ขนส่งเดินหน้าเปลี่ยนรถตู้เป็นรถโดยสารขนาดเล็ก

กรุงเทพฯ 28 มิ.ย. – กรมการขนส่งทางบกจับมือพันธมิตร  ยกระดับมาตรฐานรถโดยสารสาธารณะ ปรับเปลี่ยนรถตู้เป็นรถโดยสารขนาดเล็ก   


กรมการขนส่งทางบกร่วมกับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาระบบการขนส่งด้วยรถโดยสารสาธารณะ สนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารเปลี่ยนเป็นรถโดยสารประจำทางขนาดเล็กที่ได้มาตรฐานตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด เพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพความปลอดภัยและการให้บริการด้วยรถโดยสารสาธารณะแก่ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยในการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะของประชาชน กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้ผู้ประกอบการขนส่งนำรถโดยสารขนาดเล็กที่ได้มาตรฐานมาให้บริการประชาชน ทดแทนรถตู้โดยสาร กำหนดระยะเวลาดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน โดยให้ผู้ประกอบการเริ่มทยอยเปลี่ยนรถโดยสารขนาดเล็กทดแทนเฉพาะรถตู้โดยสารที่มีอายุการใช้งานครบ 10 ปี  ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเริ่มนำรถโดยสารขนาดเล็กมาให้บริการทดแทนรถตู้โดยสารหมวด 2 และหมวด 3 ที่ครบอายุการใช้งานแล้ว 70 คัน  


 ด้านนายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวว่า ตามนโยบายของกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม กำหนดให้เปลี่ยนรถตู้โดยสารที่มีอายุการใช้งานครบ 10 ปี เป็นรถโดยสารขนาดเล็กที่มีมาตรฐานความปลอดภัยตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด โดย บขส.ขานรับนโยบายดังกล่าวทันที และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้รถโดยสารขนาดเล็กทดแทนรถตู้โดยสารที่มีอายุใช้งานเกิน 10 ปีแล้วหลายเส้นทาง เช่น เส้นทางกรุงเทพ-กำแพงเพชร, กรุงเทพ-ตราด, กรุงเทพ-พัทยา, จันทบุรี-ระยอง, นครศรีธรรมราช-หาดใหญ่, ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-เกาะช้าง รวมถึงเส้นทางจากท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา 3 เส้นทาง ไปยังตราด, ระยอง, ชลบุรี ที่เปิดให้บริการตามนโยบายรถโดยสารเชื่อมสนามบินสู่ชุมชนของกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก ทั้งนี้ บขส.จะทยอยเปลี่ยนรถตู้โดยสารให้ครบถ้วนทุกเส้นทาง เพื่อเป้าหมายความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน

ส่วนมาตรการสนับสนุนเพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนนั้น นางอรนุช ศิรประภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์รายย่อย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทยได้ออกสินเชื่อ Krungthai Mini Bus สนับสนุนเงินทุนให้กับผู้ประกอบการรถตู้โดยสาร เพื่อเปลี่ยนเป็นรถโดยสารขนาดเล็กที่ได้มาตรฐาน โดยมีวงเงินกู้สูงสุดต่อราย 20 ล้านบาท ผ่อนชำระนานสูงสุด 7 ปี อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด MRR-1.5% ต่อปี สามารถใช้ บสย.ค้ำประกันเต็มวงเงินแทนการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน รวมทั้งยังให้สินเชื่อเพื่อชำระค่าเบี้ยประกันภัยรถโดยสาร และประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินกู้ วงเงินโครงการรวม 2,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง