญหาฟันผุร้อยละ 51.7 เฉลี่ย 2.7ซี่ต่อคน ส่วนเด็ก 5 ปีซึ่งอยู่ในช่วง อนุบาลมีปัญหาฟันผุร้อยละ 78.5 ฟันผุเฉลี่ย 4.4 ซี่ต่อคน ปัญหานี้ทำให้เด็กเจ็บปวดทรมานส่งผลกระทบต่อการเคี้ยวอาหารไม่สะดวกทำให้ไม่ได้รับอาหารที่ดี กระทบต่อการเจริญเติบโตพัฒนาการล่าช้า ยิ่งหากเด็กมีฟันผุหลายซี่ในปากมีความสัมพันธ์กับภาวะแคระแกร็นของเด็กๆจะสูญเสียฟันน้ำนมไปก่อนกำหนดเมื่อรักษาได้ไม่ทันท่วงทีก็จะทำให้ลุกลามและสูญเสียฟันแพ้ในที่สุด
นพ.วชิระ กล่าวต่อไปว่าเมื่อร่างกายไม่แข็งแรงจะส่งผลให้ระดับสติปัญญาหรือไอคิวต่ำตามไปด้วย ผู้ปกครองจึงต้องใส่ใจดูแลไม่ละเลยทำความสะอาดช่องปากตั้งแต่เด็กทำเองไม่ได้ สอนเด็กให้เรียนรู้เรื่องการแปรงฟันขณะที่แปรงสีฟันเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดช่องปากที่สำคัญที่สุดพ่อแม่ต้องใส่ใจเลือกแปรงสีฟันให้เหมาะตามช่วงอายุเด็กและขนาดของปากที่แบ่งได้เป็น 3 แบบคือเด็กต่ำกว่า 3 ปี(Baby)เด็ก 3-6ปี(Child)และเด็ก 6 ถึง 12 ปี(Junior) และที่สำคัญควรเป็นแปรงที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานกรมอนามัยมีลักษณะสำคัญคือขนาดหัวแปรงสีฟันไม่ใหญ่เกินไป ด้ามแปรงแข็งแรง ขนาดพอเหมาะจับถนัดมือ ขนแปรงนุ่มถึงปานกลาง ปลายขนนกลมมน ผิวเรียบไม่ขรุขระ
ทั้งนี้ จากการสำรวจของกรมอนามัย พบ ปี 2559 แปรงสีฟันเด็กทั้งสิ้น 3 3 ยี่ห้อ 81 รุ่นมีคุณภาพผ่านมาตรฐานร้อยละ 71.6 และไม่ผ่านมาตรฐานถึงร้อยละ 28.4.-สำนักข่าวไทย