กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – รมว.เกษตรฯ กำชับผู้ตรวจราชการกำกับดูแลโครงการไทยนิยมยั่งยืนใกล้ชิด เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลยกระดับรายได้เกษตรกรตามนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งไม่ให้มีข้อบกพร่องหรือทุจริต
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เชิญปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการกระทรวง และผู้ตรวจราชการกรม รวมทั้งผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุม เพื่อกำชับให้กำกับดูแลโครงการไทยนิยมยั่งยืนดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผลในกรอบเวลาที่โครงการจะสิ้นสุดเดือนกันยายน หรือ 3 เดือนข้างหน้า
นายกฤษฎา มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการทุกคนออกไปตรวจเยี่ยมให้ข้อแนะนำเจ้าหน้าที่ให้บูรณาการทำงาน เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ ตรวจเยี่ยมเกษตรกรเพื่อติดตามผลสำเร็จ หากมีปัญหาหรืออุปสรรคใด ๆ ให้รายงานปลัดกระทรวงและอธิบดีต้นสังกัดที่รับผิดชอบโครงการนั้น เพื่อแก้ไข และหากตรวจพบความผิดปกติหรือแนวโน้มจะมีการทุจริตให้รีบรายงานตามลำดับการบังคับบัญชา โดยย้ำว่าหากพบความผิดพลาดจากการทุจริตให้มีคำสั่งย้ายผู้เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่แล้วตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและเอาผิดทางอาญา
ผู้ตรวจราชการได้รายงานผลการติดตามการดำเนินโครงการพบปัญหาต่าง ๆ เช่น โครงการเพิ่มทักษะอาชีพเกษตรกรในการคัดเลือกเกษตรกรเข้ารับการอบรมนั้น เกษตรกรเป็นผู้สูงอายุหรือเกษตรกรกลุ่มเดิม ที่ได้รับการฝึกอบรมจากโครงการอื่นมาแล้ว ซึ่งแนวทางแก้ไข คือ ควรพิจารณาคัดเลือกเกษตรกรเข้าร่วมโครงการให้กระจายและทั่วถึง เพื่อให้ได้รับความรู้และนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ส่วนบางพื้นที่ล่าช้ากว่าแผนเนื่องจากเป็นฤดูฝน อีกทั้งหาแรงงานยาก เพราะอยู่ในช่วงฤดูการผลิต บางโครงการเกษตรกรให้ความสนใจน้อย เพราะอบรมหลายวันหรือต้องเดินทางไปต่างจังหวัด รวมทั้งเจ้าหน้าที่บางส่วนไม่ทราบเมนูอาชีพของหน่วยงานอื่น จึงเป็นข้อจำกัดในการแนะนำการฝึกทักษะอาชีพเกษตรกร ซึ่งควรแก้ไขโดยเร่งให้ความรู้ด้านเมนูอาชีพแก่เจ้าหน้าที่ เพื่อจะได้แนะนำเกษตรกรได้สอดคล้องกับความต้องการ
ส่วนโครงการที่รับผิดชอบโดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รับข้อร้องเรียนโครงการพัฒนาสถาบันเกษตรกรจัดเก็บพืชผลทางการกษตรกรที่สหกรณ์การเกษตรโนนสังข์ จังหวัดหนองบัวลำภูมีการร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในการหาผู้รับจ้างก่อสร้างโกดังเก็บข้าวเปลือก 2,000 ตัน งบประมาณ 7,083,000 บาท ได้สั่งการให้สหกรณ์จังหวัดแจ้งสหกรณ์การเกษตรโนนสังข์ให้ชะลอการทำสัญญาและตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนอีก 2 โครงการ คือ โครงการสนับสนุนอุปกรณ์แปรรูปผลผลิตทางการเกษตรและโครงการเพิ่มศักยภาพการรวบรวมและการแปรรูปยางพาราในสถาบันเกษตรกร ได้กำชับให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องจักรกลเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบราคากลางเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความแตกต่างของราคาหรือราคาสูงเกินจริง อีกทั้งให้ใช้รูปแบบการดำเนินการของสหกรณ์มโนรมย์ จังหวัดชัยนาทเป็นต้นแบบในการพัฒนาสหกรณ์อื่น ๆ ในด้านการจัดทำแผนการใช้เครื่องจักรกลอย่างคุ้มค่า การจัดทำแผนการผลิตเพื่อให้สินค้ามีคุณภาพและความต้องการของตลาด
สำหรับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับงบประมาณกลางปี (เพิ่มเติม) พ.ศ.2561 จำนวน 24,993 ล้านบาท เพื่อดำเนินการโครงการไทยนิยมยั่งยืนมีเป้าหมายเพิ่มรายได้เกษตรกรขึ้นทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ จะดำเนินงาน 2 แผนงาน คือ แผนงานที่ 1 ยุทธศาสตร์ปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร จำนวน 20 โครงการ งบประมาณ 24,300 ล้านบาท เกษตรกรได้รับประโยชน์ 4,100,477 ราย และแผนงาน 2 ยุทธศาสตร์เสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิต 2 โครงการ งบประมาณ 693 ล้านบาท เกษตรกรได้รับประโยชน์ 216,325 ราย.-สำนักข่าวไทย