ดัชนีเจ้าสัวไทย-จีน มองเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ดีขึ้น

กรุงเทพ ฯ 27 มิ.ย. –
เปิดดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย-จีน ครั้งแรกในรอบ 108 ปี อยู่ที่ 66.3
พบเจ้าสัวมั่นใจเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปี 2561 ปรับดีขึ้น
แรงส่งจากส่งออกและการลงทุนในประเทศ ยกเว้นกลุ่มค้าส่ง
ค้าปลีกกังวลกำลังซื้อยังไม่ฟื้นเต็มที่


นายชโยดม สรรพศรี อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์
จุฬาลงกรุงเทพ และผู้อำนวยการโครงการ เปิดเผยว่า
ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย-จีน จัดทำเป็นครั้งแรกในรอบ 108 ปี
จากการรวบรวมความเห็นข้อมูลด้านเศรษฐกิจจากสมาชิก 500 ราย และสมาพันธ์หอการค้าไทย
-จีน จำนวน 8,000 ราย ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการที่ลงทุนในไทย และใช้เวลาสำรวจประมาณ 1
ปี พบว่า ดัชนีภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ปรับดีขึ้น ดัชนีอยู่ที่
66.3 จากไตรมาสแรกดัชนีอยู่ที่ 64
โดยจากผลการสำรวจครั้งนี้ไม่มีผู้ประกอบการจากภาคการผลิตใดเลยที่คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยจะลดลง

ปัจจัยที่สนับสนุนการเร่งขยายตัวของเศรษฐกิจ
คือการส่งออกที่ยังเติบโตต่อเนื่อง มีค่าดัชนีที่ 59.7  แม้จะลดลงจากไตรมาสแรกเล็กน้อยที่มีค่าดัชนีที่
62.1 โดยเชื่อว่าการส่งออกยังเป็นแรงส่งออกที่สำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้น ค่าดัชนีอยู่ที่ 56.8 เพิ่มขึ้นจาก 55
การลงทุนภาคเอกชน ค่าดัชนีอยู่ที่ 53.8 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกที่ 52.9


อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการจากภาคขายส่ง ขายปลีก
โรงแรม และอาหารที่มองว่าเศรษฐกิจบางส่วนอาจจะไม่ดีมากเท่าที่ควร
เพราะยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศยังปรับตัวลดลง แม้จำนวนลูกค้าและการจ้างงานจะไม่เปลี่ยนแปลงก็ตาม
แต่ต้นทุนการบริการกลับปรับสูงขึ้น
รวมถึงการแข่งขันสินค้าไทยกับคู่แข่งเพิ่มสูงขึ้น
แต่ผู้ประกอบการยังเชื่อว่ากำลังซื้อในประเทศที่กำลังจะฟื้นตัวจะช่วยบรรเทาความกังวลของผู้ประกอบการได้
 นอกจากนี้ผลสำรวจผู้ประกอบการในภาคการผลิตยังมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
โดยส่วนใหญ่คาดว่าดอกเบี้ยจะปรับสูงขึ้น และ
คาดการณ์ว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี
ประธานหอการค้าไทย-จีน  กล่าวว่า ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนยังเป็นปัจจัยกดดันการค้าโลก
และ เศรษฐกิจไทย ซึ่งยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เนื่องจากมาตรการกีดกันทางการค้าจะกระทบไม่ใช่เฉพาะสหรัฐ
และจีนเท่านั้นแต่จะส่งผลทางอ้อมต่อไทย เอเชีย และยุโรป
เนื่องจากสินค้าที่ได้รับผลกระทบเช่น ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์และเทคโนโลยี มีซัพพลายเชน
ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมทั่วโลก อย่างไรก็ตามยังมั่นใจว่าทั้งสหรัฐ และ จีน
จะมีทางออกของปัญหาร่วมกันในทางที่ดี
เพราะมาตรการกีดกันทางการค้าไม่เป็นผลดีกับประเทศใด
และยังส่งผลกระทบระยะสั้นให้เกิดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงค่อนข้างเร็ว จากระดับ 32 บาท มาอยู่ที่ 33
บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลดีต่อการส่งออกสินค้าของไทยให้ขยายตัวขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน

เติมน้ำมันไม่จ่าย

แท็กซี่เติมน้ำมันไม่จ่าย ซิ่งหนีพุ่งชนรถ 5 คันรวด

ตำรวจชัยภูมิ ไล่ล่าแท็กซี่เติมน้ำมัน แล้วซิ่งหนี ไม่จ่ายเงิน แถมยังขับพุ่งชนรถตำรวจ รถเก๋งและรถ 6 ล้อ รวม 5 คันรวด