fbpx

รพ.เชียงรายฯ พร้อมรองรับ หลัง 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวง

รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ 3 ก.ค.-  รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์เตรียมพร้อม ทั้งสถานที่ บุคลากร และแผนการดูแล หลัง 13 ชีวิตได้รับการช่วยเหลือออกจากถ้ำหลวง  24 ชั่วโมงแรกจัดพยาบาลประกบแบบตัวต่อตัว


นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1  แถลงความพร้อมในการเตรียมการรับนักฟุตบอล และผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลหมูป่า อะคาเดมี มารักษาพยาบาล หลังได้รับการช่วยเหลือให้ออกจากถ้ำหลวง  ว่า โรงพยาบาลมีความพร้อมในทุกด้านอย่างเต็มที่ ทั้งบุคลากรและสถานพยาบาล สิ่งที่เตรียมไว้ คือ จะใช้หนึ่งชั้นของอาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน 14 ชั้น เป็นที่ให้การรักษา โดยจะมีการเฝ้าระวัง คัดแยกโรคของทั้ง 13 คน มีการตรวจเลือดและไวรัสต่างๆ  ซึ่งจะทราบผลภายใน 24 ชั่วโมง เนื่องจากภายในถ้ำมีเชื้อโรคปะปนอยู่เป็นจำนวนมาก 

“ใน 24 ชั่วโมงแรกของการเข้ารับการรักษา โรงพยาบาลจะใช้พยาบาลประกบทั้ง 13 คน แบบตัวต่อตัว หากผู้ป่วยคนใดมีอาการเป็นโรคหืดหอบ ก็ได้เตรียมอุปกรณ์ไว้ช่วยเหลือแล้ว” นพ.ธงชัย กล่าว


นพ.ธงชัย กล่าวว่า สำหรับการให้อาหาร  เมื่อทั้ง 13 คนมาถึงโรงพยาบาล จะมีการประเมินทดสอบ โดยอาจจะให้เป็นอาหารทางการแพทย์ ที่มีสารอาหารครบ หรือ น้ำเกลือและวิตามิน  ช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง ขณะที่การดูแลระบบเกี่ยวกับสายตา ซึ่งอยู่ในที่มืดเป็นเวลานาน ทางการแพทย์ รูม่านตาของคน มีการปรับขยายตลอด เพราะในถ้ำมีแสงสว่างอยู่บ้าง แต่ได้เตรียมแว่นตาดำไว้แล้ว เพื่อไม่ให้สายตาของทั้ง 13 คน จะต้องปะทะกับแสงแดดโดยตรง

นพ.ธงชัย กล่าวว่า ส่วนการดูแลญาติผู้ป่วย ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกับญาติทั้ง 52 คน ว่า สามารถเข้าเยี่ยมได้ตลอดเวลา เพียงแต่ในขั้นต้น ขอประเมินอาการของทั้ง 13 คนก่อน ว่าจะให้เยี่ยมได้ในช่วงเวลาใดบ้าง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าว นพ.ธงชัย ได้ตรวจความพร้อมของสถานที่ ร่วมกับ นพ.ไชยเวช  ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์  และผู้เกี่ยวข้อง       .- สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553