เชียงราย 26 มิ.ย. – ผ่านไปเกือบ 80 ชั่วโมงแล้ว ที่โค้ชและเด็กนักฟุตบอล 13 คนหายไปในถ้ำหลวง ที่เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาแข่งกับเวลา ท่ามกลางอุปสรรคและยากลำบากมากมาย แต่ยังคงมีความหวังที่จะพบทั้ง 13 ชีวิต
ยิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่ต้องยิ่งเร่งค้นหาแข่งกับเวลาและน้ำในถ้ำหลวงที่ยังเพิ่มปริมาณขึ้น จนบีบพื้นที่การทำงานค้นหาให้เล็กลงเรื่อยๆ และยากลำบากมากขึ้น ทำให้วันนี้เจ้าหน้าที่ระดมกำลังหลายพันนายเร่งค้นหาทั้ง 13 คน
นี่เป็นสภาพภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยถ่ายภาพความยากลำบากของเส้นทางภายในถ้ำระหว่างเข้าไปสนับสนุนหน่วยซีลในการค้นหาทั้ง 13 ชีวิต ซึ่งจำเป็นต้องเดินเรียงหนึ่งลัดเลาะไปตามซอกหิน เพราะเส้นทางคับแคบมาก ท่ามกลางความมืด ต้องใช้ไฟฉายส่องทางตลอดเวลา พื้นถ้ำบางช่วงจะเป็นทรายและโคลน บางจุดต้องปีนป่ายและมุดลอดซอกหินไปทีละคน ทำให้เห็นถึงความยากลำบากของปฏิบัติการค้นหา
เจ้าหน้าที่กู้ภัยบอกว่า ภารกิจอีกอย่างของชุดคือ การสำรวจพื้นที่เตรียมสูบน้ำในถ้ำ แต่ยังไม่สามารถสูบน้ำได้ เพราะยังต้องรอสายไฟฟ้าที่จะลากเข้ามา และภายในถ้ำยังมีน้ำไหลมาเพิ่มขึ้น ทำให้บีบพื้นที่การทำงานให้เหลือน้อยลง
น้ำที่ไหลในถ้ำที่เพิ่มขึ้น บางช่วงระดับน้ำเกือบถึงเพดานถ้ำ เป็นอุปสรรคอย่างมากสำหรับปฏิบัติการของหน่วยซีลที่เข้าไปในถ้ำตั้งแต่เช้า รวมเวลานานกว่า 10 ชั่วโมงแล้ว เพื่อพยายามเข้าไปในถ้ำที่ลึกกว่าเมื่อวานนี้ โดยดำน้ำมุดเข้าไปในซอกหินถึงโถงกลาง และเข้าไปได้อีกราว 500 เมตร น่าจะถึงจุดที่เป็นเนินสูง ซึ่งคาดว่าทั้ง 13 คนน่าจะใช้เป็นที่หลบหนีน้ำ แต่ระยะทางเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
มีรายงานว่า ล่าสุดน้ำในถ้ำหลวงเพิ่มปริมาณและขยายวงกว้างมากขึ้น ทำให้การทำงานยากลำบากมากขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่วันนี้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายและกู้ภัยที่มาจากประเทศรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 คน เพื่อเข้าไปช่วยเหลือสนับสนุนการค้นหา อย่างทหารหลายร้อยนายที่จะทำหน้าที่ลากสายไฟเข้าไปในถ้ำขยายเขตการใช้ไฟจากที่ลากเข้าไปแล้ว 1 กิโลเมตร จะเพิ่มเป็น 3 กิโลเมตร เพื่อใช้ไฟส่องสว่างและติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า สูบน้ำในถ้ำให้ลดลงให้มากที่สุด หรือทีมกู้ภัยที่แบกถังออกซิเจนเข้าไปให้นักประดาน้ำ
ขณะที่กำลังอีกส่วนหนึ่งลาดตระเวนสำรวจเทือกเขานางนอนเหนือถ้ำ เพื่อหาโพรงที่เป็นช่องทางในการเข้าไปในถ้ำ เจ้าหน้าที่พบโพรงด้านบนถ้ำ ด้านบ้านผาหมี ซึ่งใช้เชือกความยาว 100 เมตร หย่อนลงไปในถ้ำ แต่ยังไม่ถึงพื้น จึงหย่อนอาหารและน้ำลงไปไว้ เผื่อไว้สำหรับหาก 13 คนอยู่บริเวณนั้นสามารถกินได้
ตลอดทั้งวันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มาให้กำลังใจญาติผู้ที่หายไปทั้ง 13 คน พร้อมอำนวยการในการค้นหาครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาว่า เหนือถ้ำพบโพรงหลายจุด แต่มีจุดหนึ่งที่น่าจะโรยตัวลงไปได้ แต่อยู่บนหน้าผาและลมแรง จึงขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอล์กและ MI-17
เช่นเดียวกับนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งมาติดตามสถานการณ์ที่นี่ ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวที่เคยไปเที่ยวในถ้ำหลวงและถ่ายภาพไว้ ส่งภาพมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เห็นสภาพถ้ำที่ชัดเจนขึ้นด้วย
ขณะที่บรรดาญาติของผู้ที่หายไปทั้ง 13 ยังคงเฝ้ารอคอยด้วยความหวังมาเป็นคืนที่ 4 แล้ว โดยทำพิธีขอขมาและบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณถ้ำเพื่อขอให้ทั้งหมดปลอดภัย
ในจำนวนเด็กทั้ง 12 คน และโค้ชอีก 1 คน มีเด็กอยู่คนหนึ่งที่เตรียมจะฉลองวันเกิดครบรอบ 13 ปี ในวันที่หายไปในถ้ำ จนถึงขณะนี้แม่และครอบครัวยังรอการกลับมาเพื่อฉลองวันเกิด และหวังเขาจะปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย