กรุงเทพฯ 5 ก.ค. – ก.ล.ต.ให้คณะกรรมการ GGC เร่งดำเนินการและเปิดเผยผลการตรวจสอบกรณีวัตถุดิบคงคลังสูญหาย
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้คณะกรรมการบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ชี้แจงกรณีข้อมูลวัตถุดิบคงคลังในระบบแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญกับปริมาณวัตถุดิบคงคลังที่มีอยู่จริง และประเมินความเพียงพอของระบบควบคุมภายใน พร้อมทั้งเปิดเผยผลการตรวจสอบให้สาธารณชนทราบเป็นการทั่วไปผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561
สืบเนื่องจากกรณีที่ GGC เปิดเผยข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ เกี่ยวกับปัญหาเรื่องข้อมูลวัตถุดิบคงคลังในระบบของบริษัทมีจำนวนที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญกับปริมาณวัตถุดิบคงคลังที่มีอยู่จริง ณ สถานที่เก็บรักษาวัตถุดิบที่ฝากไว้กับคู่ค้า และยังพบการดำเนินงานของพนักงานจำนวนหนึ่งในหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดซื้อและรับวัตถุดิบไม่เป็นไปตามขั้นตอนปฏิบัติงานหรือกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และอาจมีความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัท ซึ่งวัตถุดิบคงคลังส่วนที่ขาดหายไปจะต้องทวงถามหรือติดตามคืนคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2,100 ล้านบาท โดยคณะกรรมการ GGC ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวแล้ว
จากกรณีที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นของบริษัทและผู้ลงทุนทั่วไป ก.ล.ต.จึงติดตามกรณีข้างต้นอย่างใกล้ชิดและมีหนังสือให้คณะกรรมการ GGC ชี้แจงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการจัดการเกี่ยวกับวัตถุดิบคงคลังของ GGC การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ GGC และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อกรณีดังกล่าว ตลอดจนการประเมินความเพียงพอของระบบควบคุมภายในของบริษัทเพื่อป้องกันมิให้เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีก พร้อมทั้งให้เปิดเผยผลการตรวจสอบให้สาธารณชนทราบผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า กรณีที่พบการทุจริตภายในบริษัทเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการและผู้บริหารที่ต้องรับผิดชอบดูแลให้บริษัทดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลที่กระทำความผิดโดยไม่ชักช้า ตลอดจนดำเนินการให้มีระบบควบคุมภายในที่รัดกุมมากเพียงพอที่จะสามารถป้องกันและตรวจพบการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งการที่คณะกรรมการของ GGC จัดให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดี ดังนั้น ก.ล.ต.จึงให้คณะกรรมการ GGC เร่งรัดตรวจสอบเรื่องนี้และเปิดเผยผลการตรวจสอบให้สาธารณชนทั่วไปทราบโดยเร็ว และหากพบว่ามีบุคคลใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ก.ล.ต. จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย